www.VlovePeugeot.com - Please Ctrl+D Bookmark Now!

VlovePeugeot.com Webboard


บทความเกี่ยวกับเรื่อง LPG และ NGV


ไปเจอบทความเกี่ยวกับเรื่อง LPG และ NGV โดยคุณ XChao
จาก http://www.cefiro-ff-club.com/webboard/viewtopic.php?p=21086
เลยขอเอามาแนะนำที่นี่ครับ
โดยคุณ : from www.cefiro-ff-club.com - นัท305 ICQ : - [ 17 ต.ค. 2005 , 09:03:44 น. ]

ตอบ คนที่ 1
ไขข้อข้องใจ หลักการทำงานและระบบแก๊ส ของ LPG ครับ

สำหรับ เรื่องที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องที่ ค้นคว้า และอ่านมา อ้างอิงจากเว็บต่างๆ ผมพยายามจะเอาที่เป็นของไทยเป็นหลักนะครับ ถ้าหาไม่ได้ ก็จะอิงต่างประเทศ

เริ่มจากที่นี่ก่อนเลย เป็นบทความที่ยาว แต่ว่าดีมากนะครับ ของ "สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ" ครับ

http://www.eppo.go.th/vrs/VRS49-02-NGV.html

ซึ่งในบทความดังกล่าว ผมขอยกประเด็นสำคัญนะครับ

ในหัวข้อที่ 2

NGV หรือว่า ก๊าซธรรมชาติ
เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซมีเทน (Methane) เป็น ส่วนใหญ่ น้ำหนักเบากว่าอากาศ มีค่าออกเทนสูงถึง 120 RON


LPG หรือว่า ก๊าซปิโตรเลียมเหลว
เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซโพรเพน (Propane) เป็น ส่วนใหญ่ น้ำหนัก หนักกว่าอากาศ มีค่าออกเทนสูงถึง 105 RON

ในหัวข้อที่ 3

"จากการทดสอบปริมาณการปล่อยมลสารจากไอเสียของเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงอื่นเปรียบเทียบกับ ก๊าซธรรมชาติของ Research and Development Institute Saibu Gas Co., Ltd. พบว่า รถ NGV ปล่อยก๊าซ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน ไนโตรเจนออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ น้อยกว่ารถที่ใช้น้ำมันเบนซิน โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์เพียง 300 ส่วนในล้านส่วน 4/ ในขณะที่รถเบนซินมีการปล่อยสูงถึง 1,400 ส่วนในล้านส่วน อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับรถที่ใช้ LPG แล้ว รถ NGV จะปล่อยก๊าซ ไฮโดรคาร์บอนมากกว่ารถ LPG เล็กน้อย "

ส่วนอื่นๆ แนะนำให้อ่านต่อในบทความนะครับ
โดยคุณ : . [ 17 ต.ค. 2005 , 09:04:32 น.]

ตอบ คนที่ 2
เรื่องของน้ำหนักแก๊ส กับการปรับราคาการขายของก๊าซหุงต้ม หรือว่า LPG นั้น

ต้องบอกก่อนครับ ราคาที่รัฐบาล แบกอยู่นั้น เป็นราคาต่อ กิโลกรัมครับ

น้ำหนักของ แก๊ส LPG 1 กิโลนั้น มีปริมาตร ประมาณ 1.85 ลิตร ครับ
คิดกลับกัน คือ LPG 1 ลิตร มีน้ำหนักราว 0.55 กิโลกรัม ครับ

ดังนั้น ถ้ารัฐบาลขึ้น ราคาแก๊ส จริง กิโลละ 2 บาท
แก๊สก็จะขึ้นราคา ต่อลิตรที่ราว 1.08 บาท ครับ

มีผลทำให้ราคาขายต่อลิตรที่หน้าปั๊มเพิ่มเป็น 10.25-11.50 บาทแล้วแต่บริเวณครับ

ที่มาของสูตร น้ำหนัก และ ปริมาตรแก๊ส LPG

http://www.auto.sk/lpg/index.php?page=ekonomika
http://www.indiacar.com/index2.asp?pagename=http://www.indiacar.com/messageboard/reply.asp?msg_id=17883

ส่วนบทความเพิ่มเติม ของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ

เรื่อง "แนวทางการแก้ไขปัญหาราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซ LPG) และหนี้สินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง"

http://www.eppo.go.th/vrs/VRS54-07-lpg.html

เรื่อง "การปรับโครงสร้าง"ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)"

http://www.eppo.go.th/vrs/VRS41-02-LPG-struc.html

เอาไว้ว่างๆ จะมา Update เรื่องของระบบ Fixed Mixer กับ หัวฉีดอีกทีแล้วกัน
โดยคุณ : .. [ 17 ต.ค. 2005 , 09:05:02 น.]

ตอบ คนที่ 3
ก๊าซ LPG ในระบบ Fixed Mixer หรือที่เรียกว่า แบบเก่า แบบท่อร่วมไอดี แบบ Taxi อะไรก็แล้วแต่จะเรียกครับ

เอาละ โดยรวมแล้ว ระบบแบบนี้ จะมีหลักการทำงานดังต่อไปนี้ ดูที่รูปประกอบนะครับ

1. ถังบรรจุก๊าซ
จะมี 2 แบบ คือแบบถังทรงกระบอก และแบบถังโดนัท (เช่นในรูป) ถังแบบกระบอกไม่อธิบายมาก ไปแบบโดนัทครับ แบบนี้ใส่แทนในช่องยางอะไหล่ครับ ใครอยากได้แบบนี้หมดสิทธิ เพราะว่าเมืองไทยไม่อนุญาติครับ

ที่ถัง จะมีส่วนประกอบต่างๆ
- วาล์ว เติมแก๊สเข้า (จะมีวาล์วกันกลับ เพื่อป้องกันแก๊สใหลออกครับ)
- วาล์ว จ่ายแก๊สออก (จะไม่มีวาล์วกันกลับ เพราะว่าต้องใหลออกอย่างเดียว)
- Meter วัดระดับแก๊ส (เป็นลูกลอยต่อมาที่เข็ม และแบบที่เป็นช่องตาแมวไว้ดู)

โดยทั่วไปแล้ว ถังที่ใช้ในบ้านเราส่วนใหญ่ จะเป็นถังมือสองซะครึ่ง (ส่วนมากใช้กับ Taxi) และถังใหม่ ผลิตในประเทศ เท่าที่รู้ มี 2 เจ้าคือ ชื่นศิริ และ สหมิตร ครับ ทั้งคู่ได้ มอก. แล้ว

เรื่องระบบ วาล์ว ที่ถังแก๊สบ้างครับ
หลักๆ จะมี 2 แบบเช่นกัน คือ วาล์ว แบบมือหมุน และวาล์วไฟฟ้า (เรียกอีกอย่างว่า MultiValue)
เป็นที่ถกเถียงกันหลายห้องแล้ว ว่าแบบใหนปลอดภัยกว่ากัน อธิบายให้อ่านแล้วกัน

แบบวาล์ว มือหมุน เป็นวาล์วแบบเก่า มีมาเนิ่นนาน ทนทาน ราคาถูก

ถ้าดูที่รูปจะเห็นว่า มีวาล์ว 2 อัน อันแรกเป็นวาล์วสำหรับเติมแก๊สครับ จะมีวาล์วกันกลับอยู่ภายใน ไม่ให้แก๊สใหลย้อนกลับเมือไม่ได้เติมแก๊ส (โดยทั่วไปแล้วเค้าจะแนะนำให้หมุนเปิดเมื่อเติมและหมุนปิดเมื่อเติมเสร็จ แต่ส่วนมากมักจะเปิดทิ้งไว้เพื่อความสะดวก)

ส่วนตรงกลางจะเป็น เกจ์ วัดระดับแก๊ส จะมีกลไกแยกจากวงจรไฟฟ้าภายนอก โดยใช้หลักการแม่เหล็ก คือกลไกไปขยับแม่เหล็กภายใน ให้ แม่เหล็กภายนอกขยับตาม เพื่อขยับเข็ม และวงจรไฟฟ้าแจ้งระดับแก๊สที่หน้าปัทม์ ส่วนมากเหมือนกันหมดทุกเจ้า

สุดท้ายขวามือ เป็นวาล์ว ให้แก๊สใหลออก ไปที่หม้อต้ม หรือว่า Regulater อันนี้เราต้องเปิดไว้ตลอดเวลา เมื่อต้องการใช้แก๊ส และควรปิดเมื่อเลิกใช้ (แต่ส่วนมากอีก ก็จะเปิดทิ้งไว้ และจะปิดเมื่อไม่ได้ใช้นานๆเท่านั้น) ส่วนนี้ไม่มีวาล์วกันกลับครับ เป็นข้อแตกต่างกับมัลติวาล์ว ที่ผมจะเล่าต่อ

แบบวาล์ว มัลติวาล์ว เป็นวาล์วแบบไฟฟ้า ราคาค่อนข้างสูง

หลักการเหมือนกันครับ คือมืช่องเติม อันนี้จะไม่มีวาล์วแบบมือหมุน แต่ว่าจะมีวาล์วกันกลับแบบแรงดันสูงแทน คือต้องใช้แรงดันแก๊สที่มากกว่าปกติในการเติมครับ (ผมว่าก็ยังไม่ปลอดภัยนักในตรงนี้)

ช่องมองก็เหมือนกัน ระบบแม่เหล็ก กลไกภายใน

ส่วนที่ต่างคือวาล์วออกครับ ในส่วนนี้จะมีโซลินอยด์วาล์ว แบบกลไกภายใน คือในตัววาล์วจะมีแกนเหล็กกับสปริงเท่านั้น ส่วนตัวสร้างสนามแม่เหล็กเพื่อดึงแกนเหล็กของวาล์วจะอยู่ภายนอกถังครับ (ที่เห็นเป็นสีน้ำเงินนั่นแหละครับ) โดยตัววาล์วจะเปิดเมื่อได้รับการจ่ายไฟฟ้ามา ซึ่งต้องมี Sensor ตรวจสอบและบอกให้มันทำงานครับ และมีวาล์วแบบหมุนอีกอันคอยคุมในกรณีที่ไม่ได้ใช้แก๊สนานๆเช่นกัน

ที่ดูจะปลอดภัยกว่าก็ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วแก๊สที่จ่ายรั่ว ทำให้เซ็นเซอร์ ตรวจจับแรงดันในท่อหรือที่อื่นๆ แจ้งและตัดไฟที่วาล์วไม่ให้จ่ายแก๊สครับ แต่ถ้ามันไม่รู้ก็จบเหมือนกันจ่ายแก๊สอยู่ดี ต้องหมุนปิดเอา

สรุปคือดีกว่าหนึ่งข้อแล้วล่ะ


ทีนี้ ที่อยากเพิ่มเติมคือเรื่องฝาปิด วาล์ว ที่เห็นในรูปเป็นพลาสติก ถ้าเป็นมือหมุนจะเป็นฝาอลูมิเนียม ซีลด้วยยาง มีประโยชน์ ในกรณีที่ตัววาล์ว เกิดรั่ว แก๊สที่ออกมาจะถูกปล่อยออกไปนอกรถ ซึ่งเราจะต่อท่ออากาศที่ฝาครอบออกไปนอกรถ เพื่อไม่ให้แก๊สที่รั่วไปรมคนขับจนมีนไปเสียก่อนครับ ดังนั้น ต้องปิดให้แน่นหนาทุกครั้งนะครับ


อีกเรื่องคือ การเติมแก๊ส ควรเติมเพียง 80 % ของปริมาตรความจุถังเท่านั้น ไม่ควรเติมเต็มความจุนะครับ เพราะว่าถ้าหากเราเติมเต็ม แล้วจอดไว้ แก๊สมันจะมีการขยายตัว เมื่อเจอความร้อน ในกรณีที่เราตากแดดนานๆ จึงต้องเหลือพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัยครับ


ส่วนเรื่องของความปลอดภัยของถังนั้นหายห่วงครับ เนื่องจาก LPG เป็นก๊าซความดันต่ำ ราว 1-1.1 bar ซึ่งถังนั้นถูกออกแบบมาให้รับกับแรงดันมากกว่า 2-3 เท่าตัวอยู่แล้ว ยิ่งเป็นถังติดรถยนต์แล้วด้วย ในต่างประเทศมีการทดสอบโดยการให้รถวิ่งชนถังจนยุบ แต่แก๊สก็ไม่รั่วแต่อย่างใดครับ แข็งแรงกว่าถังแก๊สหุงต้มที่บ้านแน่นอน

นี่แค่เรื่องของถังเท่านั้นนะครับเนี่ย ยาวมากเลย พิมพ์จนเมื่อย
โดยคุณ : ... [ 17 ต.ค. 2005 , 09:06:04 น.]

ตอบ คนที่ 4
นี่คือวาล์วแบบมัลติวาล์ว
โดยคุณ : .... [ 17 ต.ค. 2005 , 09:06:40 น.]

ตอบ คนที่ 5


มัลติวาล์ว
โดยคุณ : ..... - นัท305 [ 17 ต.ค. 2005 , 09:07:33 น.]

ตอบ คนที่ 6


อันนี้วาล์ว ที่ใช้แบบมือหมุน
โดยคุณ : ...... - นัท305 [ 17 ต.ค. 2005 , 09:08:14 น.]

ตอบ คนที่ 7


รูปนี้ แสดงแผนผังนะครับ
โดยคุณ : ....... - นัท305 [ 17 ต.ค. 2005 , 09:09:01 น.]

ตอบ คนที่ 8
เอาละมาว่ากันเรื่องที่ 2 บ้าง

2. ท่อทางเดินแก๊ส

ท่อทางเดินแก๊ส จะมี 2 ท่อ คือ ท่อเติม และท่อจ่ายครับ โดยมากจะใช้เป็นท่อทองแดง แล้วหุ้มด้วยท่อยาง (บางร้านขี้เกียจก็ไม่หุ้ม) สิ่งสำคัญคือจุดเชื่อมต่อ ที่ถังจะจุดอื่นๆครับ เนื่องจากหลังจากติดตั้งเสร็จ จะมีการปั๊มลมเข้าไปเพื่อดูว่ารั่วเหรอเปล่า

คุณสมบัติของท่อทองแดงที่ดี คืออ่อนและเหนียว บิดตัวได้ ไม่ใช้ แข็งและแกร่งนะครับ เพราะว่าถ้าแข็งมากเวลากระทบ กระแทก แทนที่จะยุบจะกลายเป็นแตกเอา

ถ้าเป็นของ CNGAuto ชื่นศิริ และระบบหัวฉีดอื่นๆ โดยมากสายท่อทองแดงจะแถมมาให้ในชุดติดตั้ง แต่ถ้าเป็นระบบไทยทำก็จะเป็นท่อทองแดงไทย แล้วร้อยใส่ท่อยางครับ

เท่าที่ได้ผ่านตามา ท่อที่มาในชุดจะมีคุณสมบัติ เหนียวและบิดตัวได้ง่ายกว่า ท่อในไทยมากครับ อันนี้ ต้องพิจารณากันหน่อย แต่ส่วนใหญ่แล้ว ท่อไทย ท่อนอก ก็อยู่ที่การวางท่อ แนวท่อและการติดตั้งเป็นหลักครับ
โดยคุณ : ........ [ 17 ต.ค. 2005 , 09:09:28 น.]

ตอบ คนที่ 9
หมายเลข 3. บ้างครับ

3. สวิทซ์การทำงาน และเกจ์วัดระดับแก๊ส

ส่วนนี้ จะเป็นสวิทซ์ เปิด ปิด หรือว่าสลับการใช้งานระหว่างแก๊สกับน้ำมันครับ และรวมไปถึงเกจ์วัดระดับแก๊สด้วย แล้วแต่เป็นสวิทซ์โยก หรือว่ากด

หมายเลข 4. ครับ

4. ECU หรือว่ากล่องควบคุมการทำงานของระบบแก๊ส

ถ้าเป็นที่เมืองนอก จะมี ECU คอยควบคุมปริมาณการจ่ายแก๊สให้เหมาะกับรอบของเครื่องยนต์ครับ ตัดการทำงานของปั๊มหัวฉีด หรือปั๊มติ๊กดูดน้ำมันเชื้อเพลิง และทำงานร่วมกับ ECU ของระบบเครื่องยนต์เดิมครับ

โดยหลักการทั่วไปในการทำงานคือ
1. จะเริ่ม สตาร์ทเครื่องด้วยน้ำมัน
2. เมื่ออุณหภูมิเครื่อง ได้ที่จะตัดเข้าสู่ระบบแก๊ส
3. จะเริ่มจ่ายแก๊สทันที เมื่อรอบเครื่องอยู่ในภาวะการเร่งเครื่องยนต์ (เพื่อไม่ให้รอบเครื่องสะดุด)
4. ตรวจสอบแรงดันในท่อจ่ายแก๊ส (ถ้าแรงดันต่ำไป หรือแก๊สหมดจะสลับมาเป็นน้ำมัน)
5. ปรับการจ่ายแก๊สให้เหมาะสมตามโหลด และรอบของเครื่องยนต์

แต่สำหรับเมืองไทย ส่วนนี้ตัดทิ้งได้เลย ไม่มีครับ ก็มีหลายสำนัก ทำส่วนเพิ่มเติมเพื่อเลียนที่กล่องทำก็มีแค่ กล่องหลอกหัวฉีดและตัดปั๊มติ๊ก ส่วนอื่นๆ ผมยังไม่เห็นมีใครทำครับ
โดยคุณ : ......... [ 17 ต.ค. 2005 , 09:09:48 น.]

ตอบ คนที่ 11
หมายเลข 5. บ้างครับ

5. แก๊ส มิกเซอร์ หรือหัวฉีดแก๊ส

ในรูปเป็นแบบ Fixed Mixer ครับ คือจะมี Adapter สวมเข้าที่ท่อร่วมไอดี หลังจากกรองอากาศแล้ว อากาศที่ผ่านท่อร่วมนี้ จะโดนผสมกับแก๊สที่ถูกจ่ายเข้ามา แล้วใหลเข้าสู่เครื่องยนต์จุดระเบิดต่อไป (เป็นเหมือนระบบคาร์บูเรเตอร์)

ระบบนี้ใช้ได้ดี กับเครื่องยนต์ที่ไม่ซํบซ้อน ติดตั้งได้ง่ายและราคาถูกครับ แต่ถ้าเครื่องยนต์ ที่มีวาล์ว แปรผัน หรือว่าแต่ละสูบของเครื่องยนต์ไกลมากๆ จะมีปัญหาได้ เพราะถ้าสูบที่อยู่ไกล คือห่างจาก Mixer มากที่สุดมักจะได้ปริมาณแก๊สที่น้อย ทำให้เกิดการชิงจุด หรือไมมีแรงได้ ปัจจัยหลัก ของระบบนี้จึงอยู่ที่ Mixer ว่าจะออกแบบให้แก๊สผสมกับอากาศได้อย่างเข้ากันได้ดีที่สุดอย่างไร เพื่อให้ปริมาณแก๊ส สูบแรก และสูบสุดท้ายสม่ำเสมอกัน

ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นปัญหามากกับเครื่อง VQ ของ Cefiro ที่เราใช้ๆกัน หลายต่อหลายสำนักพากันเข็ดหลาบไม่กล้าติด Fixed Mixer กับเครื่องรุ่นนี้ เท่าที่เห็นก็มีของสำนัก ชัยหมากกระจาย แห่งห้อง jeepunityclub ที่ติดได้สำเร็จ เพราะว่า Mixer ของแกไม่เหมือนของใคร ให้การผสมแก๊สได้เป็นอย่างดีครับ



ส่วนอีกระบบที่หลายคนรู้จักดี ในนามของหัวฉีด
เนื่องจากว่าแทนที่จะเอาแก๊สไปผสมที่ท่อร่วมไอดี แล้วแต่เวรแต่กรรมว่าสูบใหนได้แก๊สมากน้อยและผสมดีหรือไม่ ก็ทำเป็นหัวจ่ายเข้าที่แต่ละสูบเลย โดยที่ท่อแก๊สจะแบ่งด้วยตัวควบคุมตามจำนวนสูบ (ดูตัวอย่างที่รูป ที่เห็นเป็นเขียวๆนะครับ) กล่องควบคุมก็จะสั่งให้วาล์วแก๊สเปิดปิดการจ่ายแก๊ส ตามความสัมพันธ์ของหัวฉีดน้ำมัน โดยการดักสัญญาณมา ซึ่งแก๊สที่จ่ายเข้าไปจะอยู่เหนือวาล์วไอดี เข้าไปที่ห้องเผาใหม้โดยตรง

ระบบหัวฉีด ก็จะมีข้อดีคือ ไม่ต้องวุ่นวายกับปาก Mixer ปรับแต่งทุกอย่างจากคอมพิวเตอร์ อัตราการจ่ายแก๊สแม่นยำ แน่นอน แรงม้าที่หายไปน้อยกว่า Mixer ใช้กับระบบเครื่องต่างๆได้เกือบทุกประเภท แต่ข้อเสียคือราคาแพงกว่าเยอะครับ
โดยคุณ : .......... [ 17 ต.ค. 2005 , 09:11:58 น.]

ตอบ คนที่ 12
หมายเลข 6. บ้างครับ

6. Regulator หรือบ้านเราเรียกว่าหม้อต้ม

จริงๆแล้ว มันคือตัวปรับความดัน และควบคุมความดันของแก๊สที่จ่ายนั่นเองครับ แต่ที่เรียกว่าหม้อต้มเพราะว่า หลักการทำงานของมันครับ อ่านดูแล้วก็จะเข้าใจเอง

การทำงานคือหม้อต้มหรือว่า Regulator จะอาศํยน้ำร้อนจากท่อน้ำของเครื่องยนต์เข้ามาต้ม หรือว่าหล่อเลี้ยงให้ความร้อนที่ได้ ทำให้ก๊าซที่เป็นของเหลว เป็นแก๊สที่เป็นอากาศ ก่อนที่จะส่งเข้าไปที่ตัว Mixer ครับ

ในความเป็นจริงแล้ว ก๊าซที่เป็นของเหลว สามารถกลายเป็นแก๊สที่เป็นอากาศได้อยู่แล้ว แต่ในสภาวะที่อากาศเย็นมาก จึงต้องการความร้อนเพื่อเร่งปฏิกริยาในการเปลี่ยนเป็นแก๊สครับ

หม้อต้ม ก็จะมีหม้อเล็ก หม้อใหญ่ ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ แรงดัน หรือว่าปริมาณ ที่หม้อใบนั้นสามารถจ่ายได้สูงสุด ถ้าหม้อเล็ก ก็เหมาะกับเครื่อง ซีซีน้อย ถ้าหม้อใหญ่ ก็ต้องใช้กับเครื่อง ซีซี สูงๆ

ทีนี้ ที่หม้อต้มนี้ จะมีวาล์ว ในการควบคุมแรงดันของแก๊สที่จะจ่ายออกไปที่ Mixer ว่าจะมีมากน้อยเพียงใด ถ้ามี ECU ตัว ECU จะเป็นตัวควบคุมวาล์วดังกล่าวครับ

แต่ถ้าเป็นในบ้านเราที่ไม่มี ECU ก็จะปรับค่าแรงดันของวาล์วไว้ที่ระดับๆ หนึ่งเป็นค่าคงที่ (ส่วนมากปรับด้วนสกรู และไขควง) แล้วแต่ว่าต้องการความแรงมากน้อยขนาดใหน

ถ้าปรับให้จ่ายแก๊สคงที่ไว้มาก รอบต้นๆจะอืดเนื่องจากแก๊สเผาใหม้ไม่สมบูรณ์ ในบางครั้งมีกลิ่นออกทางท่อไอเสียด้วย แต่ว่าถ้าวิ่งทางไกล หรือว่าใช้รอบสูง รถจะวิ่งได้ดี (เหมาะกับขับทางไกล)

ตรงกันข้าม ถ้าปรับแก๊สให้จ่ายคงที่ไว้น้อย รอบต้นๆ ก็จะวิ่งได้ดี แต่รอบปลายจะไม่มีแรง (Taxi ในกรุงเทพนิยมปรับแบบนี้เพราะวิ่งในเมืองเป็นส่วนมาก)

จากที่ได้อธิบายมา ต่อไปก็เรียกว่า Regulator ดีกว่ามั๊ย เรียกหม้อต้ม แรกๆ ผมเองก็งง ไมเรียกหม้อต้มนะ
โดยคุณ : ............ [ 17 ต.ค. 2005 , 09:12:36 น.]

ตอบ คนที่ 13
หมายเลข 7. บ้างครับ

7. โซลินอยด์ เปิดปิดแก๊ส

ตรงส่วนนี้ ไม่ต้องพูดถึงระบบ นำเข้าอย่างหัวฉีดมีอยู่แล้ว

ส่วนระบบ ที่บ้านเราใช้ ต้องบอกว่าบางสำนักมี บางสำนักไม่มีครับ แล้วแต่กรณีเลย หรือไม่ก็ติดอยู่ที่หม้อต้มเลยครับ เป็นโซลินอยด์วาล์ว เหมือนกับที่ติดอยู่ที่ถังนั่นแหละครับ (ใครอ่านมถึงตรงนี้ น่าจะนึกออกว่า บางคนเข้าใจผิดๆว่าถ้ามีไฟฟ้าไปที่ถังแล้วอันตราย ถ้าเข้าใจอย่างนั้น ที่หม้อต้มแบบนี้ก็อันตรายนะครับ อิ อิ) โซลินอยด์นี้มีไว้เพื่อเปิดปิดการจ่ายแก๊ส อีกขั้นตอนหนึ่ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ไม่ให้แก๊สรั่วในกรณีที่หม้อต้มเองมีปัญหาครับ

ดังนั้น ก่อนติด แวะดูซักนิดว่า มีโซลินอยด์ตัดแก๊สเหรอเปล่า ถ้ามี มีอยู่ที่ใหน
โดยคุณ : ............. [ 17 ต.ค. 2005 , 09:12:54 น.]

ตอบ คนที่ 14
เอาละครับ พิมพ์มาก็ยืดยาว ตั้งแต่ สองทุ่ม ยัน ห้าทุ่มครึ่ง


ข้อมูลที่ผมเอามาให้ทุกคนได้อ่านล้วนแล้วเกิดจากการอ่าน และหาข้อมูล ในเว็บ กับเพื่อนที่ทำ LPG อุตสาหกรรม ข้อมูลจากพี่ๆ ที่ได้พบปะกันมา และประสบการณ์จากตัวผมเอง

หากว่าข้อมูลใดผิดผลาด ไป ผมขอโทษด้วยนะครับ หรือว่าจะแย้งอะไรก็ได้เลยนะครับ

ผมหวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่คิดจะติด LPG อยู่แล้วว่าจะติดดีหรือไม่

ผมบอกได้เลยครับว่า ถ้าคิดจะติดแล้ว ติดเลยครับ ยิ่งรอนานจุดคุ้มทุนที่จะได้ก็ยืดออกไป และต้องเอาเงินไปเสียค่าน้ำมันอยู่อย่างนั้น

ส่วนตัดสินใจได้แล้วว่าจะติด ก็น่าจะเห็นข้อดี ข้อเสีย ของระบบทั้ง Fixed Mixer และ ระบบหัวฉีดแล้วนะครับ ส่วนใครจะไปติดอย่างไร ที่ใหน อย่าถามผมเลย ผมไม่แนะนำซักที่หรอก เอาเป็นว่าพี่ๆ น้องๆ ไปติดต่อคุยกันเองแล้วกันครับ

สุดท้ายนี้ จะบอกว่าข้อเสียอย่างใหญ่หลวงหลังจากติดแก๊สมา คือเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เรียกผมว่าไอ้รถแก๊สกันหมดแล้ว เสียภาพพจน์นิดหน่อย แต่เงินในกระเป๋าเหลือไว้ซ่อม กับ แต่งนิดๆหน่อยๆ สบายใจไม่ต้องกังวลกับราคาน้ำมันครับ

เมื่อยมากล่ะขอตัวไปนอนดีกว่า

[by XChao www.cefiro-ff-club.com]
โดยคุณ : .............. [ 17 ต.ค. 2005 , 09:14:30 น.]

ตอบ คนที่ 15


นี่เป็นหม้อต้มของ ชัยหมากกระจายครับ โซลินอยด์อยู่ข้างล่างหม้อกลมๆ สีส้มๆ
โดยคุณ : ............... - นัท305 [ 17 ต.ค. 2005 , 09:16:27 น.]

ตอบ คนที่ 16


หม้อต้ม รุ่นนี้ ไม่แนะนำให้ใช้นะครับ ของไทยทำ ปรับยาก จูนก็ยาก และ ต้มช้าครับ
โดยคุณ : ................ (555) - นัท305 [ 17 ต.ค. 2005 , 09:18:04 น.]

ตอบ คนที่ 18
ผมชอบตรงหม้อต้มรุ่นนี้จัง มีอารมณ์ขันดีจริงๆ เห็นบรรยายว่ารุ่นนี้จูนไม่ดี ต้มก็ช้า เห็นจะจริง 55555

ที่ผมยังไม่ติดก็อยู่ตรงที่คำตอบที่ 9 ยังหาระบบที่ติดแล้วสั่งงาน ECU แบบนี้ได้เลย คนที่ไปติดมากับระบบหัวฉีดเช่น GRI SRI ซึ่งร้านทำแค่ตัดระบบปั้มติ๊ก ไม่ให้น้ำมันส่งเข้ามา บางคนก็ทำกล่องอีเลคโทรนิดไปหลอก ECU ไม่ให้สั่งงานหัวฉีด ปรากฏว่าเจอมา 2 คันแล้วกล่องเสียไปเลยไม่สามารถกลับไปติดเครื่องด้วยน้ำมันได้ ขอรอดูก่อนว่าจะมีที่ไหนทำแบบคำตอบที่ 9 ได้
โดยคุณ : เฮง - เฮง [ 17 ต.ค. 2005 , 09:27:46 น.]

ตอบ คนที่ 20
ขออภัยครับ คำตอบที่ 5 ลงรูปผิด
โดยคุณ : ... - นัท305 [ 17 ต.ค. 2005 , 09:49:21 น.]



Ending By Admin!!!