เรื่องระบบระบายความร้อน
เนื่องจากขณะที่เครื่องยนต์ทำงานเพื่อ เปลี่ยนพลังงานความร้อนให้เป็นพลังงานกลนั้น ภายในกระบอกสูบตรงบริเวณห้องเผาไหม้จะมีความร้อนซึ่งเกิดจากการอัดตัวของ อากาศ และแรงระเบิดจากการเผาไหม้สูงถึง 500 องศาเซลเซียล
จึงจะต้องควบคุมและระบายความร้อนให้กับชิ้นส่วนต่างของเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนเหล่านั้นได้รับความเสียหาย
การระบายความร้อนประกอบด้วย
1 น้ำ จะหมุนวนเข้าไปในเครื่องโดยมีปั้มน้ำเป็นตัวดูดน้ำจาก หม้อน้ำแล้วดันเข้าไปวนภายในเครื่อง ออกมา ตรงที่วาวล์น้ำจะทำหน้าที่เป็นประตูเปิดและปิดกั้นน้ำเพื่อควบคุมอุณหภูมิ
2 อากาศ เป็นตัวระบบายความร้อนให้กับน้ำที่ผ่านวาวล์น้ำออกจากเครื่องมา โดยจะมีพัดลมเป่าลมผ่านรังผึ้งของหม้อน้ำ
3 น้ำมันเครื่อง จะทำหน้าที่หล่อลื่นชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เพื่อลดการสึกหรอ และยังเป็นตัวช่วยละบายความร้อนด้วย
สาเหตุที่ทำให้ความร้อนสูงผิดปกติ
1 วาวล์น้ำเสีย(ไม่เปิด) น้ำจะไม่สามารถไหลวนออกจากเครื่อง มาเพื่อผ่านการระบายความร้อนที่หม้อน้ำได้ ส้าเหตุของการเสียเกิดจากการหมดอายุการใช้งาน
การสังเกตเมื่อวาวล์น้ำเสีย
_- ความร้อนสุง พัดลมทำงานปกติ
- แผงรังผึ้งหม้อน้ำ ทางด้านน้ำออกจากเครื่องไม่ร้อนหรือแค่อุ่น แต่เครื่องร้อนมาก
2 หม้อน้ำตัน หม้อน้ำเป็นแท้งค์เก็บน้ำและยังทำหน้าที่ระบายความร้อนให้กับน้ำด้วย หากน้ำไม่สามารถไหลวนได้อย่างสะดวก ก็จะระบายความร้อนได้ไม่ดีเช่นกัน สาเหตุที่หม้อน้ำตันเกิดจากมีสนิมในน้ำมาก และน้ำมีตะกอนมากเกิดการสะสมของตะกอน
กาสังเกตุ
- เมื่อ ขับรถด้วยความเร็วเกิน100 กม./ชม เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ. คววามร้อนจะสูงขึ้นเรื่อๆไม่ยอมลด และเมื่อชะลอความเร็วลง ความร้อนก็จะลดตามลงมา
- สตาทร์เครื่องอยู่ที่รอบเดินเบา(เริ่มจาก อุณหภูมิน้ำเย็น) ลองสัมผัสหม้อน้ำให้ทั่วทั้งใบ จะจบว่าสามในสี่ส่วนของหม้อน้ำจะค่อยๆร้อนขึ้น มีเพียงหนึ่งงส่วนที่ไม่ร้อน(บริเวณมุมล่างด้านซ้าย)
3 ครีบของรังผึ้งหม้อน้ำสกปรก สาเหตุเกิดจากแผงคอยล์ร้อนของแอร์รั่ว มีคราบน้ำมันมาเปื้อนที่รังผึ้งหม้อน้ำ จึงทำให้ฝุ่นเกาะติดอยู่กับครีบรังผึ้งหม้อน้ำ ลมจึงไม่สามารถผ่านรังผึ้งเพื่อระบายความร้อนให้กับน้ำได้
การสังเกตุ
- สตาทร์เครื่องอยู่ที่รอบเดินเบา(เริ่มจากอุณหภูมิน้ำเย็น) ลองสัมผัสหม้อน้ำให้ทั่วทั้งใบ จะพบว่า หม้อน้ำจะร้อนทั่วทั้งใบ
- เมื่อ ขับรถด้วยความเร็วเกิน100 กม./ชม เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ. คววามร้อนจะสูงขึ้นเรื่อๆไม่ยอมลด และเมื่อชะลอความเร็วลง ความร้อนก็จะลดตามลงมา
4 ประเก็นฝาสูบรั่ว(เล็กน้อย) ประเก็นเป็นตัวกั้นกำลังอัดและความร้อนในห้องเผาไหม้ หากมีการรั่วจะทำให้กำลังอัดจากห้องเผาไหม้ดันออกมาที่หม้อน้ำและดันน้ำออก จากหม้อน้ำ สาเหตุที่ทำให้ประเก็นฝาสูบรั่วมักเกิดจากเครื่องยนต์ได้รับความร้อนสูง (100องศา),ประเก็นผุเนื่องจากถูกน้ำกัดกร่อน
การสังเกต
- น้ำมักจะดันล้นออกมาฝาหม้อน้ำเมื่อดับเครื่อง(ฝาหม้อน้ำดี)
- เมื่อทิ้งไว้จนกระทั่งเครื่องเย็น(ประมาณ6ชั่วโมง) ทดลองปีบท่อยางหม้อน้ำบนจะรู้สึกว่าแข็งมีลมอัดค้างอยู่ในระบบ
- เปิดฝาหม้อน้ำ(เครื่องเย็น)จะมีลมดันออกจากหม้อน้ำ
- เติม น้ำหม้อน้ำให้เต็ม ไล่ลมน้ำโดยใช้ขวดน้ำดื่มขนาด1ลิตรใส่น้ำประมาณครึ่งขวดแล้วจุ่มปากขวดเข้า กับหม้อน้ำ สตาทเครื่องเร่งค้างไว้ประมาณ2000รอบจนวาวล์น้ำเปิด จะสังเกตุเห็นฟองอากาศดันขึ้นมาจากหม้อน้ำเป็นลูกๆเป็นระยะๆ
- ในกรณีที่ประเก็นฝาสูบแตก น้ำและน้ำมันเครื่องจนรวมกันเมื่อดึงเหล็กวัดน้ำมันเครื่องดู จะเป็นสีกาแฟ
5 ฝาหม้อน้ำเสีย เมื่อน้ำมีวามร้อนสูงขึ้นก็จะมีการขยายตัวและมีความดันเพิ่มขึ้น ถ้าฝาหม้อน้ำเสียจะไม่สามารถทนแรงที่เกิดขึ้นภายในหม้อน้ำได้
- เมื่อทิ้งไว้จนกระทั่งเครื่องเย็น(ประมาณ6ชั่วโมง) ทดลองปีบท่อยางหม้อน้ำบน ท่อน้ำไม่แข็ง(ไม่มีลมอัด)
- หลังจากเติมน้ำและไล่ลมเสร็จแล้ว ปิดฝาหม้อน้ำแล้วจึงดับเครื่อง รอสักพักจะมีน้ำดันออกมาจากหม้อน้ำผ่านฝาหม้อน้ำออกมาอีก
6 สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊ส อาจจะพบกับปัญหาน้ำหายที่เกิดจาก แรงดันก๊าซในหม้อต้ม(เครื่องปรับความดัน) รั่วเข้ามาในห้องน้ำร้อน จึงมีแรงดันในหม้อน้ำด้วย อาการจะคล้ายกับประเก็นฝาสูบรัว และวิธีทดสอบก็ใช้จากข้อ4 จะต่างกันตรงที่ฟองอากาศที่ดันออกมาจะมีกลิ่นเห็นแก๊ส
7 กรณีน้ำหายไม่มีจุดรั่ว หม้อน้ำดี ฝาหม้อน้ำดี ประเก็นฝาสูบดี พัดลมไฟฟ้าทำงานเป็นปกติและแรงดี ตั้งข้อสันนิฐานว่าเกิดจากการรั่วแบบตามดเล็กๆ วิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลดีและประหยัดวิธีหนึ่งก็คือ การติดตั้งกระป๋องพักน้ำแบบเดียวกับ P505 P305 เพื่อลดแรงดันน้ำในหม้อน้ำ และเติมน้ำกลับคืนให้กับหม้อน้ำ
8 พัดลมไฟฟ้า ทำงานไม่ปกติ พัดลมไฟฟ้าทำหน้าที่เป่า หรือดูดลมผ่านรังผึ้งของแผงรังผึ้งของแอร์และหม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนให้กับระบบแอร์ และน้ำในหม้อน้ำ โดยทำงานเป็นสองจังหวะความเร็ว
- จังหวะช้า(LOW SPEED) วงจรจะต่อแบบอนุกรม
ขั้วหมายเลข 2 ของรีเรย์ 1500A มีไฟบวกผ่านขดลวดภายในตัวรีเลย์ออกมาที่ขั้วหมายเลข 1แล้วเข้าไปที่กล่องควบคุมพัดลม 8010
เมื่ออุณหภูมิน้ำถึงประมาณ 85 องศาหรือเปิดแอร์ กล่องควบคุมพัดลม 8010 จะรับรู้และยอมให้ขั้วหมายเลข 1 ของรีเลย์ 1500A ลงกราวน์ได้ ภายในตัวรีเลย์ 1500A จึงเกิดสนามแม่เหล็กดูดขั้วหมายเลข 3 ซึ่งมีไฟบวกผ่านฟิวส์มาจาก BB1ให้มาต่อกับหมายเลข 5 ไฟบวกจะผ่านหน้าคอนแทคมาเข้ามอเตอร์พัดลม 1510A แล้วมาวนเข้ารีเลย์ 1500C ที่ขั้วหมายเลข 3 ผ่านหนน้าคอนแทคออกมาที่ขั้วหมายเลข 4 มาเข้าที่มอเตอร์พัดลม 1510B แล้วลงกราวน์ที่จุด M001 พัดลมทั้งสองตัวจะหมุนด้วยความเร็วรอบช้าทั้งสองตัว โดยต่อกันเป็นวงจรอนุกรม
- จังหวะร็ว(HI SPEED) เป็นการทำงานที่ต่อเนื่องจาก จังหวะช้า(LOW SPEED) เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น หรือสวิทแรงดันแอร์รับแรงดันที่สูงขึ้น ก็จะส่งสัญยาณเข้าไปให้กล่องควบคุมพัดลม 8010
รีเรย์ 1500B และ 1500C มีไฟบวกที่ผ่านสวิทกุญแจออกมาจากฟิวส์F5 มาเข้าขดลวดที่ขั้วหมายเลข 2 แล้วออกมาทางหมายเลข 1 ของรีเรย์ท้งสองตัว ก็จะสามารถลงกราวน์ที่กล่องได้ และภายในรีเรย์1500Bและ1500C ก็จะเกิดสนามแม่เหล็กดุดให้หน้าคอนเทคขั้วหมายเลข 3 มาต่อกับหมายเลข 5
มอเตอร์ 1510A จะลกราวน์ที่จุด M002 โดยผ่านหน้าหน้าคอนแทคของรีเรย์ 1500C
มอเตอร์ 1510B จะได้รับไฟบวกจากกล่องฟิวส์ BB1 โดยผ่านมาจากคอนเทคหมายเลข 3 ต่อกับหมายเลข 5 ของรีเลย์ 1510B
จากการทำงานของรีเลย์ทั้งสามตัวนี้จะทำให้มอเตอร์ 1510A และมอเตอร์ 1510B แยกวงจรเป็นขนานกัน

