หลังจากไปโชว์ตัวครั้งที่แล้ว และไปชน(รถ)สาวมา
ก็เอารถไปซ่อมเบรก/เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง-เกียร์
รถวิ่งฉิวเลยครับ เหยียบได้ 150 สบาย (เดิมไม่เคยเกิน 120)

แต่รู้สึกช่วงหลังๆ จะกินแก๊สเยอะไปหน่อย
แรกๆ ได้ประมาณ 7.5 กม./ลิตร
แต่ตอนนี้เหลือ 6 กว่าๆ ลองให้ข่างจูนใหม่ก็ได้ซัก 6.5

เวลาเปิดแอร์รอบอยู่ที่ 950 แต่ปิดแอร์ 1500
ช่างบอกว่ารถผมไม่มีแวคคัมแอร์ ทำให้จูนไม่ได้
แต่ส่วนมากผมก็เปิดแอร์ตลอด หรือว่าผมควรจะแก้ให้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน

อยากทราบว่าผมควรจะปรับจูนแก๊สและคาบิวอย่างไรครับ
สามารถปรับคลายไดอะแฟรมที่หม้อต้มเพื่อให้จ่ายแก๊สน้อยลงได้เลยไหม

คืออยากได้ใกล้ๆ 1 บาท/กม.น่ะครับ หรือผมโลภมากไปเนี่ย...

ICQ :

หรือจะเป็นเพราะเจ้าคาบิวตัวนี้
(รู้สึกจะต่อสายไว้แปลกๆ)
พรุ่งนี้จะลองแวะไปอู่อาดูครับ

กลับไปหาอาเลยครับ แล้วที่ไปปรับแต่งมาที่ร้านติดตั้ง lpg ใช่เปล่า แล้วปรับยังไงรอบเดินเบาตั้ง 1500 ไปหาอาดีกว่า....กินนะ 6 กม/ลิตร ของพี่ยังอยู่ที่ 10-12กม/ลิตร เจอรถติดแบบ 5 นาที 100 เมตร ก็ ประมาณ 5-6 กม./ลิตร ครับ
ลองปรับแบบที่คุณแอ้มเขาโพสไว้ใน JUI
-ติดเครื่องยนต์เร่งเครื่องให้ได้ 3500-4000 รอบ หมุนตัวปรับกลางสายเข้าไปเรื่อยๆ จนเครื่องยนต์มีการสดุดก็ให้คลายตัวปรับกางสายออกจนเครื่องเดินเป็นปกติ เขาบอกว่าจุดนี้สมบูรณ์ในการใช้งานมากที่สุด ไม่จ่ายบาง-หนาไป

เรื่องกินแก๊สนี่ผมจะไม่พยายามเทียบกับรถคนอื่นนะครับ เพราะ 90% ของรถที่ติดแก๊สเป็นรถเก่าครับมันไม่สมบูรณ์เหมือนรถใหม่ทำให้ตัวแปรของแต่ละคันมีมากกว่าที่จะมองกันแค่ C.C. หรือเกียร์ว่าเป็นออโต้หรือธรรมดา ผมดูแค่ว่าก่อนติดแก๊สผมต้องเสียเงินค่าน้ำมันเท่าไหร่ ติดแก๊สแล้วเหลือเท่าไหร่ถ้ามันต่ำกว่าครึ่งผมก็ happy แล้วครับ ยิ่งจะเอาแค่โลละบาท หรือไม่ถึงบาทเหมือนรถญี่ปุ่นนี่หมดสิทธิครับ เพราะรถพวกนั้นตอนใช้น้ำมันเค้าก็วิ่งได้ 14-15 ก.ม./ล. ในเมืองอยู่แล้วครับ ของเราได้ 10 ก็ดีใจหลายๆแล้วครับ

อีกอย่างถ้าคิดจะจูนให้ประหยัดอย่างเดียวโดยมีความสุขกับตัวเลขไม่กี่สตางค์ต่อกิโลแต่ต้องแลกกับหลายๆอย่างมันจะคุ้มกันหรือเปล่าครับทั้งลีนเบิร์น ทั้งแบ็กไฟร์ (อันนี้จำเขามาว่าเกิดจากส่วนผสมบางไป) ลองคำนวณดูดีๆครับว่าเดือนนึงจะได้คืนมาสักกี่สิบบาท

เป็นไงบ้างครับคุณนัท ได้ข่าวว่าคุณแอ้มจูนให้แล้ว(ผมเดาเอาว่าน่าจะเป็น 305ของคุณนัท) ดีขึ้นมั๊ยครับ รอฟังข่าวดีอยู่ครับ

ขอ copy มาจากที่ post ไว้ในบอร์ด LPG นะครับ
==========

กรณีของผม รถวิ่งดี ทั้งออกตัวและteenปลาย วิ่งได้ 160 กม./ชม สบาย (สำหรับรถเครื่องอายุ 20 ปี ไม่เคย overhall)
แต่ปัญหาคือกินแก๊สมากไปหน่อย (เครื่อง 1,600 กิน 6 กม./ลิตร) จูนมาหลายที่ก็ไม่หาย
พอพี่แอ้มเปิดดู mixture ก็ร้องอ๋อเลย เพราะเจอน้อตตัวเบ้อเร่อ กับฐานยึดที่ครอบคาบิว ขวางทางเดินอากาศอยู่
แทนที่จะต้องเปลี่ยน mixture ให้รูกว้างขึ้น ก็จัดการเอาเจ้าสองตัวนั้นออกซะ โล่งขึ้นเยอะ

ทีนี้มาดูที่หม้อต้ม (Atiker) พบว่า ตัวจูนเดินเบา (ทองเหลือง) ถูกปิดไว้จนสุด แต่ก็ยังเดินเบาได้ ไม่ดับ
เพราะแรงดูดจาก mixture มาก แต่อากาศที่ผ่านทางหม้อกรองอากาศไม่พอ
(เพราะตอนจูนแบบเปิดฝา mixture ก็พอได้ แต่พอครอบฝาลงไปก็ดับทันที
ต้องคลายทั้งตัวจูนเดินเบา, จ่ายแก๊ส และกลางสายมากๆ)
มันเลยไปดูดมาจากทางท่อแก๊สแทน ก็กินแก๊สสิครับที่นี้
พี่แอ้มก็แนะนำให้กลับไปดูเรื่องกรองอากาศก่อน (ซึ่งผมก็เพิ่งเปลี่ยนมาได้อาทิตย์เดียวเอง)
ตอนนี้กำลังสนในกรองเปลือย คุยกับคนที่ใช้เปอโยต์บางท่าน
เขาก็ว่าทางเดินอากาศของเปอโยต์ทั้ง 305-405-505 เล็กไปหน่อย

สาเหตุอีกประการคือคาบิวผมถูกช่างแก๊สปรับจนเละ ผมก็ไม่ถนัดคาบิวตัวนี้ (เป็นของ e-car)
ทำให้ไม่ว่าจะปรับแก๊สอย่างไร ก็จูนเดินเบาไม่ลง รอบอยู่ที่ 1,500
เลยกลับไปอู่ที่ติดตั้งให้ เขาก็จูน (โหมดน้ำมัน) จนมันนิ่งอยู่ที่ประมาณ 900
หลังจากนั้นพอสตาร์ทเป็นแก๊ส รอบก็นิ่งเช่นกัน ทีนี้ก็จูนแก๊สสบายแล้ว

ตอนนี้ผลที่ได้ ค่อนข้างพอใจ เพราะรอบนิ่งกว่าเดิม ส่วนอัตราสิ้นเปลือง คาดว่าจะลดลงจากเดิมหน่อย

*มีคำถามนิดนึงครับ คือ ถ้าผมจะไม่ใส่กรองอากาศวิ่งเลยจะมีปัญหา (มาก) หรือเปล่า อยากลองเปรียบเทียบดู

**ถ้าอธิบายผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ เนื่องจากผมไม่มีพื้นฐานทางด้านเครื่องยนต์กลไกเลย เรียนสายศิลป์+econ ง่ะ ถ้าให้อธิบายกลไกตลาดพอได้...