Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /home/idomy/domains/vlovepeugeot.com/public_html/forum/Sources/Load.php(249) : runtime-created function on line 3
 LED ใช้ในรถยนต์
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2024 เวลา 03:19:36

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  D.I.Y.
| | |-+  LED ใช้ในรถยนต์
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: LED ใช้ในรถยนต์  (อ่าน 18632 ครั้ง)
golfdsd
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37



« ตอบ #24 เมื่อ: วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 23:36:56 »


คุณ jiratt  ขอตอบทีละข้อนะครับ
1. ในรูปคือ High Power LED ครับ  ไอเดียน่าสนใจดีครับ แต่โดยทั่วไปใช้วิธีการหรี่เอาครับ แต่ถ้าจะดับหลอด LED ก็ได้ไม่ว่ากันครับตามสะดวก
สำหรับการหรี่นั้น เป็นการลดกระแสให้กับ LED แสงก็จะสว่าง น้อยลง เนื่องจากว่าคุณสมบัติของ LED ความสว่างขึ้นอยู่ค่ากระแสที่ผ่านตัวมันครับ
ลองดู กราฟ ความสว่าง ต่อ กระแส ใน datasheet ดูครับตามรูป   แต่โดยทั่วไปแล้ว ก็จะใช้วงจร PWM Dimmer หรือ IC LED Driver 

Lumen VS Current


Forward Voltage VS Current


รูปที่ 2 เนี่ย จะเห็นได้ว่า เมื่อขับกระแสเพิ่มมากขึ้น แรงดันตกคร่อมตัวมันก็เพิ่มมากขึ้นตามด้วย

2.ลองค้นทฤษฎีวงจรเรกติไฟเออร์ดูครับ  ไฟบ้่าน 220V เนี่ย เป็นค่า RMS ครับ เนื่องจากว่า เป็นไฟสลับ(Sine wave) ถ้าใช้มิเตอร์วัดก็จะได้ีค่า RMS ครับ แต่ถ้าผ่าน เรกติไฟเออร์มาแล้วก็จะเป็นค่้าเฉลี่ยครับ
ทดลองดูได้ครับว่าผ่าน C กับไม่ผ่าน C ได้ผลอย่างไร  (สนับสนุนการเรียนรู้ด้วยการค้นคว้าและทดลองครับ)



3. ข้อนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจนะครับ แต่ลองคิดทฤษฎีกฎของโอห์มเล่นๆดูแล้วกัน  V=IR ภายใน LED เสมือนมีค่าความต้านทานภายในตัวมันเกิดขึ้นตอนหลอดติด 
V=3V ,I=20mA R=?    R=V/I  =150 ohm
อนุกรมกัน 5 หลอด =5*150= 750 ohm
"ถ้าต่อกับไฟ 12 V จะไ้ด้กระแส 20mA พอดี" ลองดูนะครับ
I=V/R  =12/750 =16mA   (ใกล้เคียง 20mA)

คำถาม LED ทำงานที่ 3 V  จำนวน 5 หลอด ก็เท่ากับ 15V สิ ทำไมมันติด
ที่ติดก็เพราะว่า LED มีช่วงแรงดันที่สามารถทำงานได้อยู่  เกือบๆ 2V ก็เริ่มติดแล้ว ในกรณีนี้ Vf ของ LED อาจจะทำงานที่ 2 V กว่าๆครับ  อ้างอิงจากกราฟที่ 2 ได้ครับ   
ลองคิด Vf = 2.4 V ดูครับ
R=V/I  =2.4/0.02 = 120 ohm
อนุกรมกัน 5 หลอด =600 ohm
I=12/600= 20 mA ครับ

 
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #25 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2011 เวลา 22:49:27 »


K.golfdsd
1.เรื่องหรี่ LED (เพื่อตามไฟนอน) คิดว่าคงทำแบบแยกวงจร มี2สวิชท์ คือไว้ดูนังสือเปิดเต็มที่ และอีกสวิชท์ ใช้ LED ดวงหรือ2ดวง(หรี่ไฟนอน) เพราะคิดว่าการหาวงจรมาคุม(ทำเองตามวงจร) คงยุ่งยาก
  *** ผมมีตัวหรี่สำหรับหลอดไส้ (500 W Max) ซื้อมาเกือบ10ปีแล้ว คาดว่าภายในคงมี โวลลุ่ม เป็นอุปกรณ์สำคัญ เอามาใช้คุม LED ได้ไหม (คุม AC Volt)
3.อ่านที่คุณช่วยอธิบายมา ชักมึน ขอตั้งสติคิดตามก่อนนะครับ

ปัญหาใหม่
เปิดเวบบ์ดูการต่อ LED เจออุปกรณ์ใหม่ อุปกรณ์ยี่ห้อ "RECOM" มันคืออะไรครับ ทำหน้าที่อย่างไร ดูเหมือนเป็นวงจรการเปิดไฟให้ต้นไม้ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #26 เมื่อ: วันอังคารที่ 27 กันยายน 2011 เวลา 22:35:38 »


ชุดไฟส่องบันได หรือตามไฟไว้ในบ้าน เผื่อใครมีอุปกรณ์ ทำครับ  ...http://www.elektroda.pl/rtvforum/topic273446.html
   ....น่าจะเป็นภาษารัสเซีย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
golfdsd
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37



« ตอบ #27 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 06 ตุลาคม 2011 เวลา 18:00:21 »



1.ตัวหรี่ไฟก็สามารถนำมาใช้กับ LED ได้ครับ (แต่ใช้กับหลอดตะเกียบไม่ได้นะครับ)  หลักการคือมันจะตัดรูปคลื่นสัญญาณไฟสลับออกบางส่วน มีผลให้แรงดัน RMS ลดลงครับ
เรียนกอีกอย่างว่า AC chopper


2.Recom เป็นผลิตภัณฑ์จำพวก Switching Converter  DC-DC ,AC-DC , Drimmer แล้วก็ LED Driver
ในภาพน่าจะเป็น AC-DC LED Driver ครับ

http://www.digikey.com/us/en/ph/Cree/cxa-kit.html


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
toh
สิงห์มืออาชีพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 508



« ตอบ #28 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 06 ตุลาคม 2011 เวลา 20:31:01 »


ลองดูที่นี่ครับ http://www.basiclite.co.th/product-th-588368-Car+Racing++Display.html

เวลาขับ LED ให้ควบคุมกระแสครับ  LED แต่ละดวงที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ต้องระวังเรื่องแรงดันตกคร่อมแต่ละตัวบางทีไม่เท่ากัน  (ไม่ได้คัดเกรด) จะทำให้แ่ต่ละดวงสว่างไม่เท่ากัน

สังเกตุได้บางไฟแดงใช้  LED คุณภาพต่ำไม่ได้คัดเกรดอย่างที่ว่า จะเห็นว่า แสงสว่างไม่สม่ำเสมอ

หากนำ LED แบบดังกล่าวมาต่อใช้งาน ไม่ว่าต่อขนาน อนุกรม หรือผสม แบบไหนก็แล้วแต่ อย่างที่คุณ golfdsd ได้แนะนำไปแล้ว แสงที่ได้ก็ไม่สม่ำเสมอ

ต้องคัดเกรด  LED ที่มีแรงดัน Vf ที่เท่าๆ กัน ความสว่างที่กระแส If เท่าๆ กัน  จึงจะได้แสงสว่างที่นุ่มนวลเท่ากันทั้งแผง เราก็จะได้ความสวยงามจาก LED ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #29 เมื่อ: วันพุธที่ 12 ตุลาคม 2011 เวลา 23:44:41 »


*ขอบคุณมากครับ .....ขอความรู้เพิ่มเติมอีกครับ
1.ถ้าทำ Power Supply 12Vdc โดยใช้หม้อแปลง +ฟูลเวฟ เร็คติไฟ +ซี แล้วลากสายเป็นสายเมน แล้วใช้ LED ต่อเป็นจุดๆ ประตูรั้วบ้าง ทางเดินรอบบ้าน รวมแล้วสัก 50-60ดวง กับ ใช้ P-Supply ที่ถอดจากอุปกรณ์ อีเล็คทรอนิคส์ (เป็นสวิชชิ่ง..ซื้อจากพวกขายของเก่า) เอามาแทน เอามาใช้วัตถุประสงค์เดียวกัน ใครจะกินไฟมากกว่ากัน
2. วงจรที่แนบมา
    2.1 ซี 0.47uF นั้นทำหน้าที่ ไดโอด เรคติไฟ (ได้หรือครับ) และถ้าเปลี่ยนตัวไปใช้ ของที่ติดมากับมอเตอร์พัดลม ค่า1.5 uF (ถ้าจำไม่ผิด) จะได้ไหม
    2.2 ถ้าได้ จะเพิ่ม LED อีกได้ไหม ..ได้อีกสักกี่ดวง ค่า R ต้องเปลี่ยนแปลงไหม

***ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
golfdsd
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37



« ตอบ #30 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2011 เวลา 21:19:38 »


ตอบคำถามนะครับ
1.ถ้าจะพูดถึง หม้อแปลง กะ switching Power Supply ในแง่ประสิทธิภาพใครดีกว่ากัน
ต้องขอตอบว่า Switching ครับ แต่ในแง่การใช้งานก็ต้องดูความเหมาะสมด้วยนะครับ เพราะว่าราคาแตกต่างกันพอสมควร
เลือกใช้แล้วแต่กำลังทรัพย์ครับ
2. วงจรที่แนบมาใช้สำหรับไฟกระแสสลับครับ ตัว C ทำหน้าทีประจุ แล้วคายประจุ ในช่วงเปลี่ยนขั้วสัญญาณไฟสลับ
แล้วจ่ายให้กับ LED  โดยลิมิตกระแสที่ R ถ้าจะต่อ LED เพิ่มต้องคำนวน R กะ C ใหม่ครับ แต่ถ้าคุณ Jiratt ใช้ หม้อแปลง +เรกติไฟเออร์
มันแปลงเป็นไฟ DC ก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้วงจรนี้นะครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #31 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2011 เวลา 15:52:39 »


LED ในรถ ฉบับมักง่ายสุดๆ
   ใช้ LED ต่ออนุกรมกันจนเกิน 13.8 V ตำแหน่งการวาง ไม่จำกัดขอให้วางได้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
SODA 405
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 795



« ตอบ #32 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2011 เวลา 16:54:44 »




      ....
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

VIGO มาแล้ว..           S  O  D  A    แ ซ ง แ ว้ ว ว ว ว ว
rd
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 310



« ตอบ #33 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2011 เวลา 20:15:01 »




จากตัวนี้ มี LED ทั้งหมด  48 หลอด ทำการแบ่งครึ่ง ได้ชิ้นล่ะ 24 ตกต้นทุนชิ้นล่ะ 120 บาท คิดแล้วตกหลอดล่ะ 5 บาท ผมซื้อซุปเปอร์ไบรท์แถวบ้านเขาขายให้ผมหลอดล่ะ 10 บาท แต่ปัญหาคือมันเอาใส่ในโคมไฟลำบาก แต่ถ้าใช้ตัวนี้ไม่ต้องทำการดัดแปลงตัวโคมเลย แค่ตัดแผ่นปริ้นแล้วก็วางลงในพลาสติคครอบ ให้แสงสว่างดี แต่ก็ไม่รบกวนการขับขี่



ตัวนี้เป็นความพยายามในครั้งแรก ที่เอาหลอด LED ซุปเปอร์ไบรท์ธรรมดามาดัดแปลงใส่ สังเกตสายไฟเข้าเยอะมาก ถือเป็นความพยายามของมนุษยชาติที่จะทำให้รถตนเองใช้ LED  ที่วางข้างๆนั่นแหละ แบบเดียวกับที่ใส่ในโคม ตัดออกมาจากอีกตัว



และเมื่อโลกมีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้น (ที่จริงมันพัฒนานานแล้ว เราเองต่างหากไม่ทันสมัย)  สังเกตุสายไฟเข้าแค่สองสาย



แล้วไฟเพดานก็สว่างแบบนี้

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #34 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2011 เวลา 00:07:42 »


คิดว่า ...รู้แล้วครับ
  จากวงจรที่โพสท์ไว้ข้างบน (วัน พุธ ที่ 12 ตุลาคม 2011 เวลา 23:44:41) ในวงจรต่อ LED 2ตัว สลับขั้วกัน ต่อกับไฟ AC โดยใช้ R ลดไฟให้เท่ากับที่ LED ใช้     LED แต่ละตัวจะสว่างสลับกัน ตัวละครึ่งไซเคิล นั่นคือถ้าไฟ 50Hz แต่ละดวงจะติดดับสลับกัน ดวงละ25 ครั้ง ซึ่งสายตาเราจับไม่ได้

  ปัญหาคือถ้าติด-ดับ บ่อยขนาดนั้น อายุ LED จะได้ตามที่เขาบอกไว้หรือไม่  ...ถ้าแนวคิดนี้ผิด ก็แย้งได้ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
toh
สิงห์มืออาชีพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 508



« ตอบ #35 เมื่อ: วันพุธที่ 07 ธันวาคม 2011 เวลา 14:49:06 »


คิดว่า ...รู้แล้วครับ
  จากวงจรที่โพสท์ไว้ข้างบน (วัน พุธ ที่ 12 ตุลาคม 2011 เวลา 23:44:41) ในวงจรต่อ LED 2ตัว สลับขั้วกัน ต่อกับไฟ AC โดยใช้ R ลดไฟให้เท่ากับที่ LED ใช้     LED แต่ละตัวจะสว่างสลับกัน ตัวละครึ่งไซเคิล นั่นคือถ้าไฟ 50Hz แต่ละดวงจะติดดับสลับกัน ดวงละ25 ครั้ง ซึ่งสายตาเราจับไม่ได้

  ปัญหาคือถ้าติด-ดับ บ่อยขนาดนั้น อายุ LED จะได้ตามที่เขาบอกไว้หรือไม่  ...ถ้าแนวคิดนี้ผิด ก็แย้งได้ครับ

ตามหลักการที่ฝรั่งว่าไว้ อายุการใช้งานจะนับเฉพาะตอนติดสว่างครับ
แต่ว่า ช่วงที่ดับแล้วเริ่ม ติดสว่างกระแสต้องไม่พุ่งสูงปรี้ดเร็วเกินไป ไม่งั้นอายุการใช้งานอาจจะสั้นลง

แต่ปัญหาคือ หากต่อแบบนั้น และมีความถี่สุง แรงไฟกระชาก หรือสัญญาณรบกวนอื่นๆ เกิดขึ้นในระบบไฟบ้าน
กระแสที่พุ่งผ่านตัวเก็บประจุจะสูง หากตัวเก็บประจุทนวัตต์ไม่ได้ ความร้อนจะเกิด และไฟไหม้ตามมา
 
แนะนำว่าหากไม่มีคนอยู่บ้านให้ถอดเก็บให้หมดจะดีกว่าครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jiratt
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #36 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2012 เวลา 22:11:51 »


*เมื่อเดือนก่อน ไปทำความสะอาดบ้าน หลังน้ำท่วมพบที่ชาร์จ มือถือเหลืออยู่หลายอัน เลยเอากลับมาด้วย ประจวบกับทำศาลพระภูมิ-เจ้าที่ ใหม่ เลยทดลองต่อ LED กับที่ชาร์จ โดยเอา LED มาอนุกรมกัน2ดวง(=1ชุด) แล้วเอาไปต่อกับช่องไฟออกของที่ชาร์จ ได้10ชุด(20ดวง) ทดลอง3วัน 3คืน ตัวชาร์จไม่ร้อนเลย (NOKIA Output DC 4.5V(น่าจะ) 450mA)
 *** เผื่อใครมีอุปกรณ์ และคิดจะดัดแปลงมาใช้ประโยชน์ ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!