เวลาออกแบบรถ
จะต้องรู้แรงที่มากระทำในแต่ละชิ้นส่วนของรถก่อน
อันดับ 2 พิจารณาดูว่า ชิ้นส่วนนั้น มันต้องขึ้นรูปด้วยวิธีอะไร
อันดับ 3 มาสุมหัวคิดเรื่องประเภทของวัสดุที่ต้องเอามาใช้
อันดับ 4 มาคำนวณหาขนาดของชิ้นงานนั้นๆ
โดยในขั้นตอนนี้สามารถกำหนดได้ด้วยกว่า
จะให้มันทนจากการใช้งานจริงได้กี่เท่า
เรียกว่า Factor of Safety (ค่าความปลอดภัย) มีสูตรคือ
แรงที่วัสดุจะถึงจุดขั้นแตกหัก / แรงที่อนุญาตให้ใช้แค่นั้น
เช่น สลิงเส้นนึง รับแรงได้ซัก 200 กิโลถึงจะเริ่มขาด
เวลาขายก็เขียนโฆษณาซะว่ารับได้แค่ 100 กิโล
Factor of Safety ก็ได้ = 2 เท่า
ทีนี้ปัญหาคือ เมื่อต้องการสนองความแรง
ชิ้นส่วนก็ต้องรับภาระมากขึ้น ค่าความปลอดภัยมันก็ต่ำลง
จนถึงจุดนึง ที่ทำเกินลิมิตของชิ้นงานนั้นจะรับได้
มันก็จะเริ่มบรรลัยทีละนิด จนมันรับไม่ไหว ทีนี้บรรลัยทั้งชิ้นเลย
------------------------------------------------------------------
ปัญหาหนักของคนแต่งรถ คือมักจะไม่รู้ว่า วิศวกรเขาเผื่อค่าความปลอดภัยมาไว้เท่าไหร่
ไม่มีข้อมูล ในหลายๆครั้งจึงโมดิฟายเกินลิมิตของวัสดุนั้น แต่เนื่องด้วยมันไม่ออกอาการในทันที
จึงคิดว่า มันรับไหว แต่พอใช้นานๆเข้า มันก็ทนไม่ไหว ก็พังขึ้นมา
--------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการเลือกวัสดุ ต้องคำนึงถึงความล้าด้วย
ความล้าหมายความว่า ชิ้นส่วนใดๆที่มันทำงานเป็นวัฎจักร
คือทำงานกลับไปกลับมาครบรอบไปเรื่อยๆ เช่น ลูกสูบ ปีกเครื่องบิน ฯลฯ
เมื่อใช้งานไปอาจจะหลายล้านๆรอบ วัสดุมันจะรับแรงได้น้อยลงกว่าเดิม
เช่น สลิงเส้นนึงอีกแล้ว ที่บอกไปว่าต้องเจอแรงไป 200 กิโลถึงจะเริ่มขาด
พอมันล้า มันอาจจะขาดเมื่อมีแรงถึงเพียงแค่ 150 กิโลเองก็ได้
-------------------------------------------------------------------------
อยากรู้วิธีทำรถก็ถามได้ครับ จะตอบให้เท่าที่รู้
เพราะตอนนี้ผมก็ทำรถสเปซเฟรมคันที่ 2 กันอยู่
ซึ่งได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา หลายวิชามากมายเลย
เรียนแต่ละวิชา ใช้คุ้มมากๆ

