เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 13:53:04
สืบเนื่องมาจากระบบแอร์เดิมมีปัญหาอันเนื่องมาจากตัดบ้าง ไม่ตัดบ้าง จนต้องเปิดประตูวิ่งเนื่องจากเวลามันไม่ตัดแล้วอากาศหนาวก็เลยทำการโมมันใหม่ซะเลย
เริ่มต้นด้วยตัวอุปกรณ์ครับ
สายสีแดง ไฟบวก ๑๒ โวลต์
สายสีดำไฟลบ
สายสีเขียว AC ครัชแอร์
Re: เมื่อระบบแอร์เดิมมีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 13:56:30
ลองผ่าดูข้างใน
Re: เมื่อระบบแอร์เดิมมีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 13:57:54
ขายึดทำเองครับไม่มีมาให้
Re: เมื่อระบบแอร์เดิมมีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 13:59:30
แผงควบคุมแอร์เดิมพร้อมที่จะดัดแปลง
Re: เมื่อระบบแอร์เดิมมีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 14:02:03
รูด้านหลังแผงควบคุมแอร์ตรงบริเวณปุ่มปรับอุณหภูมิ มีบ่ายังกะทำไว้เพื่อให้เราเอาวอลลุมของชุดควบคุมแอร์มาใส่
Re: เมื่อระบบแอร์เดิมมีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 14:04:48
เมื่อเสร็จสิ้นก็จะได้แบบนี้ละครับ
Re: เมื่อระบบแอร์เดิมมีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 14:06:39
สำหรับสายไฟอีกชุดหนึ่งจะเป็นสายไฟที่ต่อกับเทอร์มิสเตอร์ก็เอาไปไว้ที่ตู้แอร์นะครับ ผมจะเอาไปไว้ตรงบริเวณที่เทอร์มิสเตอร์เดิมของแอร์ครับ
จบการนำเสนอ
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: noom2503
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 15:59:56
สำหรับสายไฟอีกชุดหนึ่งจะเป็นสายไฟที่ต่อกับเทอร์มิสเตอร์ก็เอาไปไว้ที่ตู้แอร์นะครับ ผมจะเอาไปไว้ตรงบริเวณที่เทอร์มิสเตอร์เดิมของแอร์ครับ
จบการนำเสนอ
ทั้งหมด ค่าเสียหายเท่าไร
เด่วจะแวะให้ทำให้ดีกว่า หนาวมาก....
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: RATCHAI
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 16:00:32
ของผมตอนนี้ หลังจากไปลุยน้ำมาลูกปืนคอมฯดังมาก ถามลุงตู้ว่าดังแค่ไหน??
ถ้าไม่ซ่อมมันจะเป็นไรไหมครับ กะว่าใช้ไปสักพักจะเปลี่ยนคอมฯเลย
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: noom2503
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 16:08:35
ของผมตอนนี้ หลังจากไปลุยน้ำมาลูกปืนคอมฯดังมาก ถามลุงตู้ว่าดังแค่ไหน??
ถ้าไม่ซ่อมมันจะเป็นไรไหมครับ กะว่าใช้ไปสักพักจะเปลี่ยนคอมฯเลย
เปลี่ยนเองได้ป่าว น้ำยา เด่วพี่จัดให้.....
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: RATCHAI
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 16:13:03
ไม่ได้ ตูดไม่เหมือนกันครับ ต้องไปแปลงท่อก่อน อิๆ
น้ำยาย R134a หรือเปล่าครับ วันหลังจะได้ไปเติม เด๋วจ่ายตังค์ด้วย อิๆ
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: noom2503
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 16:16:01
ไม่ได้ ตูดไม่เหมือนกันครับ ต้องไปแปลงท่อก่อน อิๆ
น้ำยาย R134a หรือเปล่าครับ วันหลังจะได้ไปเติม เด๋วจ่ายตังค์ด้วย อิๆ
ตอนนี้ยังไม่ซื้อ จะใช้ค่อยไปซื้อเอา ....
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: RATCHAI
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 16:18:42
สงสัยจะต้องไปเรียนซ่อมแอร์เพราะมันเสียบ่อย น้ำยาก็เติมบ่อยมาก เด๋วรั่ว ๆ เติมทีก็ 400 เห้อ
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: noom2503
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 18:05:59
สงสัยจะต้องไปเรียนซ่อมแอร์เพราะมันเสียบ่อย น้ำยาก็เติมบ่อยมาก เด๋วรั่ว ๆ เติมทีก็ 400 เห้อ
ซื้อ ถังเล็กๆมาไว้เลย เดี่ยว สายเติมมาเอาที่นี่ ....ตอนแรกพี่ว่าจะซื้อแล้วแต่ตอนนี้ไม่รั่วแล้วเลยหยุดไว้ก่อน....
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: noom2503
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 18:21:01
ขั้ตอนการเติมน้ำยา...คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเพื่อนๆ ที่ช่วยกันโหวต
- แล้วก็ไม่บอกด้วยว่า จะเอาแบบ ใช้น้ำยาชนิดไหน จะใช้ R 12 หรือใช้ R 134 a . กันล่ะ . มีการทำที่ ต่างกันเล็กน้อย . . นะ จะบอกให้
- เอารูป ด้วยไม๊ล่ะ . แฮ่ๆ ลงรูปไม่ได้น่ะ
- เอาแบบที่ ไม่มีน้ำยาอยู่เลย หรือ เติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปล่ะ
1 ) . . . แว๊กฯ . ระบบน้ำยา(ท่อน้ำยา) ให้เป็นสูญญากาศ . การแว๊กฯ ให้ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ควรจะให้เกิน ครึ่ง ชม.ขึ้นไป เพื่อให้ระบบฯ เป็นสูญญากาศจริงๆ . . .
2 ) . . . แต่ถ้าเป็นการเติมน้ำยาเพิ่ม . ก็ไม่จำเป็นต้อง แว๊กฯ แค่ไล่ลม(ตอนที่ไล่ลม ต้องประณีตมากๆ) . แล้วก็เติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปได้เลย
3 ) . . ไล่ลมออกจากสายอ่อนให้ดี(ใช้น้ำยาในถังไล่) แล้วปล่อยน้ำยาเข้าไปในระบบฯ อย่างช้าๆ . จนกระทั่งน้ำยาไม่เข้าแล้ว
4 ) . . ติดเครื่องยนต์
4.1 ) . . สำหรับน้ำยา R 12 : เร่งเครื่องที่ 2,000 รอบ/นาที
4.2 ) . . สำหรับน้ำยา R 134 a : เร่งเครื่องที่ 1,500 รอบ/นาที
4.3 ) . . เร่งพัดลมให้แรงสุด . . เร่งความเย็นให้เย็นสุด . . เปิดประตูรถออกทั้งหมดทุกด้าน
5 ) . . เติมน้ำยาเข้าไป อย่างช้าๆ . จนกระทั่งได้ความดันตามต้องการ
5.1 ) . . น้ำยา R 12 : ด้าน LOW . 21 - 28 ปอนด์/ตร.น. . ด้าน HIGH . 206 - 213 ปอนด์/ตร.น.
5.2 ) . . น้ำยา R 134a : ด้าน LOW 21 - 36 ปอนด์/ตร.น. . ด้าน HIGH . 199 - 228 ปอนด์/ตร.น.
6 ) . . . เ ร่งเครื่อง ดูให้ความดันที่ท่อด้าน LOW ต่ำที่สุด . แล้วปลดขั้วสายออก . ซึ่งความดันจะต่ำกว่า ตอนที่ดับเครื่องยนต์แล้ว > > น้ำยาจะได้ไม่พุ่งออกมามาก
7 ) . . . ดับเครื่องยนต์ คอยพักหนึ่ง รอให้ความดันท่อ HIGH ลดลงให้ต่ำสุดเสียก่อน . แล้วจึงปลดสายออก . ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับข้อ 6
8 ) . . . เเต่ถ้า ไม่มีเกจ.วัดความดันของน้ำยา . ก็สามารถเดาๆเอาได้ . ด้วยการมองที่ " ช่องตาแมว " . . จะต้องใส " ไม่มีฟอง " หรือ มีฟองแต่เพียงเล็กน้อย เท่านั้น
- จบแล้ว จ้า
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 18:51:12
สำหรับสายไฟอีกชุดหนึ่งจะเป็นสายไฟที่ต่อกับเทอร์มิสเตอร์ก็เอาไปไว้ที่ตู้แอร์นะครับ ผมจะเอาไปไว้ตรงบริเวณที่เทอร์มิสเตอร์เดิมของแอร์ครับ
จบการนำเสนอ
ทั้งหมด ค่าเสียหายเท่าไร
เด่วจะแวะให้ทำให้ดีกว่า หนาวมาก....
ค่าเสียหายไม่มีครับเนื่องจากเก็บของเก่าจากร้านซ่อมมาทำเอง
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 18:55:19
ขั้ตอนการเติมน้ำยา...
คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเพื่อนๆ ที่ช่วยกันโหวต
- แล้วก็ไม่บอกด้วยว่า จะเอาแบบ ใช้น้ำยาชนิดไหน จะใช้ R 12 หรือใช้ R 134 a . กันล่ะ . มีการทำที่ ต่างกันเล็กน้อย . . นะ จะบอกให้
- เอารูป ด้วยไม๊ล่ะ . แฮ่ๆ ลงรูปไม่ได้น่ะ
- เอาแบบที่ ไม่มีน้ำยาอยู่เลย หรือ เติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปล่ะ
1 ) . . . แว๊กฯ . ระบบน้ำยา(ท่อน้ำยา) ให้เป็นสูญญากาศ . การแว๊กฯ ให้ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ควรจะให้เกิน ครึ่ง ชม.ขึ้นไป เพื่อให้ระบบฯ เป็นสูญญากาศจริงๆ . . .
2 ) . . . แต่ถ้าเป็นการเติมน้ำยาเพิ่ม . ก็ไม่จำเป็นต้อง แว๊กฯ แค่ไล่ลม(ตอนที่ไล่ลม ต้องประณีตมากๆ) . แล้วก็เติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปได้เลย
3 ) . . ไล่ลมออกจากสายอ่อนให้ดี(ใช้น้ำยาในถังไล่) แล้วปล่อยน้ำยาเข้าไปในระบบฯ อย่างช้าๆ . จนกระทั่งน้ำยาไม่เข้าแล้ว
4 ) . . ติดเครื่องยนต์
4.1 ) . . สำหรับน้ำยา R 12 : เร่งเครื่องที่ 2,000 รอบ/นาที
4.2 ) . . สำหรับน้ำยา R 134 a : เร่งเครื่องที่ 1,500 รอบ/นาที
4.3 ) . . เร่งพัดลมให้แรงสุด . . เร่งความเย็นให้เย็นสุด . . เปิดประตูรถออกทั้งหมดทุกด้าน
5 ) . . เติมน้ำยาเข้าไป อย่างช้าๆ . จนกระทั่งได้ความดันตามต้องการ
5.1 ) . . น้ำยา R 12 : ด้าน LOW . 21 - 28 ปอนด์/ตร.น. . ด้าน HIGH . 206 - 213 ปอนด์/ตร.น.
5.2 ) . . น้ำยา R 134a : ด้าน LOW 21 - 36 ปอนด์/ตร.น. . ด้าน HIGH . 199 - 228 ปอนด์/ตร.น.
6 ) . . . เ ร่งเครื่อง ดูให้ความดันที่ท่อด้าน LOW ต่ำที่สุด . แล้วปลดขั้วสายออก . ซึ่งความดันจะต่ำกว่า ตอนที่ดับเครื่องยนต์แล้ว > > น้ำยาจะได้ไม่พุ่งออกมามาก
7 ) . . . ดับเครื่องยนต์ คอยพักหนึ่ง รอให้ความดันท่อ HIGH ลดลงให้ต่ำสุดเสียก่อน . แล้วจึงปลดสายออก . ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับข้อ 6
8 ) . . . เเต่ถ้า ไม่มีเกจ.วัดความดันของน้ำยา . ก็สามารถเดาๆเอาได้ . ด้วยการมองที่ " ช่องตาแมว " . . จะต้องใส " ไม่มีฟอง " หรือ มีฟองแต่เพียงเล็กน้อย เท่านั้น
- จบแล้ว จ้า
เป็นช่างแอร์ได้เลยนะเนี่ย
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: nun
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2011 เวลา 19:00:11
พี่ตู้ ระบบแอร์ของพี่ยังเป็ยระบบเดิมอยู่ไหม
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: noom2503
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2011 เวลา 09:14:21
พี่ตู้ ระบบแอร์ของพี่ยังเป็ยระบบเดิมอยู่ไหม
คงจะเดิมนะ แต่มันไม่ตัดแค่นั้นเอง....
Re: เมื่อระบบแอร์เดิม 405GR มีปัญหาก็ดัดแปลงมันซะเลย By: Webmaster
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2011 เวลา 11:33:39
สุดยอดครับ
น่าจะติดแบบดิจิตอลไปเลยนะครับ ไหนจะแปลงแล้ว