ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 06:51:49

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง
| | |-+  ทำไมรัฐ ถึงอยากให้เราเติม NGV
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมรัฐ ถึงอยากให้เราเติม NGV  (อ่าน 1498 ครั้ง)
KonG_S16
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,093



« เมื่อ: วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2008 เวลา 09:06:51 »


มี Fwd mail: มีคนส่งเมลมาให้ครับ (ทำไมรัฐต้องพยายามหาทางขั้นราคา LPG)
อ้างถึง
           เรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย ไม่ว่าเป็น ดีเซล เบนซิน
แก๊สโซฮอล NGV หรือ LPG ต่างก็ยังไม่ได้ลอยตัวครับ
ถ้าให้ลอยตัวเหมือนกันหมดราคาเชื้อเพลิงที่ กล่าวถึงก็คงจะขึ้นราคา แต่คงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตรครับ แต่ที่ ปตท.
ซึ่งไม่ใช่หน่วย งานของรัฐ เป็นบริษัทเอกชน เช่น เอสโซ เชลล์
มาออกข่าวว่าต้องขึ้นราคาแก๊ส LPG อีก 11 บาทนั้น เขาอ้างอิงจากราคาตลาดโลก
แต่ประเทศไทยผลิตได้เองส่วนหนึ่งจาก แหล่งผลิตในประเทศ และจากการกลั่นน้ำมันดิบ

        ประเทศในยุโรป ไต้หวัน เกาหลี อินเดีย และอีกหลายประเทศ รัฐบาลเขามีนโยบาย
        สนันสนุนผู้ใช้แก๊ส ทั้ง NGV และ LPG ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ในครัวเรือน หรือ
        ในการขนส่ง ด้วยสาเหตุที่ว่า แก๊ส LPG และ NGV เป็นเชื้อเพลิงสะอาด (clean fuel) หรือพลังงานสะอาด (clean energy)
ลดมลภาวะในอากาศที่เกิดจากการใช้ เชื้อเพลิงประเภทเบนซินหรือดีเซล
ประโยชน์ที่ได้รับจากการสนับสนุนตรงนี้คุ้มกว่าผลเสียที่ก่อให้เกิดทางสังคม เช่นโรคทางเดินหายใจ หรือโรคอื่นๆ มาก
หลายประเทศรัฐบาลเขาออกมาประกันราคา NGV และ LPG ว่าจะไม่ขึ้นภายในเวลาหนึ่งเพื่อส่ง
        เสริมให้ประชาชนเขาลงทุนติดตั้งระบบแก๊สในรถยนต์ในประเทศไทย การใช้แก๊ส LPG ในรถยนต์มีมามากกว่า 20
ปีเท่าทีผมจำความได้ หรือมากกว่านั้น ถ้าจำไม่ผิดรัฐบาลเองในยุคก่อนมีนโยบายส่งเสริมการใช้LPG เหมือน
        กับประเทศอื่นๆ ด้วยซ้ำแต่มาในยุค ปตท. แปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจที่เป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ
ไปเป็นบริษัทเอกชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
(ด้วยการขายหุ้นราคาถูกกว่าราคาจริงเบื้องต้น เปรียบเสมือนเอาสมบัติของประเทศมาขายในราคาต่ำกว่าราคาจริง
ให้กับพวกพ้องคนรวยไม่กี่ตระกูล) รัฐบาลกับมีนโยบายสนับสนุนการใช้ NGV ในรถยนต์
โดยให้คำมั่นว่าจะคง ราคา NGV ไว้ที่ กก. ละ 8.50 บาท ส่วน LPG
ที่เคยส่งเสริมนั้นไม่พูดถึง แต่มา เร็วๆ นี้ ปตท. และ รัฐบาล ออกมาอ้างว่าต้องขึ้นราคา LPG
เพราะอุ้มสุดตัว และบีบ ผ่านทาง ปตท. ไม่ให้เกิดปั้มแก๊ส LPG หรือด้วยวิธีการอื่นๆ
และจะขึ้นราคา NGV อีก  ... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน
สนับสนุน การใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG มีดังนี้

        1. ปตท. เป็นผู้ผูกขาดธุรกิจ NGV แต่ผู้เดียวในประเทศไทยไม่มีการแข่งขัน
        2. ปตท. รับซื้อแก๊สธรรมชาติ (natural gas)จากพม่าผ่านทางท่อส่งมายังราชบุรี ซึ่งการวางท่อส่งแก๊สนี้ทำให้เกิดปัญหากระทบกระเทือนสภาพแวดล้อมซึ่งเป็นการลงทุน
        ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ปตท. ที่เรารู้กันอยู่ปตท. จำเป็น ต้องขาย NGVให้มากที่สุดเพื่อคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายให้พม่าเป็นค่าแก๊ส
        3. ปตท. ต้องแสดงผลประกอบการเป็นกำไร เพื่อให้ผู้ถือหุ้น (ใหญ่) พอใจเพื่อให้ผู้ บริหาร ปตท. ได้อยู่ในตำแหน่ง ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินเดือนค่าจ้างสวัสดิการ ที่สูงลิ่ว
        4. นักการเมืองที่ดูแลกระทรวงพลังงาน เป็นอดีตพนักงานระดับสูงของ ปตท.
        5. ปตท. สนับสนุนการใช้ NGV ด้วยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์และการสนับสนุนราคา ถังแก๊ส NGV จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ยอมลงทุนสร้างปั้มแก๊ส NGVให้ทั่วประเทศ และระบบ
        ส่งแก๊ส NGV ไม่สามารถหาผู้ร่วมลงทุนจากเอกชนรายอื่นๆ ได้เพราะเขารู้ว่าไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ของ ปตท. เอง
(ขอย้ำว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์ต่อสังคม) อีกทั้งข้อจำกัดทางเทคนิคไม่เป็นที่นิยมของผู้ใช้รถยนต์เท่าLPG ปตท. จึงต้องหามาตรการอื่นมาบีบ

        การที่ ปตท. ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจเพราะเป็นบริษัทเอกชนย่อมหาหนทางใดๆ ก็ได้เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น(ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์ของสังคม)
แต่การที่ภาครัฐผ่านทางกระทรวงพลังงานเลือกปฏิบัติโดยสนับสนุนการใช้ NGV ในรถยนต์สุดตัว โดยไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ เช่น ระบบการส่งแก้ส NGVปั้มแก๊ส NGV และบีบการใช้ LPG ในรถยนต์ ถือว่าไม่เหมาะสม
รัฐบาลควรให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างถูกต้องถึงผลได้ผลเสียต่อสังคมของการใช้พลังงานทางเลือกและควรกำกับดูแลไม่ให้บริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัทหนึ่งเอาเปรียบสังคม

        เรื่อง ปตท. บีบไม่ให้ตั้งปั้มแก๊ส LPG เป็นเรื่องจริงครับ เมื่อ 26 ธ.ค. 48 ผมคุยกับ เจ้าของกิจการโรงบรรจุแก๊สแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เขาบอกว่าค่าการตลาดจากการขาย แก๊ส LPG
สูงคุ้มค่ากับการลงทุนเปิดปั้มแก๊สเติมรถยนต์มากกว่าการเปิดปั้มเบนซิน ดีเซลแต่ ปตท. บีบไม่ให้ตั้ง มิฉะนั้นจะไม่ส่งแก๊ส LPG ให้ และแก๊สที่มาส่งก็มาจากแหล่งผลิต
        ในประเทศที่ลานกระบือนี่เอง ส่วนการตั้งปั้มแก๊ส NGV เขาไม่กล้าลงทุนเพราะแพง มาก มีรถยนต์ใช้น้อยไม่คุ้ม และมีอุปสรรคเรื่องระบบขนส่งแก๊ส NGV

        ... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงานสนับสนุน การใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG LPG สามารถกลั่นจาก น้ำมัน(ซึ่งมีต้นทุนสูงนำเข้า) และก๊าซธรรมชาติ
        (ซึ่งมาจากอ่าวไทยของเราเอง) NGV (ก๊าซมีเทน)ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติซึ่งมีอยู่ประมาณ 66 mol% LPG (c3+c4) 6 mol% แล้วทำไมจะไม่ควรสนับสนุนการใช้ NGV จะซื้อน้ำมันต่างชาติมาก ลั่นทำไม

        อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงพลังงานที่เป็นข้อมูลราชการ ที่ http://www.eppo.go.th/info/

        เรานำเข้า natural gas ปี 2005 156,733 bbl/day จากปริมาณการใช้  568,742 bbl/day หรือ 27.55 % ของการใช้ในประเทศไทยซึ่งก็คือนำเข้าจาก พม่า เสียเงินตราต่างประเทศให้พม่า

        ข้อมูลการส่งออก LPG ครับ จากกระทรวงพลังงาน ตาราง 34 ที่ http://www.eppo.go.th/info/
        ไทยส่งออก LPG ปี 2005 เฉลี่ยเดือนละ 150 ล้านลิตรเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 8.5 % จากปี 2004 (นั่นคือส่งออก LPG มากขึ้น) ขณะที่ปริมาณแก้ส LPGที่ใช้ในรถยนต์ของ
        ไทยประมาณปีละ 100 ล้านลิตร หรือแค่ 10% ของแก้ส LPG ที่ส่งออกทั้งปียังมีเหลืออีกมากสำหรับสนองความต้องการในประเทศซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม

        LPG ได้มาจากสามแหล่งครับ คือ หนึ่งเป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบทำเบนซิน ดีเซล ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สองปนมากับน้ำมันดิบที่ขุดได้จากบ่อน้ำมันหรือแก้ส ถ้าไม่
        ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สาม กลั่นจากแก้สธรรมชาติ (natural gas) ส่วน NGVได้มาจากการกลั่นจากแก้สธรรมชาติ NGV เหมาะสำหรับรถสาธารณะขนาดใหญ่เนื่องจากอุปกรณ์ยุ่งยากราคาสูงและต้องใช้ถัง
        แก้สความดันสูงจำนวนมากจากการศึกษารายงานนโยบายการใช้พลังงานของ APECที่ไทยเป็นสมาชิกหนึ่งในยี่สิบเอ็ดประเทศ ไทยเป็นประเทศเดียวที่จำกัดการใช้ LPG และส่งเสริม NGVในรถยนต์
        ทั้งๆ ที่ผลิต LPG ได้เกินความต้องการต้องส่งออกไปขายและยังต้องสั่งแก้สธรรมชาติจากพม่าเป็นปริมาณประมาณหนึ่งในสี่ของการใช้ในประเทศฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย
ต่างส่งเสริมและสนับสนุนการใช้แก้สLPG ในรถยนต์ ด้วยมาตรการทางภาษีและสนับสนุนราคา LPG ให้ต่ำกว่าเบนซินดีเซลประมาณครึ่งหนึ่ง ประเทศที่กล่าวมายกเว้นออสเตรเลียต่างต้องนำเข้า LPG
ไม่มีแหล่งเองเหมือนประเทศไทย ฮ่องกงเอง ได้เปลี่ยนให้รถแทกซี 90 เปอร์เซ็นต์มาใช้แก้ส LPGด้วยการให้เงิน สนับสนุน และกำลังมีโปรแกรมใหม่ที่จะเปลี่ยนรถบัสเล็ก 5,000
คันมาใช้แก้ส LPG (ย้ำ LPG) ด้วยเงินสนับสนุนและมาตรการส่งเสริมของรัฐบาล

        เราผลิต LPG ได้ปีละประมาณ 3,200 ล้านลิตร ส่งออกประมาณ 800 ล้าน (25%)ใช้กับยานยนต์ (แบบเว่อร์ๆ 2 เท่าเลย) 200 ล้านลิตร ที่เหลืออีก 2,200 ล้านลิตร หายไปไหนครับ???

        ไปอยู่ภาคครัวเรือน ให้ประชาชนใช้หุงต้ม 1,000 ล้าน อยู่ภาคอุตสาหกรรม ทำอาหาร ทำแก้ว หลอมโลหะ ฯลฯ อีก 1,200 ล้าน

        แล้วไอ้ที่มาโกหกปาวๆๆๆ ว่า รถยนต์ใช้แกสทำให้โครงสร้างพลังงานเสียหาย เพราะ  รัฐฯ ต้องชดเชยถึงกิโลละ 11 บาท .. หรือลิตรละ 6 บาท(มาได้งัยก็ไม่รู้) .. ชดเชยให้ใครกัน?

        ชดเชยให้คนใช้รถ . 200x6 = 1,200 ล้าน  ชดเชยให้คนทำกับข้าวกิน . 1,000x6 = 6,000 ล้าน (สาธุ)  ชดเชยให้พ่อค้านายทุน ผลิตสินค้า = 1,200x6 = 7,200 ล้าน (ก็ .. ยังดี.. ของจะได้ไม่แพง)
        ชดเชย (Huh!!!!?? ชด เชยทำไม) ให้กับการส่งออก 800x6 = 4,800 ล้าน!!!!!

        บ.น้ำมัน ไม่รวยพุงปลิ้นวันนี้ ก็ไม่รู้จะพูดงัยแล้ว... เบนซิน91 หรือเบนซิน95 ต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 100 %
        แก๊สโซฮอล นำเข้าเป็นน้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นเบนซิน 90 %และยังเป็นเอธานอลส่วน หนึ่งที่เราผลิตไม่พอ ดังนั้นเท่ากับนำเข้ามากกว่า 90 %แต่รัฐบาลโปรโมตสุดลิ่มทิ่มกบาล
        LPG ไม่ต้องนำเข้าเพิ่มเติม ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบส่วนหนึ่ง กับแยกจากแก๊ส ธรรมชาติของไทยหรือพม่าอีกส่วนหนึ่ง มีเหลือขายต่างประเทศ ลองใช้หัวแม่เท้าคิดดูก็แล้วกันครับ
        ใช้เบนซิน 100 ล้านลิตร หรือแก๊สโซฮอล 90ล้านลิตรก็ต้องนำเข้าน้ำมันดิบในจำนวนที่มากกว่าใช้ LPG 100 ล้านลิตรไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพราะจากกระบวนการกลั่นเหลือ
        ใช้จนต้องขายต่างประเทศ การนำLPG 100 ล้านลิตรมาใช้แทนน้ำมัน เมื่อเทียบกับการใช้เบนซิน90ล้านลิตร หรือ เบนซินในแก๊สโซฮอล 80กว่าลิตรแบบไหนจะเสียเงินตราของชาติมากกว่ากัน
        (ให้อัตราสิ้นเปลืองLPGมากกว่าประมาณ 10%)แบบไหนประหยัดเงินตราของชาติ มากกว่ากัน ต่อให้คิดโดยเสมอภาคนั่นคือหากชดเชยก็ชดเชยเท่ากันหรือไม่ชดเชยก็ต้อง
        ไม่ชดเชยเหมือนกัน ค่าการตลาดต่อลิตรเท่ากัน   ***จุดที่จะประหยัดเงินตราต่างประเทศมากที่สุดคือ จุดที่มีจำนวนผู้ใช้LPG มากขึ้นจนแทบไม่มีเหลือส่งออก เพราะเราก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่าเดิม
        หากจำนวนคนที่ใช้ LPG เพิ่มขึ้นจากเดิมจนถึงจุดที่เราแทบไม่เหลือ LPGส่งออกนอกนั้นใช้เบนซินหรือโซล่า หรือแม้แต่แก๊สโซฮอลก็ตามจะต้องนำเข้าน้ำมันดิบอีกเท่าไหร่

        อย่าเพิ่งไปกลัวเลยครับ ผมว่าที่ปตท ออกมาขู่เรื่องราคาแก๊ส lpgว่าราคาจะลอยตัวราคาที่แท้จริงต้องบวกเพิ่มอีก 9บาท ต่อลิตร ตกลิตรละ18บาท
สงสัยจะเป็นอุบาย ของปตท ที่จะทำให้คนที่คิดจะติดlpg ลังเลใจแล้วมาติด ngvแทนเพราะปัจจุบัน ngv  ขายไม่ออก ที่เขาบอกว่าlpg ราคาขึ้นเป็น600ดอลล่า/ตันถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ ตันหนึ่งมี
        1000 กก 1กกมี1.8ลิตร 1ตันเท่ากับ 1800ลิตร 600ดอลล่าเท่ากับ 24000บาทคิด แล้วลิตรหนึ่งตก 13บาทกว่าเท่านั้นเองนี่ยังไม่รวมถึงแหล่งที่มาของราคาที่เขาใช้เป็น
        ราคากลางด้วยว่า600ดอลล่า/ตัน มาจากที่ไหน ที่อื่นที่ถูกกว่านี้ก็มีเช่นซื้อมะม่วงแถว
        ต่างจังหวัด ราคาย่อมถูกกว่าที่ไปซื้อที่สีลมอยู่ดี อีกอย่างlpgเราก็ผลิตได้เองบางส่วน
        จะมาอ้างราคาตลาดโลกได้อย่างไร ทำไมไม่ตั้งราคาขาย มะม่วงทุเรียนและผลผลิต
        ทางการเกษต ที่เราผลิตได้ในประเทศ ให้มีราคาสูงเหมือนที่ขายในญี่ปุนในอเมริกาละ
        โดยอ้างราคาตลาดโลกบ้าง ขายทุเรียนลูกละซัก2000บาทไปเลยซิคิดว่าประชาชนโง่
        เหมือนควายเหรอครับ รัฐบาลอย่ามาขูดรีดขูดเนื้อประชาชนเลยครับ

        นี้คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ขอให้ทุกท่านร่วมหาทางแก้ไขอีกทั้ง รัฐบาลเราคงหวัง เพิ่งพาอาศัยไม่ได้แล้ว
        **ช่วยอัพกันหน่อยนะครับ เผื่อเพื่อนๆที่ยังไม่ได้อ่าน**
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ซ่อมรถ โมเครื่อง ทำช่วงล่าง: อู่ช่างแว่นที่เดียวเท่านั้น ที่ผมไว้ใจ
pclock
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 36



« ตอบ #1 เมื่อ: วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2008 เวลา 10:07:42 »


 เย็นไว้โยม เย็นไว้โยม เย็นไว้โยม
คนเราจะโลภไปถึงไหน
 ว๊าก ว๊าก ว๊าก
คนรวยทำไมไม่รู้จักพอ
up up up ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
PG.O.T-002
Peugeot Zone ( สุขุมวิท50 )
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,453



« ตอบ #2 เมื่อ: วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2008 เวลา 11:10:17 »


ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน กำไรผลประกอบการไตรมาศต่างๆที่ได้มาเยอะแยะนั้น

ส่วนใหญ่มาจาก ก๊าซทั้งสิ้นครับ กำไรจากน้ำมันได้มาน้อยมากเมื่อเทียบกับก๊าซ

เพราะผู้บริหารของปตทต่างก็ได้หุ้นจองในราคา 35 บาท กันมากมายมหาศาล ขณะนี้ราคาหุ้นสามร้อยกว่าบาท ที่พาร์5บาท

ผมเคยคุยกับเพื่อนแม่ที่รู้จักกับบอร์ดปตท บอกว่า ราคาหุ้นปตทพวกท่านๆต้องการขายกันคือ ราคาหุ้นที่ขึ้นไปถึง 500 บาท

พอถึง500แล้วก็แตกพาร์ได้อีกจากพาร์5บาทเป็นพาร์1บาทแล้วให้วิ่งต่อไปอีกกลับมายืนราคาแถวๆปัจจุบัน300แล้วจึงน่าขาย

หนทางเดียวที่จะดึงดูดให้กองทุนฝรั่งรายใหญ่ๆเข้ามาเก็บมาไล่ราคาหุ้นได้คือผลประกอปการและแผนอนาคตที่สวยหรู

หนทางนั้นคือการเพิ่มกำไรให้กับตนเองให้มาที่สุด และภาวะปัจจุบัน ก๊าซLPGคือเครื่องมือที่สำคัญ และหากเป็นไปตามนั้นจริง

คนที่ได้หุ้นจอง 35 บาทจะได้กำไรเป็น หลายเท่าตัว ยังไม่รวมถึงกลุ่มที่เล่นข่าวอินไซด์ เล่นรอบ โดยอาศัยเครื่องมือทางการเมืองทำกำไร

ผมเองก็เก็บหุ้น ปตท ไว้บ้างเช่นกันครับ แม้ว่าอยากให้หุ้นขึ้นเยอะๆได้กำไรงามๆ แต่หากต้องเอาความลำบากเพื่อนร่วมชาติไปแลก ก็ไม่อยากได้ครับ โอ๊วๆๆๆ ยอดจริงๆๆ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Meet All Style Peugeot in PG.O.T Soon. All owner are welcome.
P o M p O m _ *
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 324



« ตอบ #3 เมื่อ: วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2008 เวลา 16:35:22 »


เพราะเค้าหาช่องปล่อย NGV ออกไปไม่ได้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!