Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  40X
Pages: 12
ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: Wichanun
วันเสาร์ที่ 02 มิถุนายน 2012 เวลา 21:28:33
เอารถไปซ่อมครับ กะจะเปลี่ยนวาล์วน้ำ แต่อู่บอกรถโดนถอดวาล์วน้ำไปแล้ว ไม่รู้ว่าเราควรใส่คืนเข้าไปหรือไม่ เห็นบางท่านบอกว่าพอไม่มีวาล์วน้ำ อุณภูมิเครื่องตอนแรกจะเย็นเกินไปและกินน้ำมัน แต่ถ้าใส่แล้วและมันเสียที่หลัง เครื่องก็จะ overheat ได้ เพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: Wichanun
วันเสาร์ที่ 02 มิถุนายน 2012 เวลา 21:58:22
ปกติตอนวิ่งเรื่อยๆอุณภูมิก็อยู่ราวๆ 70 นิดๆ ไม่ทราบเย็นไปหรือไม่ ซึ่งอุณภูมิขนาดนี้วาวล์วน้ำปกติจะยังปิดอยู่ใช่ไหมครับ(หากมีวาล์วน้ำ)
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: hara
วันเสาร์ที่ 02 มิถุนายน 2012 เวลา 22:43:25
จากความรู้สึกส่วนตัว ถ้าอณุหภูมิรถซัก 80 รถจะวิ่งลื่นดีขึ้น  และจากกระทู้ไหนจำไม่ได้ รถที่ไม่มีวาล์วน้ำจะสึกหรอมากกว่าปกติ  ส่วนรถที่ขับจนวาล์วน้ำเสียก็น่าจะมาจากเจ้าของรถเอง  ที่ไม่ให้ความสำคัญกับอายุของวาล์วน้ำ แต่มันก็เป็นธรรมชาติของคนแหละ เพราะวาล์วน้ำมันอายุเป็นหลายหมื่นโล  ก็เลยใช้จนลืม 

ราคาวาล์วน้ำผมว่า ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป   4-6 ปีผมก็เปลี่ยนครั้ง  เปลี่ยนเองก็ได้  รถคันนึงใช้ 10 กว่าปี ก็เปลี่ยนแค่ 2-3 ครั้งเอง ก็คิดว่าซื้อความสบายใจครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: Wichanun
วันเสาร์ที่ 02 มิถุนายน 2012 เวลา 22:53:25
อ้างจาก: supreme ที่ วันเสาร์ที่ 02 มิถุนายน  2012 เวลา 22:43:25
จากความรู้สึกส่วนตัว ถ้าอณุหภูมิรถซัก 80 รถจะวิ่งลื่นดีขึ้น  และจากกระทู้ไหนจำไม่ได้ รถที่ไม่มีวาล์วน้ำจะสึกหรอมากกว่าปกติ  ส่วนรถที่ขับจนวาล์วน้ำเสียก็น่าจะมาจากเจ้าของรถเอง  ที่ไม่ให้ความสำคัญกับอายุของวาล์วน้ำ แต่มันก็เป็นธรรมชาติของคนแหละ เพราะวาล์วน้ำมันอายุเป็นหลายหมื่นโล  ก็เลยใช้จนลืม 

ราคาวาล์วน้ำผมว่า ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป   4-6 ปีผมก็เปลี่ยนครั้ง  เปลี่ยนเองก็ได้  รถคันนึงใช้ 10 กว่าปี ก็เปลี่ยนแค่ 2-3 ครั้งเอง ก็คิดว่าซื้อความสบายใจครับ
ถ้าเปลี่ยนเอง แล้วการ seal จะทำอย่างไรครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: PLW
วันเสาร์ที่ 02 มิถุนายน 2012 เวลา 22:59:46
เคยมีคนเก่งๆเค้าบอกว่าต้องมีวาวล์น้ำครับ เพราะเครื่องยนต์จะทำงานเต็มประสิทธิ์ภาพตอนเครื่องยนต์ร้อนครับ
และที่ต้องเปิดฝากระโปรงเพื่อระบายให้เครื่องเย็นตอนจอดพักกินกาแฟตามปั้มน้ำมันก็ไม่จำเป็นครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: maxkrub
วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน 2012 เวลา 08:04:39
ถ้าใช้แก๊สด้วยนี่ กว่าจะวิ่งได้แบบไม่สะดุดหลังสตาร์ท คงนานน่าดู
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: Wichanun
วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน 2012 เวลา 08:52:12
อ้างจาก: แม็ค ที่ วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน  2012 เวลา 08:04:39
ถ้าใช้แก๊สด้วยนี่ กว่าจะวิ่งได้แบบไม่สะดุดหลังสตาร์ท คงนานน่าดู
นี่คือรถที่ไม่มีวาล์วน้ำใช่ไหมครับ ตอนนี้ใช้ lpg วิ่งปกติดีครับไม่สะดุด แต่ผมอุ่นเครื่องก่อนประมาณ 5 นาทีก่อนวิ่ง
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: RATCHAI
วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน 2012 เวลา 08:57:55
อ้างจาก: Wichanun ที่ วันเสาร์ที่ 02 มิถุนายน  2012 เวลา 22:53:25
จากความรู้สึกส่วนตัว ถ้าอณุหภูมิรถซัก 80 รถจะวิ่งลื่นดีขึ้น  และจากกระทู้ไหนจำไม่ได้ รถที่ไม่มีวาล์วน้ำจะสึกหรอมากกว่าปกติ  ส่วนรถที่ขับจนวาล์วน้ำเสียก็น่าจะมาจากเจ้าของรถเอง  ที่ไม่ให้ความสำคัญกับอายุของวาล์วน้ำ แต่มันก็เป็นธรรมชาติของคนแหละ เพราะวาล์วน้ำมันอายุเป็นหลายหมื่นโล  ก็เลยใช้จนลืม 

ราคาวาล์วน้ำผมว่า ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป   4-6 ปีผมก็เปลี่ยนครั้ง  เปลี่ยนเองก็ได้  รถคันนึงใช้ 10 กว่าปี ก็เปลี่ยนแค่ 2-3 ครั้งเอง ก็คิดว่าซื้อความสบายใจครับ
ถ้าเปลี่ยนเอง แล้วการ seal จะทำอย่างไรครับ

Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: RATCHAI
วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน 2012 เวลา 08:59:02
อ้างจาก: AB NORMAL ที่ วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน  2012 เวลา 08:57:55
จากความรู้สึกส่วนตัว ถ้าอณุหภูมิรถซัก 80 รถจะวิ่งลื่นดีขึ้น  และจากกระทู้ไหนจำไม่ได้ รถที่ไม่มีวาล์วน้ำจะสึกหรอมากกว่าปกติ  ส่วนรถที่ขับจนวาล์วน้ำเสียก็น่าจะมาจากเจ้าของรถเอง  ที่ไม่ให้ความสำคัญกับอายุของวาล์วน้ำ แต่มันก็เป็นธรรมชาติของคนแหละ เพราะวาล์วน้ำมันอายุเป็นหลายหมื่นโล  ก็เลยใช้จนลืม 

ราคาวาล์วน้ำผมว่า ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป   4-6 ปีผมก็เปลี่ยนครั้ง  เปลี่ยนเองก็ได้  รถคันนึงใช้ 10 กว่าปี ก็เปลี่ยนแค่ 2-3 ครั้งเอง ก็คิดว่าซื้อความสบายใจครับ
ถ้าเปลี่ยนเอง แล้วการ seal จะทำอย่างไรครับ

ก็ซื้อกาวทาปะเก็นมาทาครับ หลอดละไม่กี่บาทหลอดใหญ่ก็ประมาณ 100 ครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: suthipong worasarn
วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน 2012 เวลา 16:47:26
ช่างที่ถอดวาล์วน้ำออก เป็นช่างที่ไม่มีความรู้เลย เครื่องเย็นเกินไปเป็นผลเสียครับ บางคันเครื่องสั่นตอนเจอฝนตก ผมนั่งไปกับเพื่อน ซึ่งใช้เครื่องเหมือนกันกับรถผม  พอเห็นสั่นตอนฝนตกผมบอกเลยว่า ไม่มีวาล์วน้ำ หรือไม่ก็เสียค้างอยู่  เพื่อนพาไปเข้าอู่เดี๋ยวนั้นเลย เป็นจริงตามผมพูด คือเสียค้างอยู่ อ้าค้างอยู่ ระหว่างทางผมอธิบายให้เพื่อนฟังเรื่องวาล์วน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง
ช่างซ่อมรถได้ แต่ขาดความรู้พื้นฐานครับ 
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: suthipong worasarn
วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน 2012 เวลา 16:52:46
ช่างที่ถอดวาล์วน้ำออก เป็นช่างที่ไม่มีความรู้เลย เครื่องเย็นเกินไปเป็นผลเสียครับ บางคันเครื่องสั่นตอนเจอฝนตก ผมนั่งไปกับเพื่อน ซึ่งใช้เครื่องเหมือนกันกับรถผม  พอเห็นสั่นตอนฝนตกผมบอกเลยว่า ไม่มีวาล์วน้ำ หรือไม่ก็เสียค้างอยู่  เพื่อนพาไปเข้าอู่เดี๋ยวนั้นเลย เป็นจริงตามผมพูด คือเสียค้างอยู่ อ้าค้างอยู่ ระหว่างทางผมอธิบายให้เพื่อนฟังเรื่องวาล์วน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง
ช่างซ่อมรถได้ แต่ขาดความรู้พื้นฐานครับ 
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: Wichanun
วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน 2012 เวลา 16:54:22
เห็นประเด็นแล้วครับ งั้นผมคงต้องใส่แล้วครับ ขอบคุณครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: Visan_406
วันจันทร์ที่ 04 มิถุนายน 2012 เวลา 00:52:03
ขอความรู้ว่าพูดถึง405 หรือ 406ครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: kletaya
วันจันทร์ที่ 04 มิถุนายน 2012 เวลา 07:31:53
อ้างจาก: suthsarn ที่ วันอาทิตย์ที่ 03 มิถุนายน  2012 เวลา 16:52:46
ช่างที่ถอดวาล์วน้ำออก เป็นช่างที่ไม่มีความรู้เลย เครื่องเย็นเกินไปเป็นผลเสียครับ บางคันเครื่องสั่นตอนเจอฝนตก ผมนั่งไปกับเพื่อน ซึ่งใช้เครื่องเหมือนกันกับรถผม  พอเห็นสั่นตอนฝนตกผมบอกเลยว่า ไม่มีวาล์วน้ำ หรือไม่ก็เสียค้างอยู่  เพื่อนพาไปเข้าอู่เดี๋ยวนั้นเลย เป็นจริงตามผมพูด คือเสียค้างอยู่ อ้าค้างอยู่ ระหว่างทางผมอธิบายให้เพื่อนฟังเรื่องวาล์วน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง
ช่างซ่อมรถได้ แต่ขาดความรู้พื้นฐานครับ 

เห็นด้วยครับ

การที่คิดว่า ไม่มีวาล์วน้ำ และทำให้เครื่องเย็นขึ้น เป็นความคิดที่ผิดครับ

ขออธิบายเพิ่มสักนิดล่ะกัน
รถเครื่องหัวฉีด
ถ้ารถท่านใดติดแก๊สระบบหัวฉีด ลองเปิดโปรแกรมจูนแก๊ส มันสามารถดูเวลาในการที่หัวฉีดน้ำมันจ่ายเชื้อเพลิง จะบอกเป็น ms
แล้วให้ลองสังเกตุเวลาที่หัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิง  ตอนเครื่องเย็น กับ เครื่องร้อน
ยกตัวอย่าง ตอนเครื่องเย็น จะจ่าย 5.xx ms  ตอนเครื่องร้อน จะจ่าย 3.xx - 4.xx ms

ส่วนรถคาร์บิว
ก็จะใช้น้ำเข้าไปวนที่คาร์บิว เพื่อให้โช๊คทำงาน ( ถ้ายังไม่ตัดระบบนี้ไปซะก่อน )

นี้คือ ตัวอย่าง ที่ว่า เครื่องเย็นไปแล้วกินน้ำมัน ครับ

ส่วนการดูแล วาล์วน้ำ ง่ายมาก ๆ สูตรผม เปลี่ยนทุกปี ไม่ต้องรอให้เสีย หรือ ออกอาการครับ เพราะ ราคาของใหม่ไม่แพง เทียบกับ ผลที่ตามมาถ้าวาล์วน้ำเสีย
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: Wichanun
วันจันทร์ที่ 04 มิถุนายน 2012 เวลา 07:41:27
อ้างจาก: Visan_406 ที่ วันจันทร์ที่ 04 มิถุนายน  2012 เวลา 00:52:03
ขอความรู้ว่าพูดถึง405 หรือ 406ครับ
เป็น 405 GR ครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: hang_306
วันจันทร์ที่ 04 มิถุนายน 2012 เวลา 10:32:19
มี ดีกว่า ไม่มีแน่นอนครับ เพราะในทุกเงื่อนไข  เรื่องอุณหภูมิเครื่อง  มีประเด็นเดียวที่เป็นข้อเสียคือเวลามันเปิดไม่สุด กับไม่เปิดนั่นหมายถึงว่ามันเสีย  แต่เมื่อเทียบกับราคา ไม่เกินสองร้อยต่อตัว  ผมว่าเปลี่ยนมัน ปีละตัว แบบคุณทอมว่าก็โค ตะ ระ  คุมแล้วครับ
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: suthipong worasarn
วันพุธที่ 06 มิถุนายน 2012 เวลา 09:15:19
ดีใจที่ไม่มีช่างหรือแฟน Peugeot คนไหนประท้วงผมที่ผมเขียนไว้วันก่อนว่าช่างที่ถอดวาล์วน้ำออกเป็นช่างที่ไม่มีความรู้  คือเขาต้องมีความรู้บ้างแหละครับ ไม่ใช่จะไม่มีเสียเลย ไม่งั้นจะเปิดอู่หรือเป็นช่างซ่อมรถเอาเงินพวกเราได้อย่างไร แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความรู้พื้นฐานครับ อันนี้สำคัญ ไม่ใช่คิดง่ายเพียงว่า วาล์วน้ำมันขวางทางน้ำอยู่ทำให้เครื่องร้อน เอาออกเสียเลย บางคนชี้ให้ผมดูว่าเขาถอดวาล์วน้ำรถหลายรุ่นแขวนไว้เป็นพวงเลย พูดด้วยความภูมิใจ ผิดถนัดครับ รถรุ่นใหม่เขาติดสติ๊กเกอร์ไว้ตรงบริเวณนั้นเลยว่าห้ามถอดวาล์วน้ำออกเด็ดขาด คงเคยเห็นนะครับ วาล์วน้ำทำงานตั้งแต่ติดเครื่องครับ คือปิดไว้ก่อนเพื่อให้น้ำไหลวนรอบเสื้อสูบจนค่อย ๆ อุ่นขึ้น และร้อนจนสารที่อยู่ในวาล์วขยายตัว ดันให้วาล์วอ้าออกมาเปิดเป็นช่องให้น้ำไหลวนไปที่หม้อน้ำ พัดลมเป่าความร้อนออกไป ควบคุมให้ระดับความร้อนพอเหมาะ  ที่ต้องให้ไหลวนรอบเสื้อสูบก่อนก็เพื่อให้เครื่องร้อนขึ้นถึงอุณหภูมิทำงาน คือเริ่มประมาณ 70 องศาขึ้นไป ของเปอร์โยฌ์ อยู่ที่ประมาณ 90 องศากว่า ๆ ขึ้นลงอยู่แถว ๆ นั้น ถ้าเครื่องเย็นแล้วให้เขาทำงานคือขับออกไปเลย เหล็กจะเสียดสีกัน คือเสื้อสูบกับลูกสูบ แหว
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: suthipong worasarn
วันพุธที่ 06 มิถุนายน 2012 เวลา 09:30:31
(ต่อ) แหวน จะสึกหรอเร็วเกินไป เครื่องหลวมเร็ว ใคร ๆ ว่า Peugeot เครื่องร้อน และมีปัญหาเรื่องเครื่องร้อนเสมอ ไม่จริงครับ ความร้อนในเครื่องขึ้นถึง 100 หรือเกินกว่า น้ำยังไม่เดือดเลยครับ เพราะเขาอยู่ในสถานที่ควบคุมความดัน คือมีหม้อน้ำ และฝาหม้อน้ำคุมความดัน ไม่เหมือนต้มน้ำในกาเพื่อชงกาแฟ มันเดือดที่อุณหภูมิ 100 พอดี  รถยนต์ไม่ว่า Peugeot หรือยี่ห้อใดก็ตาม มีพัดลมสองจังหวะคอยช่วยอยู่พอเครื่องเริ่มร้อนเกินไปก็จะขึ้นจังหวะสองรอบจัด พัดลมรถ Peugeotเสียงดังน่าฟังมาก เป่าให้น้ำเย็นลง  รถผมไปติดอยู่ในถนนที่รถติดวินาศสันตะโร ก็ยังอยู่ร่วมสังฆกรรมกับเขาได้สบาย Peugeot รถผมไม่ต้องเรียกให้ใครเปิดบ้าน พอได้ยินเสียงพัดลมดังก็ออกมาเปิดประตูแล้วครับ 555
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: jamesdrum
วันพุธที่ 06 มิถุนายน 2012 เวลา 09:33:52
อ้างจาก: suthsarn ที่ วันพุธที่ 06 มิถุนายน  2012 เวลา 09:30:31
(ต่อ) แหวน จะสึกหรอเร็วเกินไป เครื่องหลวมเร็ว ใคร ๆ ว่า Peugeot เครื่องร้อน และมีปัญหาเรื่องเครื่องร้อนเสมอ ไม่จริงครับ ความร้อนในเครื่องขึ้นถึง 100 หรือเกินกว่า น้ำยังไม่เดือดเลยครับ เพราะเขาอยู่ในสถานที่ควบคุมความดัน คือมีหม้อน้ำ และฝาหม้อน้ำคุมความดัน ไม่เหมือนต้มน้ำในกาเพื่อชงกาแฟ มันเดือดที่อุณหภูมิ 100 พอดี  รถยนต์ไม่ว่า Peugeot หรือยี่ห้อใดก็ตาม มีพัดลมสองจังหวะคอยช่วยอยู่พอเครื่องเริ่มร้อนเกินไปก็จะขึ้นจังหวะสองรอบจัด พัดลมรถ Peugeotเสียงดังน่าฟังมาก เป่าให้น้ำเย็นลง  รถผมไปติดอยู่ในถนนที่รถติดวินาศสันตะโร ก็ยังอยู่ร่วมสังฆกรรมกับเขาได้สบาย Peugeot รถผมไม่ต้องเรียกให้ใครเปิดบ้าน พอได้ยินเสียงพัดลมดังก็ออกมาเปิดประตูแล้วครับ 555
[/b]

 ...555555555555555 กด  Like Like Like Like............ใช่เลย...!!! หมา แมวแถวบ้านผมสะดุ้งทุกครั้งที่แดงแก้วเข้าบ้าน...!!!
Re: ควรมีวาล์วน้ำหรือไม่ By: thamrong_ph
วันพุธที่ 06 มิถุนายน 2012 เวลา 10:26:43
ของผมถ้าวันไหนกะว่าจะกลับบ้านดึก จะเอาคันอื่นไป เพราะเปอโยต์ 405 ทำให้คนทั้งบ้านตื่นหมด 555