ไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่เป็นข้อแตกต่างระหว่างขับรถเกียร์ออโต้กับเกียร์ธรรมดาตอนลุยน้ำ
1. ใช้ความเร็วต่ำแบบคลาน และรักษาความเร็วไว้ให้คงที่ป้องกันน้ำกระจาย
2. ห้ามเปิดแอร์
3. สำคัญมากเราควรรู้ระดับความสูงของน้ำว่าลึกแค่ไหน และเราต้องรู้ระดับความสูงของปลายท่อไอเสีย ท่อไอดี คาร์บูร์ และกรองอากาศครับ ระดับน้ำต้องไม่ถึงพวกท่อร่วมต่างๆของรถ ไม่งั้นดับแน่นอน
4. ระวังตัว ECU ถ้าคันไหนใช้ ถ้าเจอน้ำมีสิทธิ์เสียตังค์เยอะครับ
405 ไม่กลัวน้ำครับ ถ้าเจ้าของรถดูแลเรื่อง สายไฟดี ประเก็นต้องเลี่ยนตามอายุทั้งเครื่องและเกียร์ เรื่องรอยรั่วของท่อร่วมที่กล่าวไว้
406 ต่างหากที่กลัวน้ำ ถ้าเจอน้ำไม่ต้องเยอะครับแค่เจิ่งๆสูงสัก 5 ซม. แต่ขับลุยแหลกเข้าไป BSI รวนก่อนเลย ระบบหน้าปัด ระบบปัดน้ำฝนออโต้ รวนหมด ผมเจอมาแล้ว ตอนไล่บี้พวกมอร์เตอร์ไซต์บ้าๆ เอาน้ำบนถนนไล่สาดมัน แทนไล่ชนเสียดายรถ ผลเกือบเสียเงินค่าซ่อม ทิ้งไว้ 1 วันพอรถมันแห้งทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติโชคดีไป
ถ้าเลี่ยงน้ำสูงได้เลี่ยงดีกว่า พวกกระบะนิสัยแย่ๆก็เยอะมาก พวกขับลุยแหลกแบบโชว์เลย ไม่สนใจใคร น้ำกระจายถึงหลังคาเลย ถ้าน้ำมันเข้าฝากระโปรงหน้าเยอะๆ ECU พังแน่ คนรู้จักกับผมขับวอลโว่เจอน้ำจากรถเมล์ท่วมฝากระโปรงโดนไป5-6หมื่นบาทค่าซ่อม ระวังพวกแย่ๆพวกนี้ไว้ให้ดีครับ

