Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  มือใหม่ถามทางนี้

Pages: 1

รบกวนพี่ๆทั้งหลายแนะนำหน่อยครับว่าจะต้องทำอะไรก่อนขอแบบละเอียดนะ..ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

---

 ...พี่โจค๊าบ...!!! พี่วัฒน์เลยพี่...ละเอียดยิบๆแน่นอน!!!...

---

จะเอาแบบหัวฉีด หรือ ระบบดูด ครับ

หัวฉีดก็ ยี่สิบพัน
ระบบดูดก็ สิบกว่าพัน

---

แบบไหนดีกว่าครับพี่วัฒน์

---

ผมติดหัวฉีด  AG มาที่บอยแก๊ส ราคา25000 บาท รวมใบวิศว ก่อนไปติดตั้งก็เปลี่ยนหัวเทียน กรองอากาศใหม่ได้ก็ดีครับ

---

ขอถามอีกหน่อยคำว่าอุปกรณ์แก็สมือ 2 นี่คุณภาพเ+ราคาเป็นอย่างไร
เมื่อเทียบกับมือ 1....  

---

ผมติดชุด Power Jet มาครับ เป็นระบบหัวฉีด..ติดมา 25000 เช่นกัน...
ผมแนะนำว่า ..ติดระบบบหัวฉีด ดีที่สุดสำหรับเจ้าสิงห์ของเราครับ..เพราะว่า ท่อร่วม ID ของเรามานเป็นพลาสติก(มั้ง) แต่มันแตกได้หากเกิดการ แบคไฟ นะครับ แพงค่าติด..ดีว่าต้องเปลี่ยนอะไหล่ทีละ หลายพันนะครับ

---

แนะนำให้ติดแบบหัวฉีด AC รุ่นไหนก็ได้ครับจูนง่าย ผมเพิ่งไปติดมาเบ็จเสร็จอย่าให้เกิน 26000 นะครับ

---

อยากดมแก๊สแล้วซิ เดี๋ยวผมตามไปบ้าง

---

1เอาเลยครับแล้วจะรู้ว่ามันประหยัดแค่ไหน   

---

ช่วยแนะนำร้านหน่อยครับท่านที่เคยติดแล้วจบไม่มีปัญหาตามมา....

---

ทั้งสองแบบมีข้อดี ข้อด้อยทั้งคู่

หัวฉีด  เป็นการติดตั้งแบบเรียนแบบการจ่ายเชื้อเพลิงของน้ำมัน  โดยมีกล่อง อีซียู(แก๊ส)  เป็นตัวควบคุมการจ่ายแก๊ส ซึ่งกล่อ อีซียู(แก๊ส)นี้จะรับสัญญานวัดรอบและมีเซ็นเซอร์แว๊คคัม เพื่อเอามาประมวณอัตราการจ่ายแก๊ส ว่าเมื่อไหร่ควรจ่ายมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นแก๊สระบบหัวฉีดจึงจ่ายแก๊สได้ใกล้เคียงน้ำมัน(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจูนด้วย) อัตราเร่งจะใกล้เคียงน้ำมันและยังสามารถปรับจูนเพิ่มเติมได้อีกเล็กน้อย

แต่เมื่อมีข้อดีก็มีข้อด้อยในตัว  อันดับแรกเลย ค่าติดตั้งเบื้องต้นแพงกว่ารบบดูดหลายอยู่ น่าจะ หมื่นกว่าบาท การติดตั้ง+ซ่อมบำรุง  ก็ยุ่งยากกว่า เพราะการปรับจูนต้องใช้คอมพิวเตอร์จูน ดังนั้นหากผู้ขับขี่ไม่มีคอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์จูน สายจูน หรือจูนไม่เป็นก็ต้องพึ่งพาคนอื่น กรณีฉุกเฉิน หรืออยู่ต่างจังหวัด อันนี้ลำบากแน่นอน อีกประเด็นคือ เนื่องจากกล่อง อีซียู(แก๊ส)จำเป็นต้องใช้ไฟเลี้ยงจากแบต  ในบางครั้งที่เราเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ อาจทำให้ความจำของกล่องอีซียู(แก๊ส)เพี้ยนได้

ระบบดูด(มิกซ์เซอร์)  เป็นการจ่ายแก๊สโดยการจ่ายแก๊สให้เข้าไปผสมกับอากาศ ในท่ออากาศ แล้วเข้าไปในห้องเผาไหม้โดยอาศัยแรงดูดอากาศที่เข้าไปในห้องเผาไหม้  ดังนั้น ระบบนี้จึงไม่มีอะไรที่ซับซ้อนมากมาย การจ่ายแก๊สจะจ่ายแก๊สนปริมาณคงที่ แต่จะมากหรือน้อยนั้นอยู่ที่แรงดูดของเครื่อง หากเครื่องดูดอากาศเข้าเครื่องมากก็จะดูดแก๊สมากตามไปด้วย ระบบนี้มีข้อดีคือค่าติดตั้งเบื้องต้นถูกกว่าระบบหัวฉีดเยอะอยู่  การติดตั้งไม่ยุ่งยาก การดูแลและจูนแก๊สผู้ขับขี่มีเพียงไขควงพร้อมทักษะก็สามารถจูนเองได้ ระบบต่างๆก็พึ่งระบบไฟเพียงจ่ายไฟไปเพื่อสั่งให้ ติ๊กแก๊สเปิดจ่ายแก๊สเมื่อต้องการ(เครื่องดับติ๊กแก๊สก็จะปิดจ่ายแก๊สทันทีเช่นกัน) และเนื่องจากระบบดูดเป็นระบบที่ไม่ซับซ้อนมากนักประกอบกับในเมืองไทยมีการใช้แก๊สระบบดูดอย่างแพร่หลายมากว่า 30 ปี เดิมแท็กซี่ทุกคันใช้ระบบนี้ทั้งนั้น  ดังนั้นการแก้ปัญหาจึง น่าจะทำได้ไม่ยากส์นัก อยู่ต่างจังหวัด การจูนใช้เพียงไขควง 1 อัน บวกกับผู้ที่เคยฝึกจูน(ผู้ขับขี่) ก็สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว

ส่วนข้อเสียนั้น คือระบบดูดนี้อาศัยแรงดูดของอากาศที่ผ่านปีกผีเสื้อเข้าไปในเครื่องเป็นตัวควบคุม แต่ก็ยังจ่ายแก๊สในปริมาณคงที่ ดังนั้นอัตราเร่งของระบบดูดจึง ช้ากว่าและไม่สามารถจ่ายแก๊สผกผันตามอัตราเร่งได้ดีเท่าที่ควร ซึ้งตรงนี้สามารถชดเชยได้ด้วยการเลือกใช้ ขนาดของรูมิกซ์เซอร์ หากขับในเมืองก็อาจใช้มิกซ์เซอร์ขนาดรูเล็กหน่อย การออกตัว ก็จะดีและประหยัด หากชอบการขับขี่ที่ความเร็วสูงๆก้อาจใช้ขนาดรูมิกซ์เซอร์ใหญ่ขึ้น  แต่การออกตัวและรอบเดินเบาก็อาจไม่ดีนัก

มาพูดถึงเรื่องแบ๊คไฟล์  การแบ๊คไฟล์ นั้นเท่าที่เคยพบ มันสามารถแบ๊คไฟล์ได้ทั้ง สองระบบ  หากระบบไฟ ระบบจุดระเบิด ระบบเผาไหม้ ของรถและของระบบแก๊สเองบกพร่อง ระบบดูดนั้นหากเลือกมิกซ์เซอร์ได้เหมาะสมและจูนแก๊สได้ดี ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดการแบ๊คไฟล์พร่ำเพื่อ หากเกิดการแบ๊คไฟล์ก็แสดงว่ามีจุดใดจุดหนึ่งที่ผิดปกติ  แก๊สระบบหัวฉีดเองก็เช่นกัน

---

พี่วัฒน์ไอ้คำว่าแบ๊คไฟล์ นี่มันคืออะไรครับ(แปลไม่ออกบอกไม่ถูกแถมปาษาอังกฤษตรางูก็ไม่แข็งแรง)ช่วยที....
 

---

มันคือการเกิดการเผาไหม้เชื้อเพลิงนอกห้องเผาไหม้(ในท่ออากาศ) ครับ

---

ไม่ว่าจะเป็นหัวฉีดหรือมิกซ์เซอร์ถ้าติดแล้วจะรู้ว่าทำไมเราเพิ่งมาติดอิอิ..

---

Yessssssss

---

ขอบคุณทุกท่านครับที่ให้ข้อมูล ขอเวลาอีกสักระยะหนึงก่อนเพื่อไปขุดเงินที่ฝังอยู่ซึ่งจำไม่ได้ว่าฝังไว้ที่ไหนบ้างอีกไม่นานเกินรอ...ปล.ใครจแบ่งขายอุปกรณ์แก็สเชิญได้ครับจะได้เป็นตัวเลือก....

---

แบ็กฟาย ประมาณว่าแก๊สที่เผาไหม้ไม่หมด

มันไหลย้อนกลับ หรือ อาจจะหลงเหลือเป็นส่วนหนึ่ง

พอไม่มีที่ออกก็ไปรวมตัวกันอยู่ที่กรองอากาศ

แล้วเกิดการระเบิดทำให้กรองอากาศเสียหาย

ประมาณนี้อ่ะครับ

---

ลองศึกาดูครับ

...แบคไฟร์ มันคืออะไร..

แบคไฟร์ (Back Fire) เป็นอาการที่เกิดจากการสันดาปของเชื้อเพลิงภายนอกกระบอกสูบ เป็นเรื่องที่พบได้ทั้งเครื่องยนต์ที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง หรือแม้นกระทั่งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเอง ก็มีบางครั้งที่จะพบเจอะอาการนี้ อาการเบื้องต้นที่เจอะจะมีการระเบิดย้อนภายในท่อร่วมไอดี อาจทำให้ระบบควบคุมประจุไอดีชำรุดได้ จำพวกมาตรวัดอากาศ (Air Flow) หรือลิ้นปีกผีเสื้อ

การเกิดแบคไฟร์ได้นั้นมีองค์ประกอบคือ เชื้อเพลิง และอ็อกซิเจนในอากาศ การเกิดแบคไฟร์ส่วนใหญ่จะเกิดในกรณีที่ส่วนผสมบางเกินไป จะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆและจะเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ตกค้างอยู่ภายในท่อร่วมไอดี ส่วนผสมของเชื้อเพลิงกับอากาศที่บางเกินไปจะมีค่าอ็อกซิเจนอยู่ในส่วนผสมมาก ส่วนผสมที่บางจะสันดาปตัวเองได้ง่ายเมื่อมีอุณหภูมิถึงจุดสันดาป โดยไม่ต้องพึ่งพาเปลวไฟจากเขี้ยวหัวเทียน การเกิดแบคไฟร์นั้นอาจเกิดได้ในเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง เกิดในกรณีเดียวกันแทบทุกอย่าง แต่การฉีดเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เบ็นซินนั้นการฉีดจะบางได้มีอยู่ไม่กี่กรณี คือ ปั๊มเชื้อเพลิงแรงดันตก หัวฉีดเชื้อเพลิงทำงานผิดปกติ หรือ มาตรวัดอากาศประมวลผลผิด (เร่งเครื่องแต่จับสัญญาณการไหลของอากาศได้ต่ำกว่าความจริง) ถ้าในกรณีเครื่องยนต์ที่ใช้คาร์บูเรเตอร์จะเกิดจากการใช้ขนาดนมหนูน้ำมันที่ไม่เหมาะสม จากอาการข้างต้น การที่เราจะเอาระบบแก๊ส ไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ NGV มาใช้ในรถยนต์นั้นองค์ประกอบที่เหมาะสมถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ในระบบดูด ( Mixer ) ระบบพื้นฐานคล้ายคาร์บูเรเตอร์ ปากผสมจึงเป็นจุดหลักของอาการแบคไฟร์ และ มีหม้อต้ม เป็นตัวเสริมที่บ่งบอกว่าขนาดปากผสมนั้นเหมาะสมกันหรือไม่

ทำไมเครื่องยนต์สมัยใหม่เมื่อนำไปใส่ระบบดูดที่สามารถใช้กับเครื่องยนต์ที่มีความจุเท่ากัน แต่ยังเกิดอาการแบคไฟร์อยู่ การเกิดอาการแบคไฟร์ในระบบดูดที่ใช้กับเครื่องยนต์สมัยใหม่นั้น ส่วนใหญ่มักมีปัญหาจากระบบแปรผันวาวล์ไอดี ซึ่งเมื่อระบบนี้ทำงานจะทำให้ค่าการไหลของอากาศมากขึ้นโดยเฉียบพลัน ปกติการทำงานของระบบแปรผันวาวล์ถูกออกแบบมาให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งที่ดี แต่การเกิดแบคไฟร์ในเครื่องยนต์ทั่วๆไปนั้นก็มีความเสี่ยงในขณะที่ส่งคันเร่งเร็วๆในกรณีเร่งแซง แต่เมื่อถูกผนวกไปกับการปรับค่าการเปิดวาวล์ที่นานขึ้นทำให้ปริมาณอากาศที่ไหลผ่านมากขึ้นตามไปด้วยโดยที่หม้อต้มไม่สามารถที่จะชดเชยได้ทันก็จะเกิดอาการแบคไฟร์ได้โดยง่าย เรียกได้ว่าถ้าระบบเครื่องยนต์ที่มีการประจุไอดีที่ซับซ้อน ระบบดูดจึงไม่ใช้ทางเลือกที่ดีนัก

แต่อย่างไรก็ตามการเกิดแบค์ไฟร์นั้นอาจมีข้อปลีกย่อยจากตัวเครื่องยนต์เองอีกส่วนนึง อาการจากสายหัวเทียนรั่ว หรือ คอย์จุดระเบิดรั่ว(ในรถที่ใช้คอย์แยก) หรือแม้นแต่กระทั่งเขี้ยวหัวเทียนที่ห่าง ก็สามารถที่จะทำให้เกิดอาการแบคไฟร์ได้

GasThai.com ขอขอบคุณบทความโดย คุณ Sor
 
 

---

ถูกที่ซู้ดครับ... ผมตัดสินใจติดแก๊ส..เมื่อการขับรถครั้งที่ 4 ครับ..เนื่องจากเข้ากรุงเทพ ไปอยุธยา..แล้วเติมน้ำมันไป 800 วันรุ่งขึ้น...เข้าติดทันทีครับ

---

SMF Archive Funded by SMF For Free Free Forum Hosting
SMF Hacks