อย่างที่รู้ๆ กันว่าแอลกลฮอล์มันมีค่าพลังงานน้อยกว่าเบนซิน
ยิ่งมีเปอร์เซ็นแอลกลฮอล์มาก รถก็จะวิ่งได้ระยะทางน้อยลง (ต่อเชื้อเพลิง 1 ลิตร)
มีบางเวบใน USA เค้าเอารถ FFV (flex fuel vehicle) ไปลองวิ่งเทียบความคุ้มค่า
ลองดู
http://www.edmunds.com/advice/alternativefuels/articles/120863/article.htmlE85 วิ่งได้ 13.5 mpg, เบนซินวิ่งได้ 18.3 mpg
คิดออกมาเป็นเงินแล้ว E85 เปลื้องเงินกว่า

มันเลยขึ้นอยู่ที่ว่า ราคา E85 ในบ้านเรามันจะเป็นเท่าไหร่ ใช้แล้วจะคุ้มไหม (เมื่อคิดเป็นบาทต่อกม.)
ถ้าเอาตัวเลขข้างบนมาใช้คำนวณคร่าวๆ จะได้ว่า ราคา E85 ต้องไม่เกิน 74% ของเบนซิน
หรือประมาณ 33 บาทต่อลิตร (วัีนนี้เบนซิน 95 ราคา 43.89 บาทต่อลิตร)
แต่บ้านเราชดเชยให้ E10 ค่อยข้างเยอะ ฉะนั้นถ้าเทียบกับ E10 โดยสมมุติว่า E10 วิ่งได้น้อยกว่าเบนซิน 5%
ราคา E85 ต้องไม่เกิน 78% ของ E10 หรือประมาณ 30.5 บาทต่อลิตร (วัีนนี้ E10 39.19 บาทต่อลิตร)

ส่วนการแปลงนั้น มีหลักๆ 3 อย่างที่ต้องทำ
1) แปลงทุกส่วนที่สัมผัสกับ E85 และสามารถโดน E85 ทำให้เสียหายได้ เช่น ถังน้ำมัน, ปั๊มติ๊ก, ท่อน้ำมัน, กรอง, ...
2) แปลงให้หัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงมากขึ้น เพื่อชดเชยค่าพลังงานที่น้อยลงของ E85
3) ป้องกันความเสียหายจากสภาพความเป็นกรดในห้องเครื่อง (ไม่แน่ใจว่าอุณหภูมิสูงขึ้นด้วยไหม)


