ขอเล่าเรื่องที่ไปลอง Test Drive รถ Peugeot 206 นะครับ
ครั้งแรก ไปลองที่ศูนย์รามคำแหง (สุขาภิบาล 3) โดยไม่ได้บอกเซลส์ไว้ล่วงหน้า ทำให้ได้ลองรถแต่ในลานจอด รู้สึกว่าอืด ไม่น่าประทับใจ ทางเซลส์จึงบอกว่าให้กลับมาในวันทีเขาเตรียมรถไว้พร้อมแล้ว
วันเสาร์ที่ผ่านมา (17 มกราคม) จึงได้ฤกษ์งามยามดีไปลองอีกครั้ง คราวนี้ได้ 206 สีดำ เบาะผ้าดำลายน้ำเงิน ทุกอย่างเป็นแบบ Standard หมด มีน้องพัช ที่เป็นเซลส์ นั่งมาด้วย พอขึ้นมานั่งบนรถ ก็ต้องปรับเก้าอี้ พวงมาลัย กระจกต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง รูปลักษณ์ภายในก็ดูสวยแบบเรียบๆ กึ่งสปอร์ท คิดว่าคุณภาพพลาสติกไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ดูใช้ได้ การจัดวางคอนโซลอะไรต่างๆ ก็คุ้นเคยอยู่แล้ว ไม่หนีรูปลักษณ์ของ 406 ไปมากนัก ยกเว้นการปรับเก้าอี้ คราวนี้ไม่ต้องหมุนๆๆๆๆ ให้เมื่อยมือแล้ว ใช้คันโยกด้านซ้ายของเบาะแทน ปรับเบาะขึ้นลง หน้าหลัง ก็ไม่ยาก พวงมาลัยปรับขึ้นลงได้แต่เข้าออกเหมือน 406 ไม่ได้
ทีแรก คุณพัชบอกว่าขับไปลองบนมอเตอร์เวย์กันดีมั้ย แต่ผมอยากขับวนไปวนมาในเมืองมากกว่า จึงขับออกจากโชว์รูมไปทางรามคำแหง เลี้ยวขวาเข้านวมินทร์ตรงสำนักงานเขตบางกะปิ ช่วงนี้รถติด การบังครับควบคุมรถก็ช่วยให้เราซอกแซกไปได้ด้วยดี รู้สึกว่าเหยียบแล้วไป ไม่อืดเหมือนวันก่อน แรงบิดมีมาให้ใช้งานพอควร ไม่รู้สึกว่าอืดอย่างผิดปรกติ (หรือเราขับ 406 มันก็อืดช่วงต้นอยู่แล้ว) แต่อย่าคิดไปเร่งแซงแข่งกับใคร
พอเข้านวมินทร์ช่วงต้น (หน้าสน.ลาดพร้าวถึงการเคหะถึงแยกแฮปปี้แลนด์เก่า) มีช่วงให้ทำความเร็วได้ ก็เหยียบไปอย่างไม่เกรงใจเซลส์ ความเร็วมาให้ใช้ได้อย่างสบาย ทั้งๆ ที่ตัวเลข 0-100 บอกว่าตั้ง 17 วิ เข้าโค้งช่วงการเคหะ โค้งแรกได้เกือบร้อย แต่โค้งสองต้องเตรียมชะลอเข้าแยกเลยอยู่ประมาณ 70 ความรู้สึกการบังครับรถนิ่งเหมือนกับรถใหญ่ ระบบเบรคทำงานดีพอใช้ ไม่ได้เด่นดีอะไรแต่ก็สร้างความมั่นใจพอสมควร
และแล้วก็ถึงทางเข้าบ้าน เลี้ยวเข้ามาลงจากรถ พี่ที่บ้านก็ร้องว่า "โอ้โห สวยจัง.... คนนะ" พอจอดแล้วก็มาชำแหละรถทีละส่วนให้สมาชิกในครอบครัวดู เปิดกระโปรง(หน้ารถ) ดูเครื่อง 1400cc กัน มีสติกเกอร์น้อง NAZA แปะอยู่ที่ห้องเครื่อง บ่งบอกว่าฉันเกิดที่มาเลย์นะจ้ะ เปิดท้าย ลองเอาถุงกอล์ฟใส่ เอาจักรยาน(พับ)ใส่ ก็โอเค ครับแคบหน่อยแต่พอใส่ได้ เบาะหลังไม่มีทีรองศีรษะมาให้ คนนั่งหลังจะนั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ นอนหลับไม่ได้ ถ้าไปเที่ยวทางไกลเกินสองคนคงไม่สนุก (แปลว่า เอา 406 ไปเทิร์น คงจะไม่ได้ซะแล้ว) การทดสอบความพอเพียงของที่นั่งของผมคือให้ผมนั่งข้างหน้า ปรับเบาะเหมือนขับจริง แล้วลองมานั่งด้านหลังดูว่าโอเคมั้ย (ความสูงผมประมาณ 182 ซม.) นั่งดูแล้วครับแคบกว่าพวกรถ Compact Car ของค่ายญี่ปุ่นค่อนข้างมากแต่ยังพอไหว เบาะหลังพับได้แต่ไม่แบนเรียบ ไม่ได้มีลูกเล่นเรื่องการพับเบาะเหมือนน้อง Jazz ส่วนเรื่องความปลอดภัย มี ABS แต่แอร์แบกมีข้างคนขับข้างเดียว อะไรกัน ขนาด Yaris รุ่น E ยังมีสองข้างเลยนะ แต่นั่นแหละครับ ก็ยังดีกว่าไม่มีสักข้างเลย
สุดท้ายก็มาคุยกันเรื่องสำคัญสุดๆ คือ เรื่องราคา เพราะราคาตั้ง 759,000 นั้น ถ้าไปเอา Yaris หรือ Jazz ก็ได้รุ่นที่มี airbag คู่ กว้างกว่า แรงกว่า แถมเหลือตังค์ตั้งแสนกว่า แต่มันไม่เท่ห์ (ความชอบส่วนตัว) เท่าน้องสิงห์ 206 เท่านั้นเอง ก็คุยกับทางเซลส์ สรุปความได้ว่า ถ้าไม่เอาของแถมอะไรเลย ลดได้หลายหมื่นเหมือนกัน จากที่ดูแพงกลายเป็นค่อนข้างจะคุ้ม
จากที่ดูของแถม เลยสงสัยว่า มันแถมแทบจะครบ RC Line อยู่แล้วเหรอเนี่ย แต่ผมก็ไม่สนใจเรื่องของแต่ง ชอบรูปลักษณ์เดิมๆ มากกว่า
ขากลับ พาน้องสาวนั่งไปเป็นเพื่อนด้วย กลับทางถนนศรีบูรพา ใช้ความเร็วได้พอควร ลองลงหลุมลงบ่อทดสอบช่วงล่างหน่อย ผ่านนิด้าไปถึงโชว์รูมก็ขับปรกติๆ ถึงโชว์รูมก็กลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ขับ 405GR กลับบ้าน
จบข่าวครับ คราวหน้าจะขอเขาไปลองอีกที่ ไปขึ้น Motorway

