ไม่ได้มาถามอะไรหรอกครับ มารายงานผลการซ่อม เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆสมาชิก เข้าเรื่องเลยดีกว่า

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วรถ peugeot 306SR ของที่บ้านมีปัญหาเกี่ยวกับพวงมาลัยพาวเวอร์ คือ น้ำมันรั่ว ชนิดพุ่งเป็นปืนฉีดน้ำ จากแถวๆ ระบบ RACK ใต้ท้องรถ จนน้ำมันหมดเลย มีเสียงดูดดังฟอดๆๆ เล่นเอาแตกตื่นไปทั้งบ้าน

ผมเป็นคนลองขับพบว่าพวงมาลัยหนักเหมือนตอนไม่ได้ติดเครื่อง เลยเปิดหน้ารถดู มุดๆ ส่องๆ ก็เจอว่า ตอนหมุนพวงมาลัย จะมีน้ำมันพุ่งออกมาแถวๆ ท่อน้ำมันกระบอกไฮโดรลิค เลยซื้อน้ำมันมาเติม แล้วเอาไปเข้าอู่แถวบ้าน ที่ต่างจังหวัด ช่างก็จัดแจงยกรถมาแล้วลองหมุนพวงมาลัยทั้งที่ยังติดเครื่อง พบว่าเป็นปัญหาตรงที่สันนิจฐานจริง
ช่างวินิจฉัยว่าท่อแตก หรือกระบอกรั่วตรงจุดที่น้ำมันเข้าออก เลยถอดกระบอกมาดู เจอตัวการแล้ว
ลูกยางบูช 1 ใน 2 ตัวหลวมชนิดใช้งานต่อไม่ได้ เน่ามาก เอามือดันก็หลุดมาหมด เพราะอย่างนี้ กระบอกไฮโดรลิคจึงขยับตัวมากเกินไป เวลาเราเลี้ยว ท่อเหล็กที่นำน้ำมันเข้าออกจึงเกิดการแตกรั่วบริเวณรอยต่อของท่อกับกระบอก ต้องเปลี่ยนบูชโดยด่วน แล้วบานท่อใหม่ ใส่กลับเข้าไป ซ่อมอยู่ 1 วัน ช่างบอก กว่าจะถอดกวา่จะใส่กระบอกได้ หมดเหงื่อไปหลาย

ค่าซ่อมเป็นดังนี้
- บูช ตัวละ 200 บาท โชคดีจัง ร้านอะไหล่แถวบ้านมีของพอดีเลย
- ค่าแรง 400 บาท รวมค่าบานท่อแล้ว
- น้ำมันไฮโดรลิค 2 ลิตร ลิตรละ 120 บาท
รวม 840 บาท

ที่ว่ามา ทำไมบานปลาย จากเริ่มแรก แค่บูชมันเสื่อมสภาพ แต่ไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ใช้มาจนมันพัง เลยบานปลายมาเป็นท่อแตก น้ำมันรั่ว แล้วถ้ายังทนใช้ไปเรื่อยๆ สงสัยจะได้เปลี่ยนปั๊มราคา 9000 บาทแน่

เลยอยากจะมาบอกว่า ตรวจสภาพคราวหน้า อย่าลืมดูตรงนี้ด้วยนะ เดี๋ยวเกิดปัญหาแบบผม ... จบข่าว

ป.ล. ว่าแต่ ทำไมบูชอีกตัวยังแน่นปึกอยู่เลยหว่า มันจะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่หรือไม่ .... เดี๋ยวก็รู้เอง


