สวัสดีครับท่านมิตรรักแฟนเปอร์โยต์ทุกท่าน วันนี้มารายงานผลการซ่อมบำรุงดังนี้คือก่อนอื่นรถผมได้ไปใส่เฮดเดอร์มา ( อีกแล้ว หลังจากถอดไปพักนึง ) อาการรถผิดปกติอย่างมาก เดินไม่เรียบ สะดุด เหยียบไม่ขึ้น กินน้ำมัน ตอนแรกก็กลัวว่าจะเป็นที่ กล่อง ECU แต่คิดว่าไม่ใช่ มานั่งวิเคราะห์ปัญหากับพี่ๆ และที่อู่ คิดว่าอาจจะเกิดจากเซ็นเซอร์ เพื่อความสบายใจ ก็เลยไปลองสับกล่อง ECU กับพี่ทอม เมื่อสลับเสร็จ พี่ทอมให้สตาร์ทและไปยืนดมท่อไอเสีย....... ตาแทบบอด พี่ทอมบอกเหม็นน้ำมันมาก และเครื่องผมก็ยังสะดุดอยู่ดี ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ( อย่างที่คิดไว้แต่แรกว่า เป็นที่เซ็นเซอร์แน่ๆ )
ก็เลยสับกล่องคืน และกลับมาที่อู่ในวันรุ่งขึ้น แต่....ก่อนจะกลับอู่ พี่ทอมได้ใช้
อุปกรณ์ diag 2006 ตัวอัพเกรดล่าสุดทำการตรวจสอบอาการเสียให้ โอ้โอ๊ ไดแอทมันฟ้องเลยครับว่าเป็นที่เซ็นเซอร์เบอร์ 52 เมื่อเช็คโค้ตดูพบว่าเป็นที่ ตัว เซ็นเซอร์ท่อไอเสียนี่เอง ( ตามคารการณ์ของกระผม ) ที่ผมคาดการณ์ได้ เนื่องจาก A/F มิเตอร์ ที่ติดไว้เพื่อวัดส่วนผสมน้ำมันกับอากาศ ที่โดยปกติจะวิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา มันนิ่งสนิท ไม่ไหวติง เลยเดาๆ ว่าต้องเป็นไอ้เจ้าตัวนี้แน่ๆ
อาการของรถจะปรากฎแบ่งเป็นสองสามกรณีดังนี้
1. กรณีที่ปั๊มติ๊กและกรองเบนซินไม่สะอาด ( ตัน ) จะพบว่าเครื่องมีอาการวูบวาบๆ เหมือนจะดับแต่ก็ไม่ดับ เป็นที่ประมาณรอบต่ำๆ
2. องค์ประกอบเดียวกัน อาจจะทำให้ ไฟเค โชว์เลยก็ได้ แต่รถผมไม่โชว์ แต่มีอาการวิ่งไม่ออก
3. กรณีปั๊มติ๊กสะอาด กรองเบนซินสะอาด อันนี้จะแสดงอาการเด่นชัดมากครับ คือรอบจะสะดุดตั้งแต่เหยียบคันเร่งกันเลยครับ
พอรอบสูงๆ สัก 3000 ขึ้นไปก็หาย และวิ่งดีเหมือนเดิม แรงดีด้วย เพราะมันจ่ายน้ำมันหนามากๆ ครับ ครึ่งถังนี่วิ่งได้ 50 โลหล่ะครับ
พอวิงไปสักพัก มันรวนหนักๆ เช็คเอนจิ้น หรือไฟ เคจะโชว์ แต่เครื่องจะเดินเรียบขึ้นทันที แปลว่ากล่องได้นำข้อมูลจากรอมในส่วนของค่ามาตราฐานมาใช้งานแทนค่าที่วิเคราะห์ได้จริงครับ ดังนั้นรถคันไหน ถ้าไฟเคโชว์แล้วเครื่องเดินนิ่ง คิดไว้ก่อนเลยว่าต้องมีเซ็นเซอร์บางตัวเจ๊งแน่ๆ
รถผมเป็นทั้งสองกรณี เพราะพอเป็นทีแรกไม่คิดว่าเป็นที่เซ็นเซอร์ท่อไอเสีย ( คือเริ่มเป็นแต่ยังไม่เจ๊งน่ะ เอเอฟยังวิ่งไปมาอยู่ )
ก็เลยให้อู่ล้างกรองเบนซินกับปั๊มติ๊กให้ ทีนี้หล่ะ เอเอฟแน่นิ่งไปเลยอ่ะครับ...........
พอทราบสาเหตุก็โทรไปเช็คเอกชัยเพื่อเช็คราคาอะไหล่ตัวนี้ พบว่า ราคา 5,400......... พระเจ้าจอร์ท มันแพงจังอ่ะ ลดแล้วก็ยังแพง.......
อาเลยหาของมือสองให้ ราคาต่างกันกว่าครึ่ง ก็สภาพดี พอเจ้าแดงจัดการใส่ให้ อาการที่เคยเป็นก็หายเป็นปลิดทิ้ง และยังพบว่า อัตราการกินน้ำมัน น้อยกว่าเดิมอีกตะหากครับ สังเกตจาก A/F meter พบว่า ไฟจะสวิงในรอบเขียว ส่วนผสมบาง หรือไอเสียหลังการเผาใหม่หมดจดนั่นเอง ทำให้อาการเหม็นน้ำมัน และกินน้ำมันดีขึ้นมาก ส่วนอัตราเร่งไม่ดีขึ้น พอๆ ของเดิม ผมยังสงสัยว่า ไอ้ตัวเซ็นเซอร์ท่อไอเสีย ของนอก จะมีสเปกอะไรแปลกๆ หรือเปล่า เพราะพบว่ารอบสูงมันจ่ายบางกว่าเดิมอ่ะครับ ไม่แรงเท่าเดิม แต่ก็ประหยัดดีครับ
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ไปกลับอยุธยา วัดได้ 13 กิโลลิตร วิ่งที่ความเร็ว 90 - 100 ต่อชั่วโมง วันนี้ว่าจะลองจับใหม่ คิดว่าดีกว่าเดิม
ต่อๆ
เมื่อเปลี่ยนเซ็นเซอร์เหล่านี้เสร็จก็หาเรื่องครับ คือตอนแรกจะเปลี่ยนของใหม่เลย 5100 ( ลดแล้ว ) ใจไม่กล้าพอ...ตังค์เหลือ.....หาเรื่องอีก
ผมเลยเปลี่ยน......
- มอเตอร์เดิมเบาไปตัว ( มันก็ไม่ค่อยดีแล้ว ) ตัวนี้ถ้าเป็นหนักๆ เวลาถอนคันเร่ง รอบจะดิ่งลงและอาจจะเบาดับไปเลย หรือรอบสวิง
- เซ็นเซอร์เฟืองไมล์ ( ตั้งแต่ติดรถปี 1998 ) อีกตัวมันไม่ดีแล้ว มีรอยไหม้เพราะอยู่ใกล้ท่อไอเสียน่ะครับ
ถ้าเสียการประมวลผลของ ECU จะเพี้ยน
- เซ็นเซอร์ฟลายวิล อีกตัว ( ตั้งแต่ติดรถเหมือนกัน ) ตัวนี้ถ้าเกิดเสียจะสตาร์ทไม่ติดเลยหล่ะ
สองวันเล่นเซ็นเซอร์รถไป 4 ตัว ก็หลายบาทอยู่ แต่ถือว่ารถมันตั้งแต่ปี 98 มันก็อายุร่วม 8 ปีแล้ว ก็ถือโอกาสเปลี่ยนไปซะทีเดียวจะได้ใช้ยาวๆ อ่อ ก่อนหน้านี้ผมเปลี่ยนเซ็นเซอร์ท้ายเครื่องที่สำคัญไปสองตัว สีน้ำตาล และสีเขียว นอกจากนั้นก็เปลี่ยนเซ็นเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้ออีกตัวด้วยครับ โดยรวมเป็น SRI ที่เปลี่ยนเซ็นเซอร์เกือบจะทั้งเครื่องแล้วหล่ะ เหลือแค่บางตัวที่ไม่พังกันง่ายๆ เช่นเซ็นเซอร์เข็มวัดความร้อน และเซ็นเซอร์ไอเบนซิน อันนี้ทำความสะอาดไปแล้ว แต่ไม่ได้เปลี่ยน
ผมคิดว่าที่ผมบ้าเปลี่ยนทั้งหมดเพราะต้องการให้รถสามารถที่จะประมวลผลได้แม่นยำที่สุด รถจะประมวลผลจากสัญญาณไฟฟ้าที่ส่งมาจากเซ็นเซอร์ ถ้าเซ็นเซอร์เพี้ยนหรือเสีย กล่อง ECU ก็จะเพี้ยน หรือสั่งจ่ายน้ำมัน หรือค่าแปลกๆ ได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้ว ยังอาจจะทำให้รถกินน้ำมัน และรวนได้ด้วยครับ
จบการรายงานข่าว
สำนักข่าว ส้มซ่า


