Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  30X

Pages: 1

ผมอยากจะซื้อรถรุ่นนี้มาก แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย อยากรู้ว่ามันจุกจิก มากไหม และถ้าซื้อมาต้องร้องให้กับค่ารักษาของมันหรือไม่ครับช่วยตอบผมด้วนนะครับ

---

                    ถามแบบครอบคุมเลย การที่เราชอบรุ่นนั้นๆ แสดงว่าคุณก็ได้ดู ศึกษา หาข้อมูลเกี่ยวกับมันมาบ้างมั่งหล่ะ เช่น รุ่นนี้มีกี่ version   ออกมาตั้งแต่ปีไหนถึงปีไหน เคยแอบดูภายในของใครมาก่อน    ใช่ไหมครับ เรื่องที่ว่าซื้อมาแล้วจะจุกจิกไหม ต้องไปเสียค่าบูรณะอีกแค่ไหน ตอบตามตรงว่ามันอยู่ที่รถคันนั้นที่จะไปซื้อมันดีขนาดไหน โทรมจากคนเก่าไม่รักษามากน้อยอย่างไงมากกว่า  แต่โดยมากเมื่อเราได้มาก็มักจะต้องเปลี่ยนพวกสายพานต่างๆ ของเหลวพวกน้ำมันเครื่อง เกียร์ เบรค ประเภทเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการซื้อมือสองมาเราจะได้จดบันทึกเอาไว้สำหรับการเปลี่ยนถ่ายครั้งต่อไป เพราะเราไม่รู้ว่าคนเก่าเขาเปลี่ยนมาเมื่อไหร่นานหรือยัง แต่การที่เราก่อนจะซื้อก็ควรได้ทดลองขับเพื่อทดสอบช่วงล่าง เบรค ระบบต่างๆ ของมันเสียก่อนว่ามีสิ่งไหนบกพร่องบ้างซึ่งเราดูภายนอกไม่รู้ ถ้ามีมันมีสิ่งบกพร่องช่วงล่างดังคุณก็ประเมินไว้เลยว่าถ้าเอาคันนี้ชอบคันนี้ต้องเพิ่มค่าทำช่วงล่างใหม่ด้วย คุณก็ขอส่วนลดเพื่อเอาไว้มาทำด้วย อย่าตัดสินใจเพราะอยากได้อย่างเดียว ดูเกียร์ ดูสีรอบคัน ดูว่ามีการเกิดอุบัตเหตุมาบ้างหรือเปล่าหนักไหม นอกนั้นมีอะไรก็เข้ามาถามพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ใช้รุ่นนี้ได้ครับ

---

ความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ที่ใช้ 306 SR มือเดียวมาตลอดครับ
เรื่องสมรรถนะของรถมือสองที่หาซื้อได้ในราคาระดับ 150K - 250K แล้วผมว่า
PG เป็นรถที่มีสมรรถนะที่ดีและคุ้มค่ามาก
แต่โดยทั่วไปรถที่ใช้งานมาประมาณ 5 - 7 ปี (150000 - 200000 Km)
จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องเริ่มเปลี่ยนอะไหล่ที่มีราคาแพงเช่น คลัช , ปีกนก , ช่วงล่าง
ซึ่งจะเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน ถ้ารถที่เราจะซื้อผ่านการบำรุงรักษาและเปลี่ยนอะไหล่พวกนี้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อมาถึงมือเราอย่างมากก็แค่ซ่อมบำรุงสิ่งเล็กๆน้อยๆให้สมบูรณ์เท่านั้นเอง

เคยใช้งานรถบริษัทเป็น City type-Z , Corola ซึ่งราคามือสองปีเดียวกับPGราคาจะสูงกว่ามากแต่พอลองขับแล้ว
ความรู้สึกในสมรรถนะมันต่างกันมากๆ

ถ้าได้ 306 XR ซึ่งอยู่ในสภาพการใช้งานปกติ เครื่องไม่มีปัญหาและมีการดูแลแก้ไขตลอดเวลา
ผมว่าเป็นรถที่คุ้มค่ามากๆเมื่อเทียบกับรถยี่ห้ออื่นในราคาประมาณนี้ที่จะสามารถหาได้
 
เท่าที่ใช้งานมารถของผมไม่มีปัญหาจุกจิกอะไรเลย
มีการเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งานเป็นเรื่องปกติ
เพียงแต่อะไหล่ส่วนมากจะมีราคาสูงกว่ารถญี่ปุ่นเท่านั้นเอง

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง :
ต่างจังหวัด 110-120 Km/h = 15.5 Km/L
ในเมือง ดอนเมือง-อโศก-สีลม = 9 Km/L
สามารถติดตั้งแก๊สได้
พี่ที่รู้จักในเวปนี้นำ 306 ไปติดแก๊สมาแล้วใช้งานได้ดีมากไม่มีปัญหาอะไรเลย

---

ซื้อรถมา  131,499  บาท  อะไหล่ที่เปลี่ยนมีดังต่อไปนี้
หมายเหตุ  ข้อที่ไม่ได้ลงค่าแรงไว้  หมายความว่าเปลี่ยนเอง  ผมเลยไม่รู้ค่าแรงจ้างเปลี่ยนครับ
 
1   ฝาหม้อน้ำ  220 บ
2   สายหัวเทียน  1 ชุด  1250  บ
3   หัวเทียน  4  หัว  560  บ
4   สวิทซ์กุญแจสตาร์ท  2750  บ
5   ฝาครอบล้อแม็ก  4  อัน  360  บ
6   วาลว์น้ำ  230 บ
7   มอเตอร์พัดลมไฟฟ้า  2850 บ
8   สวิทซ์ความร้อน  500 บ
9   ซุ้มล้าซ้าย  640 บ
10  กันโคลน  4  ล้อ  660  บ
11  หัวเกียร์กระปุก  540  บ
12  รีเลย์พัดลมหน้า  3 ตัว  450  บ
13  ยางกันฝุ่นเพลาตัวใน  540  บ  (ค่าแรง  400  บ)
14  หลอดไฟเลี้ยวซ้ายหน้า  270 บ
15  ยางรองแท่นเครืองตัวล่าง  290  บ  (ค่าแรง 400 บ)
16  ขาตุ๊กตา  1290  บ  หนึ่งข้าง  โดนอู่ฟันเพราะไม่ได้ซื้อของไป  ของเก่าที่ใส่มาเป็นของ  505
17  ย้ายเข้าจังหวัดนนท  225  บ
18  หลอดไฟหน้า  2  หลอด  240 บ
19  กรองเบนซิน  270  บ
20  กรองเครื่อง  180  บ
21  บล๊อกเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง  500  บ
22  รีเลย์ไฟเลี้ยว  3 ขา  340  บ
23  กิ๊ปกระจกประตูหน้า  60  บ
24  สายคันเร่ง  1200  บ
25  ซ๊อกเก็ตพร้อมหางปลา  2  ชุด  120  บ
26  ตรวจสภาพรถ  150  บ
27  ต่อทะเบียน  1430 บ
28  พรบ+ ประกัน 3  2800  บ
29  ยางหุ้มเลคซ้ายขวา 360  บ  (ค่าแรง  200  บ)
     ยางกันฝุ่นแกนเลค  160  บ
30  ลีเลย์พัดลม มือสอง  2 ตัว  200 บ
31  น้ำหล่อเย็น  152 บ
32  น้ำกลั่น  5.5  บ
33  ติดตั้ง  LPG  7960  บ
34  โช๊คคุ่หน้า  1200 บ  เป็นแบบซ่อมรวมค่าแรงแล้ว
      ยางกันฝุ่น  300  บ
      ยางกันกระแทก  480  บ
      เบ้าโช้คพร้อมลูกปืน  1800 บ
35  ลูกหมากปีกนกล่าง 2  ตัว  1120  บ
36  ลูกหมากคันชักใน  2  ตัว  640 บ
37  ลูกหมากแล๊คตัวใน  2  ตัว  1160 บ
38  บุชปีกนกล่าง  ตัวหน้า 4  ตัว  920  บ
39  บุชปีกนกล่าง  ตัวหลัง 2 ตัว  1080 บ
40  ผ้าเบรคหน้า  1100  บ
41  ผ้าเบรคหลัง  17500 บ
42  ชุดซ๋อมกระบอกเบรคหลัง  2 ชุด  300 บ
43  น้ามันเบรค  100 บ
44  ค่าแรง ข้อ 34-42  1050  บ
45  ตั้งศูยน์  200  บ
46  เหล็กวัดน้ำมันเครื่อง  130 บ
47  เหล็กวัดน้ำมันเกียร์  500  บ
48  รีเลย์ควบคุมอุณหภูมิน้ำ  1900  บ
49  รีเลย์ปั๊มติก  780  บ
ตอนนี้กำลังรื้อระบบแอร์อยู่  แล้วจะมารายงานผลให้ทราบนะครับ  รถทุกยี้ห้อนะครับที่เราซื้อต่อเค้ามาเป็นรถที่พร้อมซ่อมอยู่ตลอดเวลาครับ  เพราะฉนั้นอย่างกังวลเรื่องซ่อมกับ เปอร์โยต์ครับ  ยี้ห้อไหนก็ซ่อมเหมื่อนกัน  สาระสำคัญอยู่ตรงที่ซ่อมจบครับ  แล้วสมรรถนะภาพที่เราได้กลับมา  เราจะบอกว่าคุ้มมากครับกับรถยี่ห้อนี้  ถ้าผมซื้อ  อีคาร์  ผมต้องกำเงินไป 250 ,000 บาท  ปี  96  ก็ต้องเอามาซ่อมเหมือนกัน รายการซ่อมก็คล้าย ๆ กันไม่แตกต่างกันหรอก  ถ้ากลัวซ่อมต้อง  ป้ายแดงครับ 
 
 

---

พี่ครับ รวมเเล้วซ่อมเท่าไรครับ

---

คุณปั๊น  ไม่ต้องตกใจกลัวรถเปอร์โยต์นะครับ  ถ้าชอบและเป็นรถที่อยู่ในใจ  ดูกี่ครั้ง ๆ ก็ดูดีดูสวย  ซื้อได้เลยครับ  เพราะรถที่คุณจะซื้อ  อาจจะมีสภาพที่ดีกว่ารถของผมเยอะ  ขอให้เลือกรถที่เจ้าของเค้ายังใช้รถอยู่  เพราะเค้าจะต้องดูแลอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อมาถึงมือคุณ  การดูแลต่อก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร   ปัญหา  และรายการซ่อมต่าง ๆ  ก็ไม่มีมากเหมือนผม  ถึงผมจะซ่อมตามรายการที่ชี้แจ้งไปไหน  ผมก็ไม่เคยเบื่อเค้าเลยครับ  เพราะเค้ากับผมเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน  เมื่อผมซ่อมตามรายการที่บอกแล้วนะครับคุณจะได้รถที่น่าขับไปอืกไม่ต่ำกว่า  2  ปี  ที่ผมต้องซ่อมชุดใหญ่เพราะว่าอาชีพของผมต้องมีเค้าอยู่ด้วยตลอดเวลา    (อยู่มากกว่าเมียซะอีก)  เพราะฉนั้นผมเลยต้องเต็มที่กับเค้า     
หมายเหตุ  อย่าซื้อรถที่จอดทิ้งไว้นาน  อย่าซื้อรถที่เจ้าของจะไปนอก  อย่าซื้อรถเพราะที่บ้านมีรถหลายคัน  ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูสภาพของรถประกอบด้วยครับ   

ขอให้โชคดีกับรถที่เล็งไว้นะครับ

---

ขอความรู้เพิ่มหน่อยครับ  ว่าทำไมถึงอย่าซื้อรถที่เจ้าของจะไปนอก  อย่าซื้อรถเพราะที่บ้านมีรถหลายคัน

---

ข้อนี้พอทราบครับ ถ้ามีรถหลายคันการดูแลก็จะไม่ทั่วถึง บางคันจอดไว้เฉยๆแทบไม่ได้ขับเลยครับ ไมล์วิ่งน้อยแต่ปัญหาเยอะ เคยไปดูรถที่บ้านหนึ่งเจ้าของคนเดียวมีรถเกือบ 30 คัน อาศัยให้ศูนย์บริการไปเอารถมาเช็ค เช็คเสร็จก็กลับไปจอด ซื้อต่อมามีปัญหาเรื่องระบบไฟกว่าจะหาสาเหตุกันเจอ ก็ปวดหัวไปหลายเดือน

เมื่อก่อนผมคนเดียวขับอยู่ 3 คัน จะขายก็เสียดาย พอนานวันสลับรถขับไม่ไหว ก็เลือกคันที่เราใช้สะดวกที่สุดมาใช้ พอนึกได้ว่ามีอีก 2 คันไม่ได้ขับมาหลายวันแล้ว พอจะไปเอามาขับ ยางแบนลมอ่อน ต้องไปเติมลมอีก หนักเข้าก็ไม่ได้ขับจอดทิ้งเลย ตอนนี้ขายไป 1 คัน อีกคันเอาไปทิ้งให้ญติที่ต่างจังหวัดใช้ ขายก็ไม่คุ้มค่าเสียแล้ว

---

มารายงานต่อครับ  เรื่องระบบแอร์   แอร์เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง 

1  เติมน้ำมันคอม  250  cc  120  บาท  (เติมเอง)
2  โอริง  หน้าคอม  2  วง  15  บาท
3  ถังน้ำยาแอร์  1 ใบ  150  บาท
4  น้ำยาแอร์  2  โล  700  บาท
5  เกจวัด  1  ชุด  900 บาท
6  หัวต่อ 134 a  400  บาท
7  รื้อตู้แอร์  (ทำเอง)   ถ้าจ้าง  2000  บาท
8  คลอย์เย็น  3000  บาท
9  วาลว์  1900  บาท
10  ดราย์เอร์อ  1900  บาท
11  น้ำยาอีก  1  โล  350  บาท
12  เครื่องแวค  ยืม  อ.พงษ์

---

คุณ tuk ทำ(เอง)จะหมดคันอยู่แล้วนะครับเนี่ย

---

ก็ผมมีงบประมาณน้อยครับ  คุณ MO306  แต่ก็ยังดีทีได้เพื่อน ๆ  ในเวปนี้ช่วยแนะนำ  ที่ผมไม่กล้าไปทำข้างนอกเพราะผมคิดว่าเสียที่มือเราดีกว่า  ได้ประสบกราณ์  แต่ถ้าไปเสียที่อู่ที่มันไม่รู้เรื่อง PG  จริง ๆ  นิ  ผมร้องไห้เลย    และต้องขอขอบคุณ คุณMO306 ด้วยครับที่ให้คำแนะนำที่ดีผมมาตลอดเลย

---

สุดยอดครับคุณ tuk ขอนับถือในความตั้งใจครับ อย่างนี้เปิดอู่เปอร์โยได้สบาย....   คุณปั้นคงประมาณราคาคร่าวๆได้นะครับ แต่ที่แน่ๆ อย่างน้อยต้องเข้าใจการทำงานระบบต่างๆของรถได้บ้าง ไม่งั้นจะโดนช่างฟันโดยไม่จำเป็น และต้องพยามใช้ความรู้สึกจับความผิดปกติต่างๆ ให้มากที่สุด อาจเหนื่อยหน่อยในช่วงแรก พอเข้าที่เข้าทางแล้ว คุณจะรู้ว่ามันให้อะไรที่ดีๆกับคุณมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรกซะอีกนา

---

ของดีราคาถูกไม่มีหรอกครับในโลกนี้   ประโยคนี้ใช้ไม่ได้กับ เปอร์โยต์  นะครับ  แต่มีวงเล็บนะครับ (ต้องซ่อมอีกนิดหน่อยนะ)

---

SMF Archive Funded by SMF For Free Free Forum Hosting
SMF Hacks