Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  Show Off

Pages: 1, 2

วันนี้เพิ่งไปรับจากอู่ช่างแว่น  ไปลองบนมอเตอร์เวย์พอหอมปากหมอคอ  ก่อนจะไปเข้าอู่สีต่อ

ว่ากันถึงความแรง

จากศรีนครินท์ออกมอเตอร์เวย์  วิ่งขวาไปพอเจอคันหน้า ผ่อนคันเร่งนึด ตามตูดไปหน่อย  พอให้รู้ว่าหลบหน่อยนะจ๊ะ
เขาหลบซ้าย เรากดปุ๊บ ไต่ขึ้นได้อย่างรวดเร็ว 
ช่วงก่อน 160 นี้มาสบายๆ

แต่หลัง 160 นี้ไม่ค่อยไปยอมไปแฮะ  เหมือนโดนกระตุกร่มซะงั้น  กว่าจะไปถึง 175 นี้ก็นานอยู่
วันนี้ได้แค่นี้ 175 ก็เจอรถหรือไม่ก็สะพานก่อน
ยังไม่กล้าจัมป์ที่ 175 เดี๋ยวไม่ได้เข้าอู่สี

ตีนต้นดี การเร่งแซงเยี่ยม แต่ดูๆ แล้ว top speed คงไม่ได้มากกว่า 175 เท่าไหร่
น่าจะเป็นที่หลังคาผ้าใบ ลมมันเข้าเยอะเลยเหมือนร่ม ถ่วงเอาไว้
ขับ 160 นี้เสียงลมยังกะ นาร์กีสเข้า

อันนี้รูปเครื่อง ตอนเกือบๆ เสร็จ
XU10J4R / AL4  เปลี่ยน cams เป็นของ gti6

---

สุดยอด

---

แจ่มมากครับ 555555555555

อย่าลืมขึ้น dyno นะครับ

---

มาต่อครับ..แว่บไปคุยโทรศัพท์มา

แรกเริ่มเดิมทีก็แค่จะเปลี่ยนจาก XU10J2 เป็น J4 โดยหาฝาสูบ 16 วาล์วมาใส่ซะหน่อย 
จะได้ลงท่อไอดีของ gti6  เรียกว่าลอกการบ้านคุณลุงนพพรเลยละครับ

แต่ช่างบอกจะบานปลายเอา  เพราะต้องโดนอุปกรณ์ตัวเล็กตัวน้อยหลายอยู่
อีกทั้งมีคำเตือนจากผูรู้มาด้วยว่า ลูกสูบมันไม่เหมือนกัน  เดียวมันจะยันวาล์วได้
หรือไม่ก็แบริ่งจะละลายเอาเพราะตัว 8 วาล์วมันไม่มีท่อน้ำมันไปฉีดใต้สูบ

ก็เลยต้องหาเครื่อง D8 ลงไปเลยดีก่า  จะได้จบง่าย ไม่บานปลาย
ไปๆมาๆ ไหนๆ ทำแล้วก็ทำไปให้หมดเลยทีเดียว
ก็เอาออกให้หมดซะ...

---

XU10J4R + (cams, header, manifold) x gti6 = power!

ถ้าเป็นไปตามสมการนี้ก็ฉลุย  แต่เพราะเจ้า AL4 มันหัวโตและใช้ทางน้ำเลี้ยงไม่เหมือนกับเกียร์ธรรมดา
header ลงไม่ได้  เอ..น่าจะเป็น ลงได้แต่ต้องแปลงอีกเยอะมากกว่า...
 

เอารูปด้านหลังเครื่องให้ดู  ให้เห็นหัวโตๆ ของ AL4 (ด้านซ้าย) กับท่อน้ำเลี้ยงเกียร์ (ด้านขวา)

---

ผมนึกในใจอยู่แล้วว่าพี่ต้องมาแนวนี้แน่ ๆ เพราะเห็นซื้ออุปกรณ์ GTI6 และมารู้ทีหลังว่าเปลี่ยนเครื่องเป็น D8   แต่เสียดายนะที่ยังวิ่งได้ไม่เกิน 180 กม/ชม    รอดู GTI 5 คันที่ 2 ก็แล้วกัน

---

ไว้เดี๋ยวเจ้าขึ้น dyno สักรอบ เอาไว้เป็นตัวเปรียบเทียบก่อนจะใส่ manifold
น่าจะได้ม้าเพิ่มแน่ๆ จากปีกผีเสื้อที่ใหญ่ขึ้น  หัวฉีดก็ใหญ่ขึ้น
แต่ไม่รู้รอบต่ำจะหายหรือเปล่านะซิ

---

ผมว่างานนี้โดนเกียร์ Al4 หลอนแน่ๆ เลย

เพราะอัตราทดเกียร์มันอยู่ที่ 4.158

และรอบไปตัดที่ ประมาณ 6000 รอบ

แนะนำว่า ครั้งหน้ากด Mode sport ก่อนนะ จากนั้นกดยาวๆ เลยเกิน 175 อยู่แล้ว
แต่หลังคาผ้าใบจะทนได้อะเปล่าที่ 200 ขึ้นไป

---

ถ้าเป็น body อื่นเขาวิ่งทะลุ 200 ไปแล้ว
 

ตอนนี้ถ้าจะเอาความเร็วปลาย ผมคงต้องไปทำการบ้านเรื่องหลังคาผ้าใบ ว่าจะปรับปรุงอย่างไรให้ลมเข้าน้อยที่สุด
นอกจากจะต้านลมแล้ว  เสียงยังน่ากลัวด้วย
 

จะรอชม 405 gti-5 คันที่สองครับ
แต่คุณลุงนพพรหนีไปเป็น 405 gti-6 แล้วนะครับ
 

---

ตอนที่ไปลองขับ  ไม่ได้นึกถึงโหมด sport เลยครับ
ก็ของเก่ามันไม่มีนี้น่า  ตอนเข้าเกียร์ยังติดก้มลงไปดูที่คันเกียร์เลยครับ
 

สงสัย ต้องหาหลังคาแข็งมาครอบดีกว่ามั้ง  จะได้ไปฟัดกับ mx-5 ได้  อิอิ
 

---

ตอนนี้ที่ชอบใจมากๆ คือช่วงล่างครับ  ของเก่าใส่ KW ไปแล้วมันมีปัญหาแก้ไม่หาย
กระแทกดังกึกๆ ตอนขึ้นหลังเต่า ทั้งๆ ที่ไม่ได้มาเร็ว  ยางหัวโช๊คก็เพิ่งเปลี่ยนไปไม่นาน
เปลี่ยนก้านกันโคลงก็ไม่หาย ฯลฯ...
พอได้ช่วงล่างของหัวตัดนี้มาใส่ (แต่ KW ยังอยู่นะ)  เปลี่ยนจากหลังเท้ากลับมาเป็นหน้ามือเลย อิอิ
ขึ้นหลังเต่านิ่มๆ  วิ่งเร็วๆ ขึ้นคอสะพานมอเตอร์เวย์ 140-150 ก็สบายๆ

---

อีกเรื่องครับ ท่อไอดี กับ ท่อไอเสีย ก็มีผลนะครับ

---

ไม่อยากจะบอกเลยว่าหาเรื่องกันจริงๆ

ถ้าจะใส่ท่อไอด Gti6 พร้อมหัวฉีด แคม เฮดก็เตรียม หากล่องปิกกี้ใส่ด้วยได้เลยครับ GTi5 มีปัญหาเรื่องนี้มาแล้ว ถ้าไม่ใส่กินน้ำมัน+วิ่งไม่ออก แรงบิดมันไม่มาครับ น้ำมัน มันจะจ่ายหนักมาก เพราะสเปกหัวฉีดที่ไฟเข้าเท่ากันของ GTI จะเปิดเยอะกว่ามากครับ

---

จริงไม่ต้องหาก็ได้ครับ เพราะตอนแรกคุณลุงไม่ใส่กล่องแต่ง ก็วิ่งกระจายเหมือนกัน

แต่พอใส่กล่องแต่ง ม้าดันหาย แต่ประหยัดน้ำมันขึ้นจ้า

---

ขอบคุณครับสำหรับคำเตือน  ที่อู่ก็บอกเหมือนกัน  ก็เลยยังไม่ได้ใส่ไปทีเดียว
วันนี้ได้คุยกับคุณลุงนพพร ลุงก็เล่าให้ฟังเยอะเลย ว่าเป็นไงมาไง จนตอนนี้ลุงเอา gti6 ลงไปแล้ว

มันเป็นอาการอยากลองมากกว่าอ่ะ เพราะตั้งใจมาแล้ว ได้ของมาแล้ว จะไม่ทำเลยก็ขัดใจอยู่
แต่คงไม่รีบร้อน ของมีอยู่ไม่เน่าไม่เปื่อย และถ้าทำแล้วไม่ดีจริงๆ ก็ค่อยแปลงกลับมาเหมือนเดิม

ตอนแรกกะว่าจะให้ได้ปลายสัก 200 ตอนนี้กลัวหลังคาจะปลิวไปซะก่อนนะซิ  เรื่องแรงต้านจากหลังคามีผลมากจริงๆ
ถ้าใส่ manifold gti6 มันจะไปเน้นเรื่องแรงม้าสูงสุดมากกว่าแรงบิดที่รอบต่ำ
ซึ่งม้าที่มาก็คงโดนร่ม(หลังคา)ฉุดหมด ถ้าไม่ได้ไปแก้เรื่องลมเข้าหลังคา
นอกเสียจากว่าจะเอาไปวัด dyno มาโม้กัน ก็อีกเรื่องหนึ่ง
 

ไว้ค่อยมาว่ากัน  ตอนนี้อยากให้สีเสร็จเร็วๆ มากกว่า
 

---

เมื่อปลายอาทิตย์ก่อนผมเอาท่อร่วมไอดี กับหัวฉีดของ GTi-6 ใส่ แต่ปรากฏว่าวิ่งไม่ออกครับ รอบต้นหาย กว่าจะมีแรงก็ต้อง 4500+ รอบครับ ก็เลยจำใจเอาท่อร่วมไอดีของ D8 ตัวเก่ามาใส่แทน วิ่งดีขึ้นเห็นๆเลยครับ

เมื่อต้นอาทิตย์หลังจากเปลี่ยนท่อร่วมไอดีเป็นของ D8 ลองใส่เฉพาะ หัวฉีดของ GTi-6 อย่างเดียวก็วิ่งไม่ดีครับ (ดีกว่าตอนใส่ ท่อร่วมไอดี GTi-6) ปัญหาคือมีเขม่าดำจับปลายท่อ ตอนถอดมาเปลี่ยนคืนอย่างเก่า ที่หัวฉีดน้ำมันเยิ้มๆเลยครับ น่าจะเป็นอย่างที่คุณก้องว่า

ท่อไอดีเปลี่ยนไม่ยากครับ จะลองดูก็ไม่เสียหาย

น่าจะลองหัวฉีดของ D8 + Inlet Manifold ของ GTi 6 ด้วยนะครับ

ปล. 306 + XU10J4R + XU10J4RS' Exhaust Manifold, Camshafts + AL4

---

อาการนี้คืออากาศไม่พอครับผม น้ำมันฉีดเยอะเกิน
มันสัมพันธ์กันเป็นส่วนๆ กันไป
ท่อไอดี header ท่อไอเสีย หัวฉีด แคม  ECU

การที่เปลี่ยนแต่ท่อไอดี และหัวฉีด แน่นอนว่าเครื่องบริโภคได้เยอะขึ้น แต่ดันขี้ไม่ออกสะงั้นแหละ
และ ECU ก็ยังเดิมๆ อยู่ ความสัมพันธ์ก็แตกต่างกันครับ เพราะหัวฉีดๆมากขึ้นด้วย

ที่เมืองนอกทำมา ก็แปลงเอาท่อไอดี GTi6 ลงใน D8 406 Coupe
หรือแม้กระทั่งลงใน Mi16  ก็มี เพื่อต้องการอากาศเพิ่มครับ
ทั้งนี้ Mi16 มีการอั้นของอากาศไม่น้อยครับ
และผมตอบรับค่อนข้างดีมากๆ ครับ
แต่เนื่องจาก header ท่อไอเสีย และแคมมันค่อนข้างสัมพันธ์อยู่แล้วกับ Mi16
ก็เลยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีขึ้น

---

เรื่องท่อไอเสียกับ Camshaft ผมใช้ของ GTi-6 อยู่ด้วยครับ แต่ก็ยังวิ่งไม่ดี อาจจะเป็นอย่างที่คุณภณว่า คือ ECU จ่ายน้ำมันไม่เหมาะสมครับ

แต่ผมคิดว่า GTi-5 ไม่เหมาะกับเกียร์ออโต้ครับ เพราะแรงม้ามาที่รอบสูงเกินไป มีรอบให้ซิ่งได้หน่อยเดียว (เกียร์ตัด 6000 รอบ/นาที) และช่วงของแรงบิดไม่สัมพันธ์กับความต้องการของเกียร์...


**ขออนุญาติเอา PM มาใส่ด้วยนะครับ เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่มีโปรเจคเหมือนกัน**


ขอโทษครับ พักหลังไม่ค่อยได้เช็คเมลล์เลยครับ รายละเอียดดูได้จากกระทู้ที่คุณตั้งไว้เลยนะครับ

เรื่องรอบ ผมยังไม่ได้สังเกตนะครับ แต่เวลาปล่อยเบรค (จอดอยู่) บางทีมันพุ่ง แต่ที่มีปัญหาแน่ๆคือถอนคันเร่งแล้วความเร็วไม่ลด น่าจะเป็นที่การจ่ายน้ำมันมันหนาไปครับ ถึงแม้จะจ่ายที่รอบเดินเบาก็ตาม - ปัญหาที่ตามมาคือ เบรคไม่อยู่ครับ เพราะเกียร์มันจะล๊อคกับรอบเครื่อง ที่เกียร์ 2-3 นะ ถ้าผมจำไม่ผิด

รถผมก็ใส่ เฮเดอร์ของ Gti-6 นะครับ ใส่ได้ แต่ยังไม่ได้ดูว่าติดท่อน้ำหรืออะไรไหม เดี๋ยวผมต้องลองเช็คดูอีกทีครับ ขอบคุณที่บอกนะครับ ไม่งั้นอาจจะรู้ตัวอีกทีตอน น้ำหมดหม้อน้ำเพราะท่อน้ำละลาย (ไม่ได้ดูตอนช่างใส่)

**คุณ 306cc ใน PM ผมพิมพ์ผิด ดูตัวหนาในข้อความนะครับ**

---

น่าจะลองหัวฉีดของ D8 + Inlet Manifold ของ GTi 6 อย่างที่ท่านบอกเลยครับผม

เพราะหัวฉีดเดิม กล่อง ECU เดิม แต่มีเรื่อง O2 มาช่วยในการปรับน้ำมันเล็กน้อยๆ
น่าจะส่งผลได้ดีกว่า

อากาศเพิ่ม + o2 เจอปรับน้ำมันขึ้น = น่าจะแรงขึ้น

อัตรา flow
mi16 = 214cc/min
Gti6 =270cc /min
D8 = ประมาณ น้อยกว่าเท่ากับ 214cc/min
S16 = 214cc/min

---

คุณ 306cc ลองแล้วได้ผลเยี่ยงไร จงส่งข่าวมาอย่าช้าที แต่ฟันทิ้ง เอ้ย..ฟันธง ปัญหาที่ตามมาคือ ไม่มีที่ไว้กรองอากาศ จะใช้กรองกล่องแหย่ลงไปข้างล่างแบบ GTi-6 ก็ติดเกียร์ เอาไว้ตรงลิ้นปีกผีเสื้อเลย ก็ดูดอากาศร้อนไปเต็มๆ แหย่ไปหลังไฟหน้าข้างคนนั่ง ก็ติด ปั๊ม ABS ไม่งั้นคงต้องย้ายแบตไปไว้ข้างหลังแทน แล้วทำกรองแบบเอกครับ

ปล. ท่อน้ำออกจากเครื่อง เส้นบน ของ GTi-6 ผมมีเหลืออยู่นะครับ ถ้าสนใจบอกได้ครับ

---

SMF Archive Funded by SMF For Free Free Forum Hosting
SMF Hacks