เพิ่งรับรถมาวันนี้ รวมค่าวางเครื่อง+เก็บช่วงล่างอีก"หลายจุด" ตามประสารถอายุ 14 ปี ตกหลุมแต่ละที เสียงเหมือนอะไรจะหลุดจะแยกจากกันเป็นชิ้นๆ ............. กุกกักๆๆ โครมๆ ครามๆ ป๊อกๆๆ สารพัดเสียง ตามแต่ที่มันอยากจะดัง

เป๋าแฟ่บเลย .............
รับรถมาเสร็จ ช่วงล่างเงียบขึ้นผิดหูผิดตา รถก็วิ่งนิ่งขึ้น ไม่เอียงไป เอียงมา โยกซ้าย โยกขวา แบบก่อนทำ เสียงบรรเลงจากวงออเครสต้าที่มาจากช่วงล่างหายไปเกือบหมด .............

ส่วนเรื่องเครื่อง เดิมที ของผม เป็น SRI ออโต้ เครื่อง XU10J2C แล้วเกียร์พัง รอบที่ 3 แล้วมั้ง เลยยกธรรมดาใส่เลย เป็น BE3 ขับมันกว่าเดิมพอควร แต่แล้ว เครื่องก็พัง เพราะชาร์ปละลาย ตอนเลขไมล์ 347,174 กม. น้ำไม่ขาด น้ำมันเครื่องไม่หาย ตอนถ่ายออกก็มี น้ำมันเครื่องเต็ม แต่ผสมกะเศษเหล็กออกมาด้วย เท่านั้นเอง..... สาเหตุ คงมาจากการที่แช่แบบไม่ดูสังขารเครื่องนี่หละ เพราะเครื่องผม ตั้งแต่ ป้ายแดง ก็ยังไม่เคยโอเวอร์ฮอร์น ไม่เคยรื้อเหมือนกัน............ ป้ายแดงออกห้างตั้งแต่ปี 2537 ( พค.) แล้วก็
วิ่งในเมือง ซะส่วนใหญ่ครับ 3-4 ปีแรก ใช้ ตจว.ซะส่วนใหญ่ พักหลัง มาใช้ในเมืองซะเยอะ

( ต่างจังหวัด ก็ จัดการ มังกรซะเกือบสิ้นชีพแล้ว 1 ตัว อีซุซุ 2800 เทอร์โบ เลขไมล์ หนีกันไม่มาก 548,000 กม. อาการก็หนักแล้วเหมือนกัน )
ตอนแรก ไม่ได้ตั้งความหวังกะเครื่อง D8 ว่ามันจะวิ่งดีกว่าตัว SRI มากเท่าไหร่นัก เพราะดูๆ จากเสปค 123 กะ 135 แรงม้า ก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องความแรงมากมาย เพราะผมกะทำไว้วิ่งใช้งาน แอร์เย็นๆ วิ่งไม่งอแงได้อีกนานๆ เครื่อง ใหม่ แล้วก็ สดกว่าตัว SRI ก็ ok แล้ว
แต่วันนี้ เท่าที่ได้ลองขับดู เครื่อง D8 ชนเกียร์ BE3 ขับมันกว่าตัวเครื่อง SRI เดิมเยอะเหมือนกัน
******* อ่านคำอธิบายก่อนนะ ผมไม่ได้คิดไปเอง มันมีเหตุผล หลายท่านอาจว่าไม่ต่างมาก *********
- รอบกลางๆ ยันปลายๆ มาเร็วกว่าเดิม
- ตอนรอบต้นๆ ไม่ค่อยต่างกะตัว SRI มากนัก D8 อืดกว่านิดหน่อย แต่ พอได้ที่แล้ว ดีกว่า SRI ถ้าขับรอบต้นๆมันๆ ผมว่า SRI มันกว่า รอบมาไวกว่า D8 ช่วงไม่เกิน 3000 รอบ แบบรู้สึกได้ แต่ไม่มากเท่าไหร่
- เสียงเครื่อง ตอนแรก มีหลายคนบอกว่า ไม่ต่างกันมาก เพราะตอนติดเครื่องเดินเบา แล้วเปิดฝากระโปรง ถ้าไม่เร่ง ตัว D8 เงียบกว่า SRI ไม่มาก .....แต่พอเอามาใช้จริงๆ D8 เงียบกว่า " เยอะ " เลย 3000-4000 รอบ ตัว D8 เหมือนตอนลากรอบ SRI 2000 กว่ารอบ
- อัตราบริโภค ผมว่า ถ้าเครื่องมันวิ่งกว่า ก็น่าจะกินกว่า แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้..... อันนี้ เดี๋ยวไว้รอชินกะเครื่อง แล้ว ลองขับ แบบขับทั่วๆไปเหมือนตอนเครื่องเดิมๆ จะมาเพิ่มรายละเอียดให้ครับ
ที่ว่า เงียบ และรู้สึกวิ่ง ไหล ลื่นดีกว่าของเดิม เพราะ ผมคิดว่า เครื่องเดิมของผม 347,174 กม. มันคงเริ่มหมดสภาพแล้วด้วย กำลังอัด อาจต่ำกว่าเดิมแล้ว เลยรู้สึกไม่ค่อยปึ๋งปั๋งเท่าไหร่ แถม เหมือนคนแก่ ทำตัว เลอะเทอะด้วย
เยิ้ม หยด ย้อย เต็มไปหมด
แถม เครื่องใหม่ มันวิ่งน้อยกว่าเครื่องตัวเดิมผม เกือบ " 10 เท่าตัว " แหน่ะ เลขไมล์จากหัวตัด 406D8 ญี่ปุ่น 42,961 กม. เอง
รูป เดี๋ยวพรุ่งนี้เอามาลงให้ครับ กลางคืนถ่ายแล้ว มองไม่เห็น

