ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 13:12:40

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  พูดคุยทั่วไป ได้ทุกเรื่อง
| | |-+  อยากทราบประวัติเขาพระวิหารครับ สร้างเมือใด ใครสร้าง สร้างพื้นที่ใคร..
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากทราบประวัติเขาพระวิหารครับ สร้างเมือใด ใครสร้าง สร้างพื้นที่ใคร..  (อ่าน 15747 ครั้ง)
owen
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 638



« เมื่อ: วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2008 เวลา 07:22:13 »


เห็นทราบข่าวมาว่าในอดีต ศาลระหว่างประเทศยกให้เป็นของเขมร ไปแล้ว... ตอนนี้เลย งง ว่า ถ้าเขมรสร้างและขณะสร้างพื้นที่ก็ต้องเป็นของเขมร แต่ไทยล่ะ สับสนครับ อยากได้ข้อมูลครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
โอ๊ต_XU5_ฝาส้ม
ใจไปไวกว่าแสง
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,870



« ตอบ #1 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2008 เวลา 07:51:27 »


ประสาทเป็นของเขมรมั้งครับ แต่รอบๆและทางขึ้นเป็นของไทย

ตอนนี้ผมไม่รู้หรอกว่า มันสร้างมายังไง  แต่รู้ว่า ตอนนี้เราจะเสียมันไป เพราะใคร
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
PoomSira
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 375


« ตอบ #2 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2008 เวลา 08:18:46 »


ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องซับซ้อนครับ สมัยสร้างเมื่อประมาณพันกว่าปีที่แล้วนั่นไม่มีกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่มีสหประชาชาติ ไม่มีศาลโลก เหมือนสมัยนี้นี่ครับ คนเขมร คนไทย ก็ไม่ได้แบ่งชัด ช่วงไหนใครเข้มแข็ง ก็ครองพื้นที่เยอะกว่า

การก่อสร้าง เริ่มจากเป็นวัดบูชาพระศิวะมาแต่เดิม แล้วมาสร้างเพิ่มเติมให้ใหญ่โตดังที่คงเหลือซากอยู่ในปัจจุบัน โดยคนที่สั่งให้สร้างคือ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 กับที่ 2 เมื่อประมาณพันปีที่แล้ว ถ้าคิดว่าใครเป็นคนสร้าง ก็ต้องบอกว่า กษัตริย์เขมร

ทีนี้ เมื่อสักร้อยปีที่ผ่านมา ปี 1904 - 1905 เจ้าหน้าที่ไทยกับฝรั่งเศสที่ครองกัมพูชาอยู่ก็มาตกลงแบ่งเขตแดนให้แน่ชัด ตามสันปันน้ำของเทือกเจ้าพนมดงรัก ได้มีการรังวัดร่วมกัน แล้วฝรั่งเศสก็ได้รับหน้าที่เป็นคนร่างแผนที่ ก็ปรากฎว่าฝั่งไทยยอมรับแผนที่ที่ฝรั่งเศสร่างขึ้น ซึ่งแต่เดิมถ้าแบ่งตามสันปันน้ำเทือกเขาพนมดงรัก เขาพระวิหารจะอยู่ในฝั่งไทย แต่พอแบ่งตามแผนที่ใหม่ (ของปี 1907) จะอยู่ในฝั่งกัมพูชา โดยที่ไทยเราก็ไม่ได้ประท้วง ยอมรับแต่โดยดี อาจจะเป็นเพราะฝรั่งเศสก็เป็นมหาอำนาจอยู่ตอนนั้น และคนไทยก็ยังสามารถเข้าไปยังปราสาทเขาพระวิหารได้โดยง่าย ฝรั่งเศสก็ไม่ได้ห้ามอะไร

ทีนี้พอฝรั่งเศสหมดอำนาจกลับประเทศไป ไทยเราส่งทหารไปยึดครองพื้นที่ ประมาณปี 1954 กลายเป็นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล(โลก) ซึ่งศาลก็ตัดสินให้เป็นของกัมพูชา ปัญหาคือว่าในตอนนั้นไทยเราไม่ได้ขอแก้ไขแผนที่ที่ฝรั่งเศสร่างขึ้น เวลาผ่านมาถึงห้าสิบปี ถึงจะเพิ่งมาประท้วงเรื่องแผนที่นี้ ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องกันมาจนในที่สุดไทยก็ต้องยอมรับคำตัดสิน แล้วตกลงกันว่าตัวปราสาทอยู่ฝั่งกัมพูชา ส่วนบริเวณรอบๆ เป็นของไทย

ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรมาก ไปเปิดดูเอาที่นี่อะครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Prasat_Preah_Vihear
คิดว่าเป็นข้อมูลกลางๆ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดนะ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
PoomSira
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 375


« ตอบ #3 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2008 เวลา 08:28:42 »


อ่อ ถ้าเราอยู่กันเหมือนที่อยู่กันมาหลังคำตัดสินของศาลโลก ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ทีนี้กัมพูชาต้องการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็เลยต้องมาเคลียร์กันซะก่อนว่าเป็นยังไง เลยเกิดเรื่องขึ้นมาใหม่

แล้วก็ถ้าไม่มีข่าวลือ (ไม่รู้จริงไม่จริงละนะ) ว่า ไทยยอมรับ (อีกที) ว่าเขาพระวิหารอยู่ในฝั่งเขมร เพื่อให้คนไทยใครบางคนได้ทำธุรกิจพลังงานในเขมร ก็คงไม่มีเกิดเรื่องประท้วงอะไรขนาดนี้มั้ง

ถ้าจะถามว่า ใครทำให้เราเสียมันไป ก็อาจจะไม่ตรงประเด็น เพราะมันก็ไม่เคยเป็นของไทยโดยถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว

ถ้าจะถามว่าใครทำให้เราไม่ได้มันมา ซึ่งตอบได้ชัดเจนเลยว่าคือประเทศผู้สร้างรถสิงห์ยกขาของเรา ๆ ท่าน ๆ เนี่ยแหละ

การเมืองระหว่างประเทศ ไม่เคยมีคำว่าศีลธรรมจรรยาเข้ามาเกี่ยวข้องหรอกครับ ใครใหญ่ ใครแข็งแรง ก็ได้ไป ประเทศทุกประเทศก็เคยรุกรานคนอื่นทั้งนั้น รวมทั้งไทย แม้แต่ภูฐาน ประเทศแห่งวิถีพุทธ วิถีความสุขอย่างพอเพียง ก็มีประวัติที่ใช่ย่อยเหมือนกัน

ชื่อหัวข้อกระทู้นี้ก็บอก "พูดคุยทั่วไป สนุกๆ" ก็อย่าไปเครียดอะไรมากเลยนะ การเมืองไม่ยุ่ง การมุ้งไม่เกี่ยว ขับสิงห์อย่างเดียว เที่ยวไปซ่อมไป
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
HAZZAN
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 50


« ตอบ #4 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2008 เวลา 20:34:30 »


โอกาสไทยทวงคืน “ประสาทพระวิหาร” ย้อนดูคำประท้วงคำตัดสินของศาลโลก
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000072311
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
madmax
If you want pace. Prepare for war.
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,230



« ตอบ #5 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2008 เวลา 22:47:00 »


แจมนิดนึงครับ  พอดีเพิ่งเรียนเรื่องนี้ในวิชากฏหมายระหว่างประเทศ
ตอนนั้นไทยนอกจากไม่ทักท้วงเรื่องความผิดพลาดของแผนที่แล้ว ยังทะลึ่งขอแผนที่นั้นเพิ่มจากฝรั่งเศษมาใช้ด้วยนาครับ ขอบอก

ลองดูคำวิเคราะห์ของศาลโลกกันครับ  (ลอกมาจากตำราทั้งดุ้นครับ)
ศาลโลกได้วิเคราะห์ว่าข้ออ้างของฝ่ายไทยที่ว่า ฝ่ายไทยมิเคยได้ให้คำรับรองเป็ยลายลักษณ์อักษร แก่แผนที่ภาคผนวก1นั้น(แผนที่ของฝรั่งเศษที่เขมรอ้าง) เป็นข้ออ้างที่ไม่สามารถรับฟังได้ เพราะตามข้อเท็จจริงปรากฏว่า ฝ่ายไทยได้รับเอาแผนที่ดังกล่าวจากฝรั่งเศษจำนวน 50 ชุด และยังได้ขอเพิ่มจากรัฐบาลฝรั่งเศษอีก 15 ชุด เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับข้าหลวงประจำจังหวัดอีกด้วย  ต่อมาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1909 คณะกรรมการการจัดทำแผนที่ประเทศสยามยังได้ประชุมกันที่กรุงเทพฯ เพื่อจัดทำแผนที่ประเทศสยามฉบับย่อขึ้น  โดยใช้แผนที่ภาคผนวกที่1เป็นแม่แบบ ฯลฯ  ดังนั้นถึงแม้ว่าฝ่ายไทยจะไม่ไดให้คำรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรก็ตาม แต่การประพฤติปฏิบัติของฝ่ายไทยก็ส่อเจตนาที่จะยอมรับโดยพฤตินัย ต่อเส้นเขตแดนที่ตีพิมพ์ลงในแผนที่ฉบับนั้นมาโดยตลอดโดยฝ่ายไทยไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบเรื่องนี้ภายในระยะเวลาอันสมควร ด้วยเหตุนี้ศาลจึงเล็งเห็นว่าฝ่ายไทย ได้ให้ความยินยอมโดยการนิ่งเฉยแล้ว ดังภาษิตลาตินที่ว่า "ผู้ที่เงียบเฉยอยู่ย่อมถือเสมือนได้ว่ายินยอม ถ้าเขามีหน้าที่ที่จะพูด และสามารถที่จะพูดได้"

ศาลโลกจึงตัดสินให้เขมรได้ไป ด้วยคะแนนเสียง 9-3 ด้วยประการฉะนี้แล......

ขำๆหนุกๆครับ อย่าเครียด อิอิ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

If you want peace. Prepare for war.
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!