คงจะแรงน่าดูนะครับถ้าเครื่องสมบูรณ์ อยากได้มากเลย GTE ตอนนี้แค่ GE ไปก่อนครับตามเสต็ป ตัวนี้ไม่ค่อยแรงเท่าไรครับ 200 กว่าๆเอง
ถ้าซื้อเครื่องรุ่นนี้ ชื่อรุ่นอะไรครับ 1600 CC มีมั๊ยครับ (ในกระทู้84ของคุณNUN)
เครื่องโตโยต้า 3S-GE เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ด้วยชิ้นส่วนเครื่องตระกูล S ผลิตโดยโตโยต้า และจูนโดยบริษัทยามาฮามอเตอร์
นับสูบเรียง 1-2-3-4 โดยสูบที่ 1 คือสูบที่อยู่ข้างสายพานราวลิ้น ฝาสูบทำจากอลูมิเนียมอัลลอย
ด้านบนเพดานของห้องเผาไหม้ประกอบด้วยช่องทางการไหลของไอดีและไอเสีย
ตำแหน่งของหัวเทียนอยู่ตรงศูนย์กลางของห้องเผาไหม้ ลำดับสูบการจุดระเบิดแบบ 1-3-4-2
ตำแหน่งของเพลาข้อเหวี่ยงอยู่ในห้องข้อเหวี่ยง หมุนอยู่บนแหวนรองลื่นอลูมิเนียม 5 ตัว และมีตุ้มถ่วงศุนย์เหวี่ยง 8 ตัว
รูน้ำมันเครื่องตรงกลางของข้อเหวี่ยง จ่ายน้ำมันเครื่องต่อไปยังก้านสูบ แหวนรองลื่น ลูกสูบ และชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่าง ๆ
ท่อร่วมไอดีมี 4 ช่องแยกเป็นอิสระ มีแรงเฉื่อยดี ส่งผลให้เพิ่มแรงบิดของเครื่องยนต์สูงขึ้นที่รอบต่ำและปานกลาง
สายพานราวลิ้นเส้นเดียวใช้ขับเพลาลูกเบี้ยวทั้งไอดีและไอเสีย
ประกับลูกเบี้ยวถูกยึดไว้ 5 จุด เป็นช่วง ๆ ระหว่างตัวกดวาวล์ของแต่ละสูบ และที่ด้านหน้าของฝาสูบ
ประกับลูกเบี้ยวถูกหล่อลื่นทางช่องน้ำมันเครื่องตรงกึ่งกลางของเพลาลูกเบี้ยว
"ระบบรองแผ่นชิมภายนอก" ทำให้การเปลี่ยนแผ่นชิมไม่จำเป็นต้องถอดเพลาลูกเบี้ยว ในการปรับความห่างของวาวล์ จะปรับที่แผ่นชิมเหนือตัวกดวาวล์
ลูกสูบทำจากอลูมิเนียมอัลลอย ถูกออกแบบให้คงทนต่ออุณหภูมิสูง
การโค้งเว้าของหัวลูกสูบเป็นการป้องการกระแทกของลูกสูบและวาวล์เมื่อเกิดการขาดของสายพานราวลิ้น (ไม่เหมือนกับของเครื่อง 3S-GE BEAMS) บางทีกล่าวได้ว่าเครื่องนี้เป็นเครื่องแบบที่"ไม่ต้องไปยุ่งกะมัน"
สลักลูกสูบในลูกสูบ ถูกล็อคด้วยแหวนถ่าง
แหวนอัดวงแรกและแหวนน้ำมันเครื่องทำมาจากเหล็กกล้า แหวนอัดวงที่สองทำมาจากเหล็กหล่อ
แหวนอัดวงที่ 1 และ 2 ป้องกันการรั่วของไปเสียจากห้องเผาไหม้ ในขณะที่แหวนน้ำมันทำการกวาดน้ำมันออกไปจากผนังสูบ เป็นการป้องการไม่ให้น้ำมันเครื่องเข้าห้องเผาไหม้มากเกินไป
แหวนเหล็กหล่อที่อัดกับเสื้อสูบทั้ง 4 สูบ ทำหน้าที่ 2 เวลาโดยประมาณตามระยะชักของลุกสูบ ส่วนบนของสูบครอบด้วยฝาสูบ
ภายในเสื้อสูบมีช่องทางของน้ำหล่อเย็นล้อมรอบ สร้างความเย็นให้เสื้อสูบและลูกสูบ ส่วนล่างของเสื้อสูบคืออ่างเก็บน้ำมันเครื่อง
3S-GE รุ่นแรกถูกผลิตขึ้นในปี คศ. 1986 ถึง ปี 1989 เพื่อส่งออกไปยังประเทศแถบอเมริกาเหนือ (มันก็มีอยู่ 2 ประเทศคือ อเมริกากับแคนนาดานั่นล่ะ) ซึ่งต่อมาก็ได้ผลิตใช้เองในประเทศด้วย ซึ่งเครื่องในทวีปอเมริกาเหนือจะมีกำลังน้อยกว่านิดหน่อย คือมี 135 แรงม้า (101 kW) ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ในทวีปอเมริกาเหนือจะติดตั้งอยู่ใน Celica ST162 เพียงรุ่นเดียว
แต่เครื่องเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะใช้ ECU ที่เหนือกว่า และยังมีระบบ EGR วาล์วอีกด้วย ซึ่งมีกำลัง 150 แรงม้า (112 kW) และแรงบิด 129 ปอนด์ฟุต
** ST162 ในญี่ปุ่นเป็น Corona ไม่ใช่ Celica งงม่ะ
รุ่นที่สองผลิตขึ้นในปี คศ.1990 ถึง 1993 ได้ติดตั้งระบบ ACIS ( acoustic control induction system ) ลงไปแทนระบบ T-VIS ทำให้สร้างแรงม้าได้ถึง 154 แรงม้า (113 kW) และแรงบิด 137 ปอนด์ฟุต เป็นการปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น
แต่ก็ยังคงใช้ระบบ T-VIS อยู่ในเครื่อง 3S-GE ที่วางเทอร์โบ
รุ่นที่สามผลิตขึ้นในปี คศ. 1994 ไปถึง 1999 ได้เพิ่มกำลังเป็น 177 แรงม้า (132 kW) แต่แรงบิดยังคงเท่าเดิม คือเท่ากับรุ่นที่สอง และในปี 1996 มันต้องติดตั้งระบบป้องกันแก๊สพิษ (EGR) ทำให้กำลังมันตกลงไปเหลือ 173 แรงม้า (125 kW, 170 PS) @ 7000 rpm
รุ่นที่ 4
รุ่นนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม BEAMS 3S-GE เริ่มผลิตเมื่อปี 1997 เป็นเวอร์ชั่นแรกที่ติดตั้งอุปกรณ์แบบ VVT-i สามารถรีดแรงม้าได้ 197 แรงม้า ที่ 7000 รอบ/นาที
ใช้กับรถบางรุ่นในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ MR2 G และ G-Limited, Celica ST202 SS-II และ SS-III และ Caldina
ในปี 1998 บีมเวอร์ชั่น 2 มีระบบ dual VVT-i (วาล์วแปรผันทั้งสองแคม ...อย่าแอบยิ้ม) ใช้วาวล์ไททาเนียม ฉีดน้ำมันน้อย อัตราส่วนการอัดของกระบอกสูบสูง 11:1 แทนของเดิมที่ใช้ 10.5:1
เครื่องรุ่นนี้ใช้กับรถ Altezza RS200 ซึ่งสามารถรีดแรงม้าได้สูงสุด 207 แรงม้า ที่ 7600 รอบ/นาที
2 รุ่นที่กล่าวมาแยกแยะกันง่าย ๆ คือให้ดูที่สีของฝาครอบแคม (แปลตรงไปหน่อย น่าจะเรียกว่าฝาครอบวาวล์)
รุ่นแรกฝาแดง รุ่นที่สองฝาดำ หรือเรียกแบบฝรั่งว่า "Red Top" และ "Black Top" นั่นเอง
ยังไม่หมดครับ ยังมีเกย์ทับ เอ๊ย "Grey Top" ฝาเทาครับ เป็นฝาเทาเกือบดำ ซึ่งแตกต่างจากฝาดำคือ รีดแรงม้าได้สูงสุด 177 แรงม้า ที่ 6600 รอบ/นาที
ขับในเมืองสนุกครับ รถที่ใช้เครื่องรุ่นนี้ได้แก่ Altezza ซึ่งอาจจะสบสนนิดนึงเพราะ RAV4 ในประเทศญี่ปุ่นฝาเทาก็จริงแต่เป็นเครื่องฝาดำครับ
ข้อมูลจาก
http://www.coronathai.com
ผู้เขียน
