Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  40X
Pages: 12
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: jn
วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม 2010 เวลา 11:01:20
วิธีการบำรุงรักษาเครื่องและอุปกรณ์ในห้องเครื่อง   ถ้าวิ่งรถไปเป็นระยะทางไกลก่อนจะดับเครื่องควรจอดเดินเครื่องไว้สักพักหนึ่งเพื่อให้ระบบน้ำนำความร้อนที่เราใช้วิ่งรอบเครื่องสูงถูกดึงมาระบายออกเพื่อให้เครื่องเย็นลง   ถ้าอยู่ในสถานที่ปลอดภัยควรจะเปิดฝากระโปรงช่วย  เช่น กลับถึงบ้าน หรือที่ทำงาน   วิธีอย่างนี้จะช่วยได้มาก   จะยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ภายในห้องเครื่องไปอีกมาก  .........ต่อมาก็เป็นเรื่องของน้ำมันเครื่องเหตุผลที่ให้ถ่ายตามระยะทางที่เหมาะสมก็เพราะว่า   ถ้าเราใช้น้ำมันเครื่องเกินระยะที่กำหนดน้ำมันจะดำคุณสมบัติมันจะเหนียว ซึ่งไอของน้ำมันเครื่องเหล่านี้เมื่อได้รับความร้อนมันจะไปสะสมอยู่ที่ลิ้นปีกผีเสื้อและมอเตอร์เดินเบา ทำให้การเคลื่อนตัวมอเตอร์เข้าออกลำบากจึงเป็นส่วนหนึ่งที่มอเตอร์เสีย   เพราะฉนั้นเราจึงต้องเอามอเตอร์และลิ้นปีกผีเสื้อมาล้างทำความสะอาดบ้าง  รถผมเองวิ่งมา  สามแสนกว่า เปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาไปแค่ตัวเดียว  และของมือ สอง    ก็ยังใช้อยู่จนทุกวันนี้....ต่อมาเรื่องของระบบท่อน้ำ  อันดับแรกควรเช็คก่อนว่าได้เปลี่ยนท่อน้ำต่างๆมาบ้างหรือไม่แล้วให้หมั่นสังเกต  เวลาจะขับรถไปที่ไหนก่อนจะจอดที่ตรงนั้นควรดูว่าบริเวณนั้นมีน้ำหยดหรือไม่   เพราะบางครั้งถ้าของเราท่อใต้เครื่องเกิดแตกขึ้นมาเราจะสังเกตเห็นที่พื้นได้ง่าย  ถ้าเป็นน้ำจากหม้อน้ำจับดูมันต้องร้อนหรืออุ่น  ถ้าเป็นจากน้ำแอร์มันก็มีอุณหภูมิระดับหนึ่ง..... ในแต่ละวันที่เราใช้รถปกติอยู่ควรจะดูห้องเครื่องและอุปกรณ์ต่างๆว่ามันมีลักษณะอย่างไร  อุปกรณ์ติดตั้งอย่างไร   หน้าตามันแบบไหน  ดูทุกวันจำไปทีละนิดหลายวันเข้ามันก็จำได้  ถ้าเป็นผู้หญิงบอกว่าไม่รู้เรื่องรถก็ให้สังเกตไปเรื่อย ๆ  เอานิสัยของเราที่สังเกตเคยจับผิดความไม่ปกติของแฟนมาใช้กับรถก็ได้.....  ต่อมาเป็นเรื่องของช่วงล่างอันนี้ไม่จำเป็นต้องซ่อมเองแต่สามารถเอาอาการไปเล่าให้ช่างฟังได้    อันดับแรกเราต้องแยกให้ออกว่าอาการมันผิดปกติจากหน้าหรือหลัง ก็ให้สังเกตจากเสียง   เมื่อได้แล้วแยกต่อว่าดังซ้ายหรือขวา      ต่อไปดังจากบนหรือล่าง      แล้วกิริยาที่กระทำเป็นอย่างไร   เช่น  เลี้ยว  หรือถอย    ขึ้นลูกระนาด   เป็นเรื่องเบื้องต้นที่เล่าสู่กันฟัง
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: theera
วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม 2010 เวลา 12:57:59
อ้างจาก: maxZ ที่ วันจันทร์ที่ 05 กรกฎาคม  2010 เวลา 19:43:19
SRI ปี 94  ตั้งแต่ป้ายแดง

347,174 กม. ไม่เคยรื้อท่อนล่าง ทำฝาสูบรอบเดียว  ขับอย่างเดียว เปลี่ยน น้ำมันเครื่องที่ 5000 กม.  ขับจนพังคาเท้าที่ความเร็ว 185 กม./ชม. ( เกียร์ 4 รอบ 6000 กว่าๆ ไม่ได้สับขึ้น 5 ) ตามเลขไมล์ที่ว่า  ก่อนพังยังวิ่งได้ 195 อยู่  แต่ บริโภค น้ำมันเครื่อง 1000 กม./ลิตร

เคยเห็นของพี่ธีระ  400,000 กว่าๆ กว่าจะเปลี่ยนช๊อตบล็อคนะครับ
 

SRI   หลายคัน ผมเคยเห็นทะลุ 4 แสนกว่าๆเยอะนะ  รถอายุขนาดนี้ไม่ทะลุนี่ ...........แปลก  
ใช่ตรับ 445,xxx  (ไม่เคยเปลี่ยนประเก็นฝาสูบ พักเพราะเครื่องฮีต ท่อน้ำรั่วและประเก็นฝาสูบแตกน้ำออกทางหัวเทียนได้)แต่ยังไม่รวมเวลาที่ไมล์ขาดแล้วยังไม่ได้เปลี่ยนอีกเป็นเดือน ส่วนใหญ่ถ้าเครืองไม่ฮีต ก็อยู่นานครับ ระวังอย่าให้น้ำรั่ว เช่น ท่อยางหม้อน้ำ,ปั๊มน้ำ,ท่อที่อุดตาน้ำต่างๆ ที่ไม่ใด้ใช้งาน เพียงแค่มันหยดได้ก็อันตราย แล้วถ้าเมื่อไหล่ความร้อนรถเกิน 92 องศาบ่อยๆ ให้ตรวจดูระบบระบายความร้อน อย่าปล่อยไว้ ยิ่งถ้ามีน้ำหาย(หลายวันเติมที) ก็ให้ตรวจดูว่ามีจุดใดรั่ว ยกเว้นประเก็นฝาสูบจะกลับบ้านเก่า ก็จะทำให้เครื่องร้อน
ของผมทำเครื่องมาใหม่ยังร้อน 95-110 องศา ก็หาสาเหตุอยู่ตั้งนาน จนสุดท้ายช่างรัดสายท่อน้ำด้านล่างไม่แน่ทำให้น้ำซึมได้ จึงจัดการเปลี่ยนใหม่ ปัจจุบันความร้อน ทางตรงรถไม่ติด78-82 องศา รถติดก็ไม่เกิน 90-92 องศา   อีกอย่างถ้าน้ำยาแอร์พร่องอาจทำให้เครื่องร้อนได้เหมือนกัน ถ้าแก้ปัญหาเครื่องร้อนได้ก็ใช้ได้นานครับ
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: jamesdrum
วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม 2010 เวลา 14:53:07
 ชิวๆ ...ท้าวความหน่อยครับ!!!...แดงแก้วผมได้มาโดยบังเอิญครับ(ปี 45) ไปดูที่เต๊นท์คนเดียวเลย พี่เจษกับช่างประจำบอกแล้วว่าถ้าไปบอกด้วย จะได้ช่วยดูให้...
           ...ดื้อครับ ไอ้ความที่อยากได้มากๆ ตอนใช้ 309 คิดตลอดว่าถ้าขายคันนี้ผมจับ 405 แน่ๆ(แล้วก็ขายจริงๆ...ขายซากครับชนยับเลย) ไปถึงเต๊นท์มี 405 จอดขายอยู่ 4 คัน...แต่ไม่โดนเลย เพราะแต่งเกือบทุกคัน สเกิร์ตหน้าตาแปลกๆมั่ง,maxลายแปลกๆมั่ง,บางคันดูรู้ว่าย้อมมา,วางเครื่องข้ามพันธ์ไม่เรียบร้อยมั่ง...ไอ้นู่นหาย...ไอ้นี่แปลงซะหมดความเป็นเปอโยต์ไปเลย!!!...(พอดีผมศึกษา 405 GR มาบ้างครับทั้งภายใน,ภายนอกและเครื่อง)
 โอ๊วๆๆๆ ยอดจริงๆๆ ...จนมาเห็นรถอะไรว่ะ!!! คลุมผ้ามิดชิด แต่ผมตาไวเห็นmax405 โผล่ ผมเลยแอบไปแง้มผ้าคลุม...555 โอ้ววววววว 405 GR สภาพเดิมๆสีเดิมๆเริ่มซีด,คอนโซลยังไม่เหนียว ไม่เยิ้ม(bookservice ยังมีครับ) ที่ผมบอกเดิมๆเพราะเอาจากที่ศึกษาเป็นเกณฑ์ครับ!!!...เลยเรียกเซลล์มา เขาบอก''พี่ตาไวมาก เจ้าของเต๊นท์เขากะแอบไว้ ชั่งใจว่าจะขายหรือไม่ขายเพราะรถเดิมๆ'' ผมเลยยัดใส่มือ 1,000 บอกว่าผมเอานะ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น...ล้างก็ไม่ต้อง(แต่ผมดูเครื่องอย่างละเอียดแล้ว) อีกสองวันทำสัญญาซื้อขายเลย วันรับรถก็ชวนพี่เจษมาด้วย พอจะเอารถออก...บททดสอบบทที่หนึ่งเริ่มทันที...
           ...สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด ทำยังไงก็ไม่ติด จนพี่เจษเห็นปลั๊กอะไรว่ะห้อยๆอยู่ ลองเสียบเข้าไป...ชึ่งเดียวติด!!!...มันคือปลั๊กเสียบเข้าโมดูลนั่นเอง...เอาแล้ว! รักแท้บทที่หนึ่ง...555+ ขับมาอู่พี่เจษถาม''เฮ้ย!!!...เช็คประวัติว่าเจ้าของยังอยู่ป่าวว่ะ!!!...'' :หนาวจัง:
           ...หลังจากนั้นขับมาอู่ทันที เปลี่ยนของเหลวทุกอย่าง,เปลี่ยนสายพานราวลิ้น+สายพานไดชาร์ต,ล้างเช็คคาร์บูฯ,เช็คระบบไฟ...
ที่เหลือขับไป ซ่อมไปจนค่อยๆเข้าที่เข้าทางครับ!!!...ใช้ไปได้ปีกว่า งานเข้า! วาล์วน้ำเกเร เครื่องฮีทจนดับกลางอากาศ...เปิดฝา เปลี่ยนปะเก็น,วาล์วน้ำ,เปลี่ยนท่อน้ำสามทาง(แปลงเอาครับ ของใหม่สองพันกว่า!!!...)
           ...ส่วนแอร์ผมรู้อยู่แล้วว่าแปลงมา ก็ใช้ไปจนกว่าจะพัง แล้วก็พังจริงๆ(ใช้ไปร่วมๆเจ็ดปี)...ก็เลยตัดสินใจทำระบบแอร์กลับไปแบบเดิมๆของเค้าเลยครับ...หมดไปหมื่นกว่าๆ!!!...อย่างอื่นก็ยกครัช,พอกฝากะเครื่องเพราะเริ่มผุตามพระอาทิตย์ขึ้น-ลง
           ...ทุกๆวัน ก่อนใช้รถ ผมจะดูระดับน้ำในหม้อน้ำ,เช๊คน้ำมันเครื่อง,ก้มดูใต้ท้องรถว่ามีอะไรหยดบ้าง(ตอนนี้มีหยดแล้ว...เซ็งเป็ด)
ถ้ายังไม่มีงบซ่อม ผมจะพกน้ำมันเครื่องไว้ในรถ ส่วนน้ำเช่นกันผมถือว่าเรากินน้ำแบบไหน รถก็ต้องกินแบบนั้นครับ!!!...สุดท้ายความเห็นส่วนตัวผม...ผมว่าเครื่องเปอโยต์ทนและอึดมาก เพียงแต่เราต้องใส่ใจมากกว่าชาวบ้านเขาหน่อย!!!...ผมเองก็ดูแลแบบทั่วไปเพียงแต่เน้นบางจุดเป็นพิเศษเช่น ระบบหล่อเย็น,ท่อยางต่างๆ,พัดลมคู่หน้า(สังเกตุความแรงของพัดลม...รู้ๆอยู่พัดลมเปอโยต์ดังกว่าเสียงเครื่องอีก...555 ถ้ามันไม่ดังผมก็จะระแวงและเช็คทันทีครับ)...สำหรับผม เลขไมล์จะเจ็ดหรือแปดแสน...ผมไม่ได้ภูมิใจที่ตัวเลข แต่ผมภูมิใจที่ได้ใช้รถที่ทนและเราดูแลจนวาระสุดท้าย(ของเครื่อง)...                                              ขอบคุณครับ

Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: wat_2667
วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม 2010 เวลา 15:12:32
มีจีอาร์อยู่ 1 คัน แดงเดียวกันกับแดงแก้ว ปี91(ตัวสุดท้ายของ จีอาร์)  ซื้อมาราคาสูงไป(พี่ๆในเวปว่า) แต่ที่ผมตัดสินใจซื้อ คือ ผมซื้อจีอาร์คันนี้เมื่อปี2008 รถจดทะเบียนปี 91 เท่ากับ รถคันนี้อายุ 17 ปี  แต่สภาพรถคือคอนโซนยังนิ่ม สวิทซ์ทุกตัวใช้ได้ ของทุกชิ้นมีครบ ติดแก๊สแล้ว  ซื้อมาตอนแรกวิ่ง เหยียบยังไงขยี้ขยำยังไงก็ได้ 130  เลยคิดว่างานเข้าแล้วตรู  หลังจากได้มาไม่ถึงเดือน เกียร์(ออโต้) พังอีก เลยคิดว่าที่วิ่งได้ 130 คงเพราะเกียร์  โดนค่ายกเกียร์อีก 15,000  หลังจากยกเกียร์แล้ว มันก็ยังได้ประมาณ 130 อยู่ดี  เลยตัดสินใจว่าลองถอดมิกซ์ออกมาดู วัดรูได้ประมาณ 24 - 25 ก็เลยคิดว่าเพราะจุดนี้หรือป่าว จัดการคว้าน เป็น 28 กว่ายัดกลับ จูนแก๊สใหม่  โอ้ววววว  160 ยังไปได้อีก 170 ยังได้อยู่(แต่แช่หน่อย) ก็เลยแฮปปี้  หากคิดว่าเราซื้อสภาพ ผมโอเคนะ เพราะ จีอาร์ตอนนั้น มีขายกันตั้งแต่ราคา 40,000 - 80,000  แต่สภาพหล่ะ  จะหาของตอนนั้ก็เริ่มยากส์ (โดยเฉพาะคอนโซน)  ถึงตอนนี้ ผมคิดว่าผมทำถูกที่ตอนนั้น ผมซื้อ(ยอมจ่ายราคาสูง)  อย่างน้อยหากผมทำสีซะหน่อยผมว่า นู๋แดง (ชื่อรถ)  น่าจะเป็น 405 จีอาร์ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ คันหนึ่ง นะ

เล่าสู่กันพัง  เอ๊ยยย ฟัง ครับ
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: jasa
วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม 2010 เวลา 16:09:44
แจมบ้างนะครับ เห็นจีอาร์วิ่งกัน หลายๆ แสนโล อึ้ม..
ของผม SRI วิ่งไปสองแสนสามเองครับ เอามาใช้ได้ปีหกเดือนแระ
ตอนเอามา ก็อยู่ที่ แสนหกหมื่นเจ็ดพัน เอามาใช้ปีหกเดือน วิ่งไปหกหมื่นสามพันโล
ก็ตกประมาณเดือนละ สามพันห้าร้อยโล มันก็น่าจะได้อะครับ ไปกลับที่ทำงานก็วันละ
ร้อยกิโลแล้ว เสาร์อาทิตย์ ไปชลบุรีอีก หยุดยาวเที่ยวโลดอีก
พูดถึงความทน ผมว่า ไม่น้อยหน้า 505 (จากที่เคยใช้มาสามคัน)
คันนี้ก็ไปพา อุดร/หนองคาย/ลาว /ภูทับเบิก/ภูหินร่องกล้า/เขาค้อ ก็ไม่เคยปีปัญหาอะไร
วิ่งสบายๆ ก็ถ่ายน้ำมันเครื่องทุก ห้าพันกิโล ที่เสียอื่นๆ ก็หมดสภาพตามอายุขัยครับ

ปล. แดงแก้วเท่าไหร่นะ เดี๋ยวจะแซงด้วยเลขไมล์ให้ดู ฮ่าๆๆๆ
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: wut405
วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม 2010 เวลา 16:34:15
อ้างจาก: wut405 ที่ วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม  2010 เวลา 09:33:06
ผมสองแสนโล เหมือนกัน ทำไปหลายอย่าง ยางตีนวาว์ ตัวกันน้ำมันไหลย้อยกลับ ทำน้ำมันเบ็นซิน เปลี่ยนไปสองชุดแล้ว ท่อยางต่างๆ นอกนั้นก็ยังใช้งานได้อยุ่ครับ

วันนี้งานเข้าซะแล้ว ตาน้ำหลังเครื่องรั่ว งานเข้าเลยครับ มีเรื่องให้ซ่อมอีกแล้ว แต่ผมมองเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าไม่ซ่อมก็ไม่ใช่ สิงห์ Ho Ho
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: CoRso
วันอังคารที่ 06 กรกฎาคม 2010 เวลา 19:35:20
ผมแสนแปดเองครับ เพิ่งได้มาเองอาทิตย์เดียวเองวิ่งไปห้าพันแล้ว
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: mr.not
วันพุธที่ 07 กรกฎาคม 2010 เวลา 23:17:29
ผม 203,115 ก.ม. วิ่งบางบัวทอง-ตลิ่งชัน และสภานที่ใกล้เคียง ออกนอกเส้นทางไม้ได้ เดี๋ยว GPS ร้องเตือน..
Re: เครื่องsri ของใครเลขไมล์มากสุดครับ By: pom
วันพุธที่ 07 กรกฎาคม 2010 เวลา 23:41:38
อ้างจาก: mr.not ที่ วันพุธที่ 07 กรกฎาคม  2010 เวลา 23:17:29
ออกนอกเส้นทางไม้ได้ เดี๋ยว GPS ร้องเตือน..
แนะนำหลังอู่ครับ เนียน... Ho Ho