
ลองเช็คเองแบบง่าย ๆ ก็ได้ครับ โดยมีคนช่วยอีกหนึ่งคน พร้อมตลับเมตร โดยจอดรถให้ตรงนะครับ แล้ว
ลองหาเส้นร่องกลางของยางหน้าฝั่งหนึ่ง (อาจไม่กลางก็ได้ครับแล้วแต่ยี่ห้อยาง แต่ใช้เส้นเดิมตลอด) แล้วให้
คนที่ช่วย จับตลับเมตรจิกลงไปที่หน้ายางด้านหน้าของล้อหน้าข้างใดข้างหนึ่ง แล้วดึงตลับเมตรนั่นออกมาจนถึง
ยางล้อหน้า ด้านหน้าอีกเส้นหนึ่ง โดยวัดถึงร่องยางตามที่บอกไปนะครับ แล้วทำเครื่องหมายร่องยางที่วัดไว้
ด้านหน้าทั้ง 2 เส้น จดบันทึกเอาไว้ก่อน เป็นกี่ ซม. กี่ มม. เสร็จแล้วก็นำตลับเมตรมาวัดที่ด้านหลังของล้อหน้า
ทั้งสองข้าง วัดที่เส้นดอกยางตำแหน่งเดิมที่วัดไว้ด้านหน้า แล้วบันทึกว่า เป็นกี่ ซม. กี่ มม.
หลังจากวัด ระยะของร่องยางของด้านหน้าและด้านหลังแล้ว(น่าจะประมาณ 140-150 ซม.)
หลังจากวัดได้ค่าแล้ว หน้ายางของด้านหน้าและด้านหลังไม่ควรผิดกันเกิน 2 มม. ครับ เราพอจะสรุปได้ครับ
รถของเราศูนย์ล้อผิดหรือไม่ หน้าแบะ หรือหน้าหุบ วิธีนี้พอจะใช้ได้กับรถทุกยี่ห้อครับ แต่เพื่อความสมบูรณ์
หลังจากวัดแล้วหากค่าผิดกันตามที่ว่า ก็ไปให้ร้านตั้งศูนย์ล้อดำเนินการต่อได้เลยครับ หรือถ้ามีเครื่องมือพร้อม
และมีทักษะเชิงช่างบ้าง จะคลายน๊อตล้อคลูกหมากคันส่งออกแล้วหมุนปรับลูกหมากแร็คเองก็พอได้ครับ
การปรับนี้จะไม่ได้มีผลเฉพาะหน้ายางเท่านั้น แต่จะทำให้ตำแหน่งของวงพวงมาลัยเคลื่อนไปด้วยนะครับ
แต่พอเข้าใจหลักการก็ทำเองได้ครับ (พวกร้านตั้งศูนย์ล้อสมัยก่อนเขาจะใช้วิธีนี้กันครับแต่เปลี่ยนจากตลับเมตร
เป็นแท่งเหล็กที่มีขาล๊อกแก้มยางนะครับ หลักการคล้าย ๆ กัน แต่ปัจจุบันเขาใช้เป็นลำแสงวัดให้นะครับโดย
ติดอุปกรณ์เข้ากับล้อรถของเราแล้วจะมีขาที่ปล่อยแสงจากหน้ายาง-หน้ายาง ด้านหลังยาง-ด้านหลังยาง
แล้วแจ้งขึ้นมาเป็นข้อมูลแจ้งช่างว่าให้ปรับไปทางไหน ที่จะทำให้หน้ายางด้านหน้า และหลังยางด้านหน้า
เท่ากันหรือไกล้กันที่สุด หากวัดออกมาแล้วเท่ากันแล้วรถยังมีอาการอีก อาจจะมาจากสาเหตุอื่นได้ครับ ใน
กรณีที่ผมให้ข้อมูลนี้ใช้ได้กับรถที่ช่วงล่างปกติ และไม่เคยชนหนัก หรือเบียดฟุตบาทอย่างแรงมานะครับ
เพราะนั่นมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องครับ และยางบางยี่ห้อมีนิสัยไหลได้ครับ เช่นไหลซ้าย หรือไหลขวาเล็กน้อย
ครับ


