Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  20X
Pages: 1
205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: Lucifer
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 15:57:59
ถึงจะขับ 405 GR ผมก็ยังมีใจให้ 205 GTi และหาข้อมูลอ่านไปเรื่อยเปื่อย แต่คงไม่หาซื้อมาขับเพราะราคาระยะหลังมันแรงงงง...เหลือเกิน
ไปอ่านเจอความเห็นอย่างยาวจากสำนักแต่ง Puma Race เลยแปลแบบงูๆ ปลาๆ มาให้อ่าน ตรงไหนผิดพลาดช่วยกันแก้ไขนะครับ
205 8 วาล์ว ตามความเห็นของสำนักแต่งพูม่าเรซ มองว่ามันแรงโดยชาติกำเนิด แรงกว่าเจ้า Golf GTi เสียอีก รวมถึงรถที่ออกมาในรุ่นราวคราวเดียวกัน
สำหรับ 205 GTi เรียกว่า แรงไม่ต้องแต่ง แรงจนพูดได้ว่า ไม่ง่ายถ้าจะแต่งให้แรงมากไปกว่านี้ เครื่อง 205 GTi หลายเครื่องที่โมดิฟายด์มาแล้ว กลับแรงน้อยกว่าเครื่องมาตรฐาน (คล้ายกับจะบอกว่าอยากแรงจริงต้องค่ายพูม่าของกรูแต่งเท่านั้น)

พวกเขา เอา 1.9 GTi ไปเปรียบมวยกับ Golf 8 วาล์ว เท่ากัน เปอโยต์มีขุมกำลังมากกว่าเห็นๆ เปอโยต์รุ่น 1.9 มีม้า 128 bhp เทียบกับ Golf 1.8 หรือ 2.0 ลิตรมีม้า 100/113 bhp

ประการแรกเป็นเพราะเปอโยต์มี ลูกสูบใหญ่กว่า (83 มม.) มันเลยเข้าขากันได้กับวาล์วไอดีที่ใหญ่กว่า (41.6 มม.) เทียบกับวาล์วไอดีของ Golf GTi ขนาด 40 มม. หน้าพอร์ตที่ใหญ่ขึ้นเรียกม้ามาเข้าฝูง 205 ได้ราว 10 bhp

205 GTi ยังได้รับคำชมอีกว่าออกระบบท่อไอเสียได้ยอดเยี่ยม มันช่วยให้อากาศไหลผ่านได้ดี และอย่าไปเสียเงินเสียทองกับท่อไอเสียแต่งแรงโม้สูงอีกเลย มันไม่มีทางแรงไปได้มากไปกว่านี้ หรือแรงขึ้นก็จิ๊บจ้อยเหลือเกิน และแนะนำว่า ถ้าท่อมันเก่าจนขึ้นสนิมผุพังไปตามกาลเวลา ไปหาซื้อชุดใหม่ของแท้ดีที่สุด
แคมชาร์ปของเปอโยต์ 205 ตัว 8 วาล์ว ออกแบบมาเพอร์เฟ็คแล้วอีกเช่นกัน ตัว 1.9 มาตราฐานมี 445 thou lift (แปลไม่ออก ช่วยหน่อย) สูงกว่าตัว 8 วาล์ว รุ่นอื่นที่มี 400 thou valve lift ถึงไปเอาแคมแต่งของ Piper หรือ Kent ได้เพิ่มมาอีก 30-40 thou ก็แทบไม่มีผล

สรุป เครื่องเปอโยต์มันเทียบชั้น Golf ตัวแต่งแรงจี๊ดไปแล้ว และระบบท่อรวมไอดีและไอเสียที่ทำงานได้เข้าขากันดีเหลือล้น แล้วมันจะแต่งเพิ่มม้าได้อีกไฉน
ถ้าจะเพิ่มม้าให้ 205 Gti พูม่าเรซ บอกว่ายังมีช่องทางเปิดอยู่บ้างในความเห็นของพูม่าเรซ ทางแรกคือ แต่งหัวสูบให้อากาศไหลได้มากขึ้น กับอีกทางคือปรับแคมให้มีระยะยกมากขึ้น (แปลผิดป่าวหว่า)

 โอเค บางคนอาจเสนอให้ขยายขนาดลูกสูบ แต่ต้องไม่ลืมว่าหน้าพอร์ตมันถูกออกแบบมาให้อากาศไหลผ่านได้ดีอยู่แล้ว หรือปรับระยะยกของแคมให้มากขึ้นมันก็ไม่คุ้มเงินที่ทุ่มลงไป

205 ไม่ว่าจะเป็นตัว 1.6 หรือ 1.6 มีขนาดสูงเท่ากันคือ 83 มม. แต่ช่วงชักต่างกัน กล่าวคือ 73 มม.กับ 88 มม. ตามลำดับ  ทั้งสองรุ่น (รวมถึง 405 และ Mi) ใช้ลูกสูบแบบwet liner คือยกเปลี่ยนทั้งกระบอกสูบและเสื้อสูบเข้าไปเลย งานนี้ไม่มีคว้าน

ว่ากันว่า ไลเนอร์ของ XU มันแกร่งทนแทบไม่ต้องดูแลอะไรมันมาก (ประมาณอย่าปล่อยให้น้ำมันเครื่องแห้งเป็นพอ) ใช้ไปนานวันไลเนอร์เริ่มบิดเบี้ยวจากทรงกระบอกเป็นทรงรูปไข่ เพราะลูกสูบชักขึ้นลงทิศทางเดียวตลอด ถึงจะเบี้ยวไปบ้างแต่ถ้าได้ลองถอดออกมาแล้ววางทิ้งไว้บนชั้นสักพัก มันจะกลับมากลมเป็นกระบอกข้าวหลามได้เองอีกครับ แปลกแต่จริง!!!

ยังมีต่อ...
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: kgb
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 16:20:41
เขียนต่อนะครับ รออ่านอยู่ ขอบคุณสำหรับความพยายาม
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: nu2006
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 17:33:44
เยี่ยมครับ
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: 306cc
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 18:56:52
1 thou = 1/1000 นิ้ว = 0.0254 มม
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: surapong18
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 19:28:14
ขอบคุณครับ 205 มันเงียบมา สักพักนึง

ขอ ติดตาม อีกคน เบื่อเข้าเวป ฝรั่ง



Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: kgb
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 19:38:41
รถ 205 ใครเอ่ย สวยจัง
ใช่คันเดียวกับที่ผมเห็นที่อาคารจอดรถ ลาดพร้าว วันก่อนหรือป่าวครับ
บังเอิญว่าจำทะเบียนไม่ได้
แต่สีแดง GTi ล้อรูๆ เหมือนกันเลย
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: 9pui
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 21:57:48
 ตาดำๆ สงสัยผมต้องรีบสลับฝาเครื่อง gr ที่อยู่ในรถกับ ฝาเครื่อง gti ที่กองอยู่ซะแล้ว

เสียดายรถผมมันสี่ประตู อือๆๆ
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: surapong18
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 22:49:19
มี โฆษณา Aftersale service ตามใน ลิ้งค์ 205 ทางโน้น เขาวิ่งกัน 4-5 แสน กิโลเมตร กันแล้ว



http://actu-video.tuxboard.com/pub-peugeot-sav-2010/

อิจฉา ยุโรปมี หนทาง ให้วิ่ง
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: gaszohol
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 20:53:05
สุดจริงๆครับ เรื่องราวที่แปลมา
ผมว่าจะติดแก๊ปหลังอ่ะนะ
ไม่ติดและ เหอๆ
แบบคันขาวก็งามดีแล้ว ช้อบชอบ โหดได้อีก สุดๆ
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: Lucifer
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 14:02:27
1 thou = 1/1000 นิ้ว = 0.0254 มม
ขอบคุณครับ เข้าใจเพิ่มแล้วครับ
   เหตุผลหนึ่งที่ผมสนใจเครื่อง 205 GTi ก็เพราะดูยังไงมันก็ ?แปะเอี่ย? กับเครื่อง 1.9 CC ของ 405 GR เท่าที่ทราบคือ 405 GR เป็นเครื่องรุ่น XU92 SOHC 8 วาล์ว อัตราส่วนกำลังอัด 8.3:1 แรงม้า 110 bhp ที่ 5500 รอบ

   ส่วน 1.9 GTi ข้อมูลจาก Wikipedia บอกว่าเป็นรุ่น XU9JA SOHC 8 วาล์ว เหมือนกัน แต่มีแรงม้า 126 bhp (บ้างว่า 130 bp อัตราส่วนกำลัง 9.6:1) ส่วนรุ่นหลังที่ติดแคตาไลติก คอนเวอร์เตอร์ มีม้า 120 bhp (บ้างก็ว่า 122 hp)

   สำหรับ 1.6 GTi เป็นเครื่องรหัส XU5J 105 แรงม้า รุ่นหลังปี 87 เอาฝาสูบของ 1.9 มาใส่ หัวสูบใหญ่ขึ้น วาล์วใหญ่ขึ้น เปลี่ยนรหัสเป็น XU5JA ม้ามา 115 ตัว แต่ว่ากันว่า รุ่น 1.6 จี๊ดจ๊าดกว่า ตอบสนองเร็วกว่า 1.9 ที่อืดไปนิดแต่ทอล์คมากกว่า

   ผมก็เลยสนใจหาข้อมูลอ่าน และคิดว่าถ้ามีโอกาสเอาท่อรวมไอดีของ GTi กับชุดหัวฉีดและกล่องมาลงมันจะได้ม้าเพิ่มหรือเปล่า (ถึงวันนั้นจะโยนถังแก๊สทิ้งแล้วผลาญน้ำมันเล่น)

   ท่อไอดีเดิมมาตรฐานของ GTiเป็นท่อที่ให้อากาศไหลผ่านคล่องทำงานร่วมกับลิ้นปีกผีเสื้อเดียว และหัวฉีดของ Bosch งทำหน้าที่วัดอากาศที่ไหลผ่านเข้ามาโดยดูจากองศาเปิดของปีกผีเสื้อ จากนั้นหัวฉีดจะจ่ายเชื้อเพลิงให้พอเหมาะกับอากาศ

   ข้อมูลจากเว็บที่ผมอ่านบอกว่า มันทำงานได้ดีเยี่ยมเชียวแหละ เว้นแต่ตอนรอบต่ำ เหตุก็คือ ปีกผีเสื้อชอบให้อากาศไหลเข้ามาในอัตราคงที่ และไหลเข้ามาทางเดียวตลอดเวลา แต่พอยัดแคมใหญ่ขึ้น อากาศที่ทะลักเข้ามามากขึ้นในช่วงรอบต่ำ ทำให้ลิ้มปีกผีเสื้อสั่น อีซียูเลยงงและเป็นผลให้รอบเดินเบาเพี้ยน แต่ช่วงรอบสูงไม่มีปัญหา เครื่องกลับมาเดินเรียบอีกครั้ง

   ไม่ได้หมายความว่ารอบเดินเบาของแคมมาตรฐานมากับรถจะเดินนิ่งเสียทีเดียว แนะว่าหากต้องการให้รอบเดินเบานิ่งให้ตั้งแคมเปิดองศาแคบลง (ต่ำกว่า 275 องศา) แต่ถ้ารอบเดินเบาสั่นไม่ได้ก่อความรำคาญใจให้คุณมากนักก็ปล่อยมันไปเถอะ เพราะพอแคมร้อนขึ้นมันจะทำงานได้อย่างดีเยี่ยมที่รอบ 2000 หรือสูงกว่านั้น

   อยากแก้ปัญหารอบเดินเบาสั่นลองเปลี่ยนมาใช้อีซียูที่มีแมพเซ็นเซอร์ควบคุมตำแหน่งลิ้นปีกผีเสื้อด้วยเซ็นเซอร์ หายเป็นปลิดทิ้ง แต่เสียเงินเสียทอง

   อีกวิธีหนึ่งคือ เปลี่ยนมาใช้คาร์บิว DCOE รับรองแก้ปัญหาอาการกระพือของอากาศได้แน่ และยังต้อนม้าเข้าฝูงได้เพิ่ม อาจมาสัก 10 ตัว ขึ้นอยู่กับการจูน และแน่นอนว่า กระเป๋าคุณต้องหนัก ไม่ก็ฉีก

   ประเด็นหนึ่งที่อยากฝากไว้คือ ท่อรวมไอดีของ Mangoletsi ที่มักเอามาใส่แทนของเดิมเพื่อใช้กับคาร์บิวคู่ของเวเบอร์ ได้มาแล้วก็ใช่ว่าจะยัดเข้ากับฝาสูบได้เหมาะเหม็ง เนื่องจากท่อของรายนี้เป็นแบบหล่อ รูที่ทำมาเล็กกว่ารูเดิม คงต้องใช้เวลาขัดอะลูมิเนียมออกไปอีกนิดให้รูใหญ่ขึ้นและสวมพอดี อาจต้องเตรียมเศษสตางค์ไว้อีกนิดหากต้องการเพิ่มม้า และแก้ปีกกระพือด้วยวิธีนี้
 
   ดีที่สุดคือ หาระบบท่อไอดีปีกผีเสื้อระบบหัวฉีดและจุดระเบิดที่มีแม็พเซ็นเซอร์มาใส่ ขี้หมูขี้หมาได้ม้าอีก 15 ตัวหรือกว่า แถมลากรอบได้ยาวขึ้นแรงไม่ตก ม้าที่เพิ่มขึ้นหมายถึงเงินที่ต้องจ่ายไปอีกหลายหมื่นเช่นกัน

(อ่านกันเล่นๆ นะครับ ตรงไหนอ่านแล้วแหม่งๆ ช่วยกันแก้ไขนะครับ เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะหามาเล่าอีก)


Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: metalstorm
วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 15:35:35
ยอดเยี่ยมครับ

 555
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: dj touch
วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 20:04:01
สุดยอดคร๊าบ
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: monthol
วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 22:40:32
เยี่ยมครับ
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: Piyanat
วันเสาร์ที่ 06 มีนาคม 2010 เวลา 16:51:22
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ โอ๊วๆๆๆ ยอดจริงๆๆ
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: Yoyo101
วันพุธที่ 04 สิงหาคม 2010 เวลา 10:39:08
ขอดันขึ้นมาครับ 205 เต็มร้อย   แต่แบบสองประตูรถสวยสดบาดใจมากๆๆๆๆ
Re: 205 Gti ตัวแรงมาแต่เกิด By: teerut
วันพุธที่ 04 สิงหาคม 2010 เวลา 12:01:10
อยากรู้ 205 gti ลงแข่งรายการแข่ง super car thailand จะสู้ได้ไหม (รุ่นไม่มีโบ)