แก๊สหนาไปครับ อาการของการจามในรถใช้แก๊สคือการเกิดการจุดระเบิดนอกห้องเผาไหม้ จะมีสองอย่างก่อน กับ หลัง ห้องเผาไหม้
การจุดระเบิดก่อน จะเกิดในบริเวณ ท่อไอดี สาเหตุจะมาจากแก๊สบางทำให้ส่วนผสมของอากาศกับแก๊สไม่สมดุล
การจุดระเบิดหลัง จะเกิดในบริเวณ ท่อร่วมไอเสีย(เขาควาย) สาเหตุมาจากแก๊สหนาทำให้การเผาไหม้ไม่หมด
เค้าเรียกว่า After burner ครับ มันจะเป็นการเผาใหม้ที่ส่วนท้ายเพื่อให้ได้กำลังของการจุดระเบิดเพิ่มขึ้น และเผาใหม้หมดจด หลักการของ After burner ที่เห็นได้ชัดเจน ก็ในเครื่อง Jet ของเครื่องบินรบ เพื่อใช้ในการเร่งความเร็วไปเหนือความเร็วเสียง....
ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://en.wikipedia.org/wiki/Afterburner
เครื่องสันดาบใน กับ นอกมันไม่เหมือนกันครับ เครื่องยนต์ของรถมันสันดาบใน คือระเบิดในห้องเผาไหม้ แล้วความร้อนที่ได้มันจะไปดันก้านสูบไปหมุนเพลาและเกียร์อีกที แต่เครื่องบินจะใช้ความร้อนดันอากาศด้านหลัง ไม่ได้ไปดันเพลาอะไร
ในรถยนต์หรือมอเตอร์ไซต์เรียกว่า back fire ครับ มีหลายแบบ คือมันเกิดตรงไหน ถ้าเกิดแถวๆวาวล์ไอเสียไม่ดีแน่นอนครับ ถ้าเกิดก่อนเข้าห้องเผาไหม้เช่นที่ท่อร่วมไอดีก็ไม่ดีครับเครื่องมีโอกาสพังได้ ที่แน่นอนท่อร่วมไอดีพังครับ (อาการนี้เกิดกับรถติดแก๊ส และเผาไม่หมดจนมีไอดีหนาย้อนออกไป หรือ ห้องเครื่องร้อนมากจนไอดีระเบิดนอกห้องเผาไหม้) อีกแบบเกิดในห้องเผาไหม้ แต่ดันเกิดก่อนลูกสูบเคลื่อนถึง "จุด" ที่ดีที่สุดที่จะเกิดการจุดระเบิด อาการนี้เรียกว่า อาการน๊อค ซื้อก็คือการจุดระเบิดก่อนที่ควรจะเป็นไม่ดีเช่นกัน พังเอาได้ง่ายๆ
back fire ที่เราได้ยินกันที่ท่อไอเสีย ถ้าคนจูนรถทำเป็น หรือ รถสแตนดาร์ด มันจะระเบิดที่ปลายท่อไอเสีย และ ต้องเป็นช่วงจังหวะยกคันเร่ง หรือ ปิดลิ้นปีกผีเสื้อเท่านั้น ที่สำคัญไม่เกิดขึ้นบ่อยครับ จะเกิดช่วงอากาศเย็นหรือหลังฝนตก เพราะมีอ๊อกซิเจนในอากาศหนาแน่นกว่าปกติ ถ้านอกจากนี้ทุกกรณีไปจูนใหม่ครับไม่ถูกต้อง
ทำไมรถสแตนดาร์ด จึงมีเสียง back fire โดยมากเกิดกับรถแรงๆมาจากโรงงาน หรือ พวกรถวาวล์แข็งๆที่มันปิดไม่สนิท มันมีไอดีบางส่วนปนออกมาที่ไอเสีย พอมาเจอความร้อนที่ท่อ และ เจออ๊อกซิเจนที่ท่อไอเสีย มันก็ระเบิดนอกท่อ รถสแตนดาร์ดโอกาสเกิดน้อยครับ เพราะวิศวกรโรงงานคำนวณ ความยาวและขนาดของคอท่อให้เหมาะสมกับอัตราการไหลของไอเสียของรถแต่ละรุ่นและขนาดเครื่องยนต์ ถ้าขนาดคอท่อและความยาวเหมาะสมมันจะเกิด "back pressure" หรือ "แรงดันย้อนกลับ" ที่พอเหมาะกับการดันไอดีที่ล้นออกมาที่วาวล์ไอเสียให้อยู่ในห้องเผาไหม้ในจังหวะโอเวอแล๊บของการปิดวาล์วของแคมช๊าฟ ในจังหวะที่ถูกต้องกับการเปิดปิดวาวล์ ประโยชน์ที่ได้ก็ ไม่มีมลพิษจากไอน้ำมัน ประหยัดน้ำมัน back fire แบบนี้ไม่มีอันตรายครับกับเครื่องยนต์ และจะเกิดกับจังหวะปิดคันเร่งเท่านั้น เพราะจังหวะอื่นวิศวกรเขาไม่ยอมปล่อยออกมาครับดันกลับหมด หรือเผาไหม่หมดจดในห้องเผาไหม้ ลองคิดดูท่อแต่งที่มีเยอะแยะจะทำได้ไหมครับ ไม่แปลกครับที่ท่อตดกันเป็นแถบ บางคันกินน้ำมันเพื่มขึ้นด้วย
การเกิดแบคไฟร์ได้นั้นมีองค์ประกอบคือ เชื้อเพลิง และอ็อกซิเจนในอากาศ การเกิดแบคไฟร์ส่วนใหญ่จะเกิดในกรณีที่ส่วนผสมบางเกินไป จะเกิดในช่วงเวลาสั้นๆและจะเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ตกค้างอยู่ภายในท่อร่วมไอดี ส่วนผสมของเชื้อเพลิงกับอากาศที่บางเกินไปจะมีค่าอ็อกซิเจนอยู่ในส่วนผสมมาก ส่วนผสมที่บางจะสันดาปตัวเองได้ง่ายเมื่อมีอุณหภูมิถึงจุดสันดาป โดยไม่ต้องพึ่งพาเปลวไฟจากเขี้ยวหัวเทียน
ผลเสียจะมีตามมาก้คือ เรื่องของการสึกหรออย่างรวดเร็วของวาล์วไอเสียหรือมีเขม่าเกาะตามบ่างวาล์ว
http://www.dtrackerthailand.com/board/index.php?topic=24532.10;wap2 คำตอบที่ 7 :
http://www.gasthai.com/ngv/boardngv/question.asp?id=A1849
