สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri

สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: ka
วันเสาร์ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 16:29:58

รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้ตำแหน่งกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri ให้หน่อยครับ ขอบคุณครับ

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: jod_ryhp
วันเสาร์ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 16:34:29

อ้างจาก: ka ที่ วันเสาร์ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 16:29:58

มันมีด้วยเหรอ กรองน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์

ผมเห็นมีแต่แถบแม่เหล็ก ติดอยู่ ที่ปลายก้าน วัดน้ำมัน ( เอาใว้ดูดเศษตะกอนเหล็ก ให้ติดอยู่ที่ปลายไม้วัดอะครับ)

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: zuzarz
วันเสาร์ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 19:23:23

ถอดท่อแรงดันทางออกโดยคลายน๊อตหมายเลข 2
ถอดน๊อตตัวในตรงที่ศรแดงชี้แล้วถอดตะแกรงโลหะกรองน้ำมันออกมาล้างได้ครับ

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: jod_ryhp
วันเสาร์ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 20:59:50

อ้างจาก: zuzarz ที่ วันเสาร์ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 19:23:23

ขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมด้วย เพราะ ไม่เคยมรใคร ถามถึง เรื่องนี้เลย

ผมเองก้อเพิ่งรู้ เพราะคิดว่า มันไม่มี เห็นมีคนบอกผมแค่เรื่องแถบแม่เหล็ก ที่ปลายก้านวัดอย่างเดียว

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: zuzarz
วันพฤหัสบดีที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 21:14:03

ติดค้างมาหลายวัน ได้ฤกษ์เปิดดูกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ออกมาดูแล้วครับ มันติดอยู่กับตัววาล์วทำหน้าที่กรองน้ำมันที่มาจากถังพักก่อนปล่อยเข้าปั้มตามรูป ผมคงเป็นผู้โชคดีที่เคยกรองนี้ตันเมื่อ 10 ปีก่อน และเมื่อ 2 ปีที่แล้วลูกปืนปั้มแตกต้องตัดสายพานปั้ม(ในเครื่อง XU9J4) ขับใช้งานได้ต่ออีก 2วันค่อยไปเปลี่ยน

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: Jeff405
วันพฤหัสบดีที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 22:00:47

เพิ่งทราบเหมือนกันครับว่ามีกรองแบบนี้ด้วย รบกวนคุณ zuzarz ครับถ้ากรองตันมันมีอาการยังไงครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: Schap
วันศุกร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 08:23:56

เคยมีคนแนะนำให้ล้างหากพวงมาลัยดูหนักๆ เกินไปให้ถอดตัวนี้ล้าง

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: RATCHAI
วันศุกร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 08:56:35

อ้างจาก: zuzarz ที่ วันพฤหัสบดีที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 21:14:03

ขอถามนิดนะครับ ถ้ามันรั่วตรงตูดปั๊มนี่ซ่อมได้ไหมครับ ของผมรั่วอยู่พอดีครับ

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: jod_ryhp
วันศุกร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 09:15:02

อ้างจาก: zuzarz ที่ วันพฤหัสบดีที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 21:14:03

ใว้ว่างๆจะลองถอดออกมาล้างดูมั่งครับ

แล้วตอนใส่กลับต้องมีการไล่ลมไล่อากาศ มั้ย ครับ

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: sathapron
วันศุกร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 09:53:18

อ้างจาก: jod_ryhp ที่ วันศุกร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 09:15:02

อ้างจาก: zuzarz ที่ วันพฤหัสบดีที่ 07 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 21:14:03

ไม่กล้าตอบครับคุณจ๊อด กลัวโดนไล่ออกจากเวปเปอร์โยต์

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: zuzarz
วันเสาร์ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 09:08:43

   1. กรองตัวนี้โดยหน้าที่หลักแล้วไม่ได้ทำหน้าที่กรองน้ำมันเพาเวอร์ให้กับระบบพวงมาลัยเพอร์เวอร์โดยตรงนะครับมันเป็นส่วนหนึ่งของวาล์วควบคุมแรงดัน
และเมื่อกรองนี้อุดตันก็ไม่ได้ทำให้การหมุนพวงมาลัยหนักขึ้นแต่อย่างใด !!!

   2. ถ้าอย่างนั้นเรามาช่วยกันวิเคราะห์หน่อยครับถ้ามันอุดตันจะเกิดอะไรขึ้น ? ผมมีรูปประกอบให้พิจารณาด้วยครับ

   3. ถาม-ขอถามนิดนะครับ ถ้ามันรั่วตรงตูดปั๊มนี่ซ่อมได้ไหมครับ ของผมรั่วอยู่พอดีครับ
   ตอบ-เอาลวดสปริงล็อคออก-ถอดก้นออกมาเปลี่ยนโอ-ริงได้ครับ
   4. ถาม-แล้วตอนใส่กลับต้องมีการไล่ลมไล่อากาศ มั้ย ครับ
   ตอบ-เมื่อมีการถอดท่อทางของระบบควรไล่ลมครับ ? เมื่อต่อท่อทางและอุปกรณ์ที่ถอดกลับเข้าที่แล้วเติมน้ำมันเพาเวอร์ในถังพักแล้วหมุนพวงมาลัยไปสุดด้านซ้ายและขวาสลับกัน 2-3 ครั้ง น้ำมันจะถูกดึงเข้าท่อทางเอง
   แต่ยังคงมีอากาศตกค้างอยู่ในปั้มและวาล์วแร็คนะครับ ก็เติมน้ำมันน้ำมันเพาเวอร์ที่พร่องไปแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วหมุนพวงมาลัยไปสุดด้านซ้ายและขวาสลับกัน อีก 2-3 ครั้ง(ยกล้อหน้าลอยไว้)
   แค่นี้ก็น่าจะพอที่จะนำรถไปใช้งานได้แล้ว เมื่อกลับมาค่อยเติมน้ำมันที่อาจพร่องไปอีกอีกเล็กน้อย

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: zuzarz
วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 23:53:35

หลายวันผ่านมายังไม่มีผู้มาช่วยร่วมวิเคราะห์ว่า ถ้ากรองมันอุดตันจะเกิดอะไรขึ้น?

เลยถือโอกาสชวนนาย Blue Leo มาช่วยวิเคราะห์ พอสรุปความได้ดังนี้

   เจ้าปั้มเพาเวอร์ตัวนี้เป็นแบบใบแผ่นเลื่อน พอมันหมุนรอบไปตามลูกศรใบแผ่นเลื่อนมันจะถูกเหวี่ยงออกไปสีแนบกับเสื้อปั้มแล้วพาเอาน้ำมันเพาเวอร์แรงดันต่ำ(P1)ที่เข้ามาไปอัดสะสมกันจนเกิดแรงดันสูง(P2)ที่ทางออก แรงดันน้ำมัน P2 นี้จะถูกส่งไปเข้าลูกสูบกระบอกโช้คช่วยเลี้ยวทำให้ผ่อนแรงโหนพวงมาลัยขณะเลี้ยวได้มากทีเดียว ต่อมาเมื่อเราเร่งรอบเครื่องขึ้นไปแรงดัน P2 ก็จะสูงขึ้นตามด้วยเราจึงรู้สึกว่าพวงมาลัยเบาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องทำให้เราใช้แรงในการบังครับเลี้ยวที่ค่าคงที่ที่เหมาะสมค่าหนึ่ง จึงต้องมีวาล์วควบคุมแรงดันมาเป็นตัวช่วย จากรูปเมื่อแรงดัน P2 สูงขึ้นก็จะไปดันหัววาล์วควบคุมแรงดันไปทางขวามือต่อสู้กับแรงดันสปริง 1 จนเมื่อมันเอาชนะได้ น้ำมันแรงดัน P2 ก็ลอดผ่านวาล์วเข้าไปรวมตัวกับ P1 เพราะฉะนั้นแรงดัน P2 ก็จะลดลงและคงที่อยู่ที่ค่าหนึ่งได้

   แค่นี้เพียงพอกับความปลอดภัยหรือยัง ?
  ถ้าเจ้าสปริง 1 มันล้าอ่อนแรงขึ้นมาล่ะ P2 ก็จะดันวาล์วออกแล้วเข้าไปรวมกับ P1 เร็วเกินไป ทำให้ P2 แรงดันต่ำเกิน พวงมาลัยก็จะหนักขึ้นอีก ก็เลยเอาวาล์วควบคุมแรงดันมาช่วยอีกตัวชุดหนึ่งมาซ้อนเข้าไปข้างใน ซึ่งประกอบด้วย สปริง2 + ก้านกระทุ้ง + ลูกบอล + ไส้กรองที่เป็นพระเอกของเรื่องนี้ ทีนี้มาดูการทำงานของมัน ก่อนที่จะติดเครื่องให้ปั้มเพาเวอร์หมุน น้ำมันเพาเวอร์แรงดันต่ำ(P1)มันลอดผ่านระหว่างตัววาล์วกับเสื้อวาล์วเข้าไปอยู่ในห้องสปริง 1 ตอนนี้ P1 กับ P3 เท่ากันอยู่ พอติดเครื่องให้ปั้มหมุน P2 ก็จะไปดันหัววาล์วควบคุมแรงดันไปทางขวามือต่อสู้กับแรงดันสปริง 1 อีก แต่มี P3 ที่ไม่มีทางออกไปโดยสะดวกก็จะช่วยออกแรงต้านไว้อีกจนกว่า P3 จะถูกดันจนมีแรงดันเพิ่มขึ้นก็จะไหลผ่านกรองที่มีลูกบอล+ก้านกระทุ้งและสปริง2 ยันอยู่ไปออกที่รูวาล์วเข้า P1ไป ดังนั้นถ้าไส้กรองอุดตันน้ำมัน P3 ก็ออกไปหา P1 ไม่ได้ เมื่อเร่งรอบเครื่องขึ้น P3 ก็จะออกแรงต้าน P2 ไม่ยอมให้วาล์วเปิดให้ P2 กลับไปเข้า P1ได้ง่าย ทำให้พวงมาลัยเบาขึ้นกว่าปกติ

  สรุป กรองตันทำให้พวงมาลัยเบาเกินที่รอบเครื่องสูง !!! ซ.ต.พ.

อ้าว?.นาย Blue Leo ตื่นๆ ??..

Re: สอบถามเรื่องกรองน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์405 sri By: jod_ryhp
วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 10:09:07

อ้างจาก: zuzarz ที่ วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 23:53:35

หลายวันผ่านมายังไม่มีผู้มาช่วยร่วมวิเคราะห์ว่า ถ้ากรองมันอุดตันจะเกิดอะไรขึ้น?

เลยถือโอกาสชวนนาย Blue Leo มาช่วยวิเคราะห์ พอสรุปความได้ดังนี้

เจ้าปั้มเพาเวอร์ตัวนี้เป็นแบบใบแผ่นเลื่อน พอมันหมุนรอบไปตามลุกศรใบแผ่นเลื่อนมันจะถูกเหวี่ยงออกไปสีแนบกับเสื้อปั้มแล้วพาเอาน้ำมันเพาเวอร์แรงดันต่ำ(P1)ที่เข้ามาไปอัดสะสมกันจนเกิดแรงดันสูง(P2)ที่ทางออก แรงดันน้ำมัน P2 นี้จะถูกส่งไปเข้าลูกสูบกระบอกโช้คช่วยเลี้ยวทำให้ผ่อนแรงโหนพวงมาลัยขณะเลี้ยวได้มากทีเดียว ต่อมาเมื่อเราเร่งรอบเครื่องขึ้นไปแรงดัน P2 ก็จะสูงขึ้นตามด้วยเราจึงรู้สึกว่าพวงมาลัยเบาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องทำให้เราใช้แรงในการบังครับเลี้ยวที่ค่าคงที่ที่เหมาะสมค่าหนึ่ง จึงต้องมีวาว์ลควบคุมแรงดันมาเป็นตัวช่วย จากรูปเมื่อแรงดัน P2 สูงขึ้นก็จะไปดันหัววาว์ลควบคุมแรงดันไปทางขวามือต่อสู้กับแรงดันสปริง 1 จนเมื่อมันเอาชนะได้ น้ำมันแรงดัน P2 ก็ลอดผ่านวาว์ลเข้าไปรวมตัวกับ P1 เพราะฉะนั้นแรงดัน P2 ก็จะลดลงและคงที่อยู่ที่ค่าหนึ่งได้

แค่นี้เพียงพอกับความปลอดภัยหรือยัง ?
ถ้าเจ้าสปริง 1 มันล้าอ่อนแรงขึ้นมาล่ะ P2 ก็จะดันวาว์ลออกแล้วเข้าไปรวมกับ P1 เร็วเกินไป ทำให้ P2 แรงดันต่ำเกิน พวงมาลัยก็จะหนักขึ้นอีก ก็เลยเอาวาว์ลควบคุมแรงดันมาช่วยอีกตัวชุดหนึ่งมาซ้อนเข้าไปข้างใน ซึ่งประกอบด้วย สปริง2 + ก้านกระทุ้ง + ลูกบอล + ใส้กรองที่เป็นพระเอกของเรื่องนี้ ทีนี้มาดูการทำงานของมัน ก่อนที่จะติดเครื่องให้ปั้มเพาเวอร์หมุน น้ำมันเพาเวอร์แรงดันต่ำ(P1)มันลอดผ่านระหว่างตัววาว์ลกับเสื้อวาว์ลเข้าไปอยู่ในห้องสปริง 1 ตอนนี้ P1 กับ P3 เท่ากันอยู่ พอติดเครื่องให้ปั้มหมุน P2 ก็จะไปดันหัววาว์ลควบคุมแรงดันไปทางขวามือต่อสู้กับแรงดันสปริง 1 อีก แต่มี P3 ที่ไม่มีทางออกไปโดยสะดวกก็จะช่วยออกแรงต้านไว้อีกจนกว่า P3 จะถูกดันจนมีแรงดันเพิ่มขึ้นก็จะไหลผ่านกรองที่มีลูกบอล+ก้านกระทุ้งและสปริง2 ยันอยู่ไปออกที่รูวาว์ลเข้า P1ไป ดังนั้นถ้าไส้กรองอุดตันน้ำมัน P3 ก็ออกไปหา P1 ไม่ได้ เมื่อเร่งรอบเครื่องขึ้น P3 ก็จะออกแรงต้าน P2 ไม่ยอมให้วาว์ลเปิดให้ P2 กลับไปเข้า P1ได้ง่าย ทำให้พวงมาลัยเบาขึ้นกว่าปกติ

สรุป กรองตันทำให้พวงมาลัยเบาเกินที่รอบเครื่องสูง !!! ซ.ต.พ.

อ้าว?.นาย Blue Leo ตื่นๆ ??..

...............สวยดยอด

ความรู้ใหม่ ครับ อ่่านแล้ว เข้าใจ ถึง ระบบ พวงมาลัย รถยุโรป มากขึ้นเยอะ เลย ถึง ว่า ย่ิง ขับรถเร็ว พวงมาลัย เราก้อยงั นิ่ง ยัง โอเค

ไม่เหมือนไปขับรถ ยี่ปุ่น ยิ่งเร็ว มันยิ่งเบา อันตราย เวลา เผลอ โยกแรงๆ

ขอบคุณ สำหรับความรู้ นี้มากครับ...........................