Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: payub chanyakool
วันศุกร์ที่ 05 เมษายน 2013 เวลา 13:34:05
คือผมใช้ 505 ปี93 เครื่องเดิม คาร์บูเรเตอร์ จะใช้ E20,E85 ได้ไหมครับ
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: wut405
วันเสาร์ที่ 06 เมษายน 2013 เวลา 10:34:00
เครื่องคา์ร์บูเรเตอร์ น่าจะต้องจูนใหม่ อันนี้ต้องถามผู้รู้อีกที่ ส่วนผมตอนนี้ เติม E20 เป็นหลัก ใช้ปกติทุกอย่างครับ
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: Horn
วันเสาร์ที่ 06 เมษายน 2013 เวลา 11:54:35
เอารถไปเปลี่ยนท่อยางมาแล้ว ท่อที่เป็นพลาสติกก็เดินท่อใหม่ หมดค่าใช่จ่ายไปไม่มาก สามพันกว่าบาท ตอนนี้เติม E20 ใช้ไม่มีปัญหาอะไร เติมมาหลายครั้งแล้ว วิ่งดีกว่า แก๊สโซฮอล 95 ติดเครื่องก็ง่ายกว่า แถมเติมน้ำมันก็ได้มากกว่า ว่าจะรอดูกล่องที่ใช้ E85 ได้ว่าใช้ได้จริง ก็จะเอามา ประจำการแล้วใช้ E85 เป็นหลัก ถ้าไม่ค่อยใช้รถก็เติม แก๊ส95 ครับ

ทำที่ไหนมาครับผม ขอข้อมูลด้วยว่าเปลี่ยนเส้นไหนบ้างครับ
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: wut405
วันเสาร์ที่ 06 เมษายน 2013 เวลา 14:24:42
เอารถไปเปลี่ยนท่อยางมาแล้ว ท่อที่เป็นพลาสติกก็เดินท่อใหม่ หมดค่าใช่จ่ายไปไม่มาก สามพันกว่าบาท ตอนนี้เติม E20 ใช้ไม่มีปัญหาอะไร เติมมาหลายครั้งแล้ว วิ่งดีกว่า แก๊สโซฮอล 95 ติดเครื่องก็ง่ายกว่า แถมเติมน้ำมันก็ได้มากกว่า ว่าจะรอดูกล่องที่ใช้ E85 ได้ว่าใช้ได้จริง ก็จะเอามา ประจำการแล้วใช้ E85 เป็นหลัก ถ้าไม่ค่อยใช้รถก็เติม แก๊ส95 ครับ

ทำที่ไหนมาครับผม ขอข้อมูลด้วยว่าเปลี่ยนเส้นไหนบ้างครับ
ทำที่ เพชรเกษม69 อู่ช่างอำนวย ครับ เปลี่ยนประมาณ 4 เส้น รวมทั้งท่อที่เป็นพลาสติก ก็เดินแป๊บใหม่ ด้วยครับ
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: hang_306
วันเสาร์ที่ 06 เมษายน 2013 เวลา 14:26:14
อื้มมมมมม น่าเอาซาฟิราไปทำมั่ง ใช้ อี85 ได้นี่ เยี่ยมเลย
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: wut405
วันอังคารที่ 09 เมษายน 2013 เวลา 12:03:39
สรุปตอนนี้เติม E20 เติมไป 2000 บาท วิ่งได้ประมาณ 600 กิโล ตกกิโลละ 3.3 บาท น่าจะมีบวกลบไม่มากกว่านี้ เท่านี้ก็พอใจแล้วครับ
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: arun sound
วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2013 เวลา 17:23:37
ของผม405 gr ก็มี งั้นก็เติม85ได้สิ เดี๋ยวมีโอกาส จะลองเติมซักที
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: P205
วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2013 เวลา 21:04:50

:อะหา อะหา:จากประสบการณ์ก่อนที่ผมจะใช้น้ำมันอะไรผมได้ทดลองกับรถแมงกระไช 2 จังหวะรุ่นเก่าว่าดีใหมถึงจะเอามาเติมรถยนต์ ผลการใช้สุดท้าย E85 ล้วนๆไม่ผสมกับน้ำมัน Eต่างๆ ปรากฎว่าน้ำมันพอใช้ไปสักพักหนึ่งเครื่องเดินไม่สะดวก เร่งไม่ขึ้น ก็ลองถอดคาร์บิวมาดูปรากฎว่าน้ำมันมียางเหนียวตกค้างเข้าไปอุดนมหนูตัวเบา แล้วยางเหนียวก็ไปจับพวกลูกลอย คิดว่าปัจจุบันนี้การควบคุมมาตราฐานการผลิตแอลกอฮอของไทยเราไม่ดีพอทำให้แอลกอฮอไม่บริสุทธิ์ จึงเกิดการตกตะกอนเป็นยางเหนียวๆๆจึงไม่กล้าใส่กับรถยนต์ แล้วอีกอย่างปั้มที่ขายก็มีไม่มาก จึงมาเล่าให้ฟังเฉยๆๆครับ
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: arun sound
วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม 2013 เวลา 21:31:15
ว่ากันว่า
เจ้า85 มันกัดกร่อนยางมาก แรกๆ มันจะเหมือนปรกติ แต่สักพักมันจะกัดยาง
มันก็จะไปอุดตันตามช่องต่างๆครับ
ท่อเดินน้ำมันต้องเปลี่ยนไหม่หมด
รวมไปถึงลูกลอยในถังด้วย
เพิ่งไปศึกษามาเหมือนกันครับ
ขอเอาบทความมาเผยแพร่นะครับ จริงหรือไม่จริงก็พิจารณากันเอา
สำหรับท่านที่เป็นห่วงเรื่องท่อน้ำมัน สายยางหรือปั้มติ๊ก-ลูกลอยของรถเดิม จะบวม-ชำรุด หากนำรถมาติดตั้ง E85-KIT
เฉพาะในรถรุ่นเก่ากว่าปี 2000 เท่านั้นที่ต้องเปลี่ยนท่อสายยางและอะไหล่ดังกล่าวที่ใช้วัสดุทน E85 ได้โดยเฉพาะครับ ในราคาที่ธรรมดามากๆ เช่น -ลูกลอยในถังน้ำมัน ราคาพันกว่าบาท หรือ สายยางท่อน่ำมัน ราคาเมตรละ 300 บาท เป็นต้น เท่านี้ก็สามารถนำติดตั้ง E85-KIT ได้แล้ว
ส่วนรถปี 2001-2004 ก็สามารถใช้งานได้เลย เก็บเงินไปอีกซัก 6 เดือนแล้วค่อยไปเปลี่ยนท่อยาง-ลูกลอยใหม่ที่ศูนย์บริการรถยนต์ของแต่ละยี่ห้อได้เลย วัสดุที่ผลิตใหม่ พ.ศ.นี้สามารถรองรับ E85 ได้อยู่แล้วถึงแม้จะไม่ได้ระบุ E85 ก็ตาม สามารถติดตั้ง E85-KIT แล้วใช้ไปเลยเป็น 10 ปี ค่อยเปลี่ยนใหม่
ส่วนรถปี 2005-ปัจจุบัน ไม่มีปัญหาเลยครับ สามารถติดตั้ง E85-KIT ใช้งานครบ 10 ปีค่อยเปลี่ยนใหม่
ส่วนรถรุ่นเก่ามากๆ (ระบบคาร์บูเรเตอร์) อาจต้องโมดิฟายเยอะหน่อยครับ ค่าใช้จ่ายร่วมหมื่น ดังนั้นจึงไม่คุ้มค่าแนะนำให้ติดแก๊สและใช้แก๊สอย่างเดียวไปเลย หรือไม่ก็เปลี่ยนเครื่องหัวฉีดลงไปเลยแล้วค่อยติด E85 ได้ตามปกติครับ
Re: ไม่ง้อแก๊ส ถอดออก ซะเลย By: P205
วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2013 เวลา 05:51:16

เรามาช่วยกันแรกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพื่อช่วยกันพิจารณา ว่าเป็นจริงได้แค่ใหน ผมไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย จากประสบการณ์ แต่นึกถึงหลักความเป็นจริงว่า E85 คือน้ำมัน+แอลกอฮอตามมาตราส่วน ซึ่งแอลกอฮอนี้ก็ผลิตจากพืชเช่นอ้อย และมันสัมปะหลัง เป็นแอลกอฮอที่กินได้ใช้ผสมเหล้านั่นเอง ทีแรกผมก็นึกว่าแอลกอฮอใช้ล้างแผลเสียอีก ในเมื่อเป็นแอลกอฮอที่กินได้มันก็ไม่น่าจะกัดส่วนใดๆได้เพราะฅนกินเหล้าไม่เห็นผลทันตาเลยกินกันทุกวันนี้เลย

จากประสบการณ์สายยางส่วนที่ทำให้เกิดการเสียหายนั้นมาจากเราใช้รถมานานไม่เคยเปลี่ยนกันเลย รถผมก็เคยเปื่อยน้ำมันใหลโจ๊กเลยเพราะปลายท่อที่มีเข็มขัดรัดนั่นเองดีว่าไฟไม่ไหม้เอา

ดังสมัยก่อนที่เราจะมาใช้น้ำมันปัจจุบันนี้ ก็มีน้ำมันเบนซินธรรมดา คงจำกันได้ พอเขาเปลี่ยนเป็นน้ำมันไล้สารตะกั่ว ประชาชนก็โวยวายกันมากมาย :Mad:ว่าเครื่องจะพังกันบ้างสารพัด พอเขาเปลี่ยนมาเป็น E ต่างๆก็โวยวายเหมียนๆๆเดิม

โทษนั่นโทษนี่แล้วก็ใช้กันปกติ นี่แหละหนานิสัยฅนไทยเรา จึงมาคุยสู่กันฟังครับ
