405 GRI สตาร์ทไม่ติด เงียบฉี่

[Shutter J]

Tweet

จอดรถไว้ 2 วันครับ    ปกติจะสตาร์ทชึ่งเดียวติด สังหรณ์อยู่ว่าเมื่อ 2 วันก่อน สตาร์ทเครื่องมันจะวืดๆอยู่ประมาณ 2-3 ครั้งแล้วจึงติด วันนี้เลยลองสตาร์ทดูเงียบฉี่เลย ลองเปิดวิทยุดูก็เล่นได้ เปิดฝากระโปรงดูแบตเตอรี่ตาแมวยังเป็นสีน้ำเงินอยู่ ขั้วแบทก็แน่น เพื่อนๆว่าผมควรจะดูอะไรต่อไปอีกครับ

[heng]

Tweet

� � � � � � � � � � � � �ผมว่าแบตฯ ไฟไม่พอลองเอาอีกคันมาพ่วงแบตฯ สตาร์ทดู  ถามก่อนบิดกุญแจแล้วเครื่องทำท่าจะติดหรือว่าไดร์สตาร์ทไม่ทำงานเลย เงียบนิ่งสนิทไม่มีอาการหมุนเลย

[Shutter J]

Tweet

เงียบนิ่งสนิทไม่มีอาการหมุนเลยครับคุณเฮง

[tuor]

Tweet

ของผม 405 จี อาร์ เคยพบแบบเดียวกันเลยครัง คือ บิดกุญแจสตาร์ด แล้วไม่มีอาการใดๆเลย เงียบ ตอนแรกเข้าใจว่า แบตไปแล้ว เปลี่ยนแบตใหม่ ก็เงียบ ให้ช่างมาดู พบว่า สายไฟที่เข้าไดสตารด์ หลวม ครับ ลองดูที่ได ฯ ก่อนนะครับ อาจสายหลวม หรือหลุด ก็ได้

[heng]

Tweet

                      ดูในห้องเครื่องก่อนพวกสายไฟแบตฯ จุดที่เหมือนกับคุณ tuor บอกถ้าคิดว่าแน่นดี ก็เข้าไปที่ห้องโดยสารเปิดแผงฟิวส์ดูครับ ดูฟิวส์ 10 amp จะอยู่แถวบนตำแหน่งถ้าไม่ผิดก็ F5  นับจากขวาไปตัวที่ 5 ดึงออกมาดูครับว่าขาดหรือเปล่า

[Shutter J]

Tweet

สายไฟที่เข้าไดสตาร์ทอยู่ตรงไหนครับ    ผมดูไม่เป็นครับ  แต่ลองถอดฟิวส์มาดูแล้วไม่ขาดครับคุณเฮง

[Shutter J]

Tweet

พอดีได้รถเพื่อนมาช่วยพ่วงแบตฯ เมื่อกี้นี้ ปรากฎว่าสตาร์ทติดครับ สงสัยจังว่าดูที่ตาแมวของแบตฯก็เป็นสีน้ำเงิน ดูน้ำกลั่นในแบตฯ(GS DD75 Maintenance Free ซื้อเมื่อ มิย 47 )ก็ไม่หมด สามารถเปิดวิทยุMP3 ฟังได้ แล้วทำไมถึงสตาร์ทไม่ติด อย่างนี้แปลว่าแบตฯเสื่อมหรือเปล่าครับ ตอนนี้เลยไม่กล้าดับเครื่องเลยกลัวสตาร์ทไม่ติดอีก เดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเอารถไปเช็คดีกว่า

[Shutter J]

Tweet

ไปให้อู่ดำริห์ดู สรุปว่าต้องเปลี่ยนทั้งไดชาร์จและแบตฯครับ ก็เลยให้ที่อู่เปลี่ยนไดชาร์จให้ เปลี่ยนเสร็จสตาร์ทติด ลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ก็ติด เลยขับกลับบ้านก่อนยังไม่เปลี่ยนแบตฯ สังเกตเวลาเปิดวิทยุจะมีเสียงรบกวน แล้วก็วิทยุดับแล้วก็ติดเอง จอดรถซื้อของหน้าหมู่บ้านลองสตาร์ทอีกทีคราวนี้สตาร์ทยากครับต้องเหยียบคันเร่งเครื่องจึงจะติด สงสัยต้องเปลี่ยนแบตฯแล้ว แต่นี่ก็จะสามทุ่มแล้วร้านคงจะปิดหมดแล้ว เลยขับกลับบ้าน เอารถเข้าจอดเสร็จ ลองสตาร์ทใหม่คราวนี้มีเสียงว่าเครื่องพยายามสตาร์ทแต่สตาร์ทไม่ติด� พรุ่งนี้ได้แบตฯไหม่ ไม่รู้จะเจออะไรอีก�

[Shutter J]

Tweet

ขอบคุณครับคุณทอม วันนี้โชคดีสตาร์ทติดครับ ใช้วิธีภาวนาแล้วเหยียบคันเร่งตอนบิดกุญแจอ่ะ � ไปหาซื้อแบตใหม่แล้วให้ที่ร้านช่วยเช็คแบตเก่าโดยใช้หลอดที่มีทุ่นลอยอยู่ข้างในปรากฎว่ามีอยู่ 1 ช่องที่ทุ่นจมช่างบอกว่าช่องนั้นแบตเสื่อมครับ พอเปลี่ยนแบตใหม่ (3K DIN 75 แบบเติมน้ำกลั่น 1900 หักค่าแบตเก่า 200 เหลือ 1700 ) แล้วให้เช็คไดชาร์จ ปรากฎว่า วัดได้ประมาณ 12 กว่าๆ ผมก็ถามช่างว่าดีไหม เขาก็บอกว่าพอได้ ผมเลยถามเขาว่าแล้วที่จริงค่ามันควรจะอยู่สักเท่าไร เขาบอกว่า 13 ครับ กลับมาบ้านลองสตาร์ทก็สตาร์ทติดแต่มันไม่ชึ่งเดียวติดเหมือนเมื่อก่อนอ่ะครับ แล้วติดใจอีกอย่างนึงว่า ทำไมผมเปิดวิทยุแล้วมีเสียงรบกวน ซึ่งก่อนจะไปเปลี่ยนไดชาร์จไม่มีเสียงรบกวนอ่ะครับ

[ต้อม]

Tweet

ทำไมผมเปิดวิทยุแล้วมีเสียงรบกวน ซึ่งก่อนจะไปเปลี่ยนไดชาร์จไม่มีเสียงรบกวนอ่ะครับ

ลองไปดูกระทู้ที่คุณเฮงเคยโพสไว้เกี่ยวกับเจ้า Capacitor ทึ่อยู่ตรงไดชาร์ทดูนะครับ

http://www.vlovepeugeot.com/forum/index.php?topic=2885.0

[Shutter J]

Tweet

ขอบคุณครับ� คุณต้อม กะว่าพรุ่งนี้เช้าจะเอารถไปให้อาดำริห์ดูให้ครับ

[ธีธัช หนิมฮะ]

Tweet

เครื่องติดต้องได้ประมาณ13.2-13.8 ครับ

[Shutter J]

Tweet

ขอบคุณครับคุณ Anek nimha

[peera]

Tweet

คุณเฮงครับตัวตัดคลื่นวิทยุอะไรเนี่ย อยู่ตรงไหนครับ ดูไม่ชัด ขอให้อธิบายอีกครั้งได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

[Shutter J]

Tweet

-ให้ช่างที่อู่ดำริห์วัดค่าไดชาร์จได้ 25 สีเขียว(ตัววัดไม่เหมือนกับที่ร้านขายแบตฯ)ครับ ช่างบอกว่าไม่มีปัญหา ถือว่าปัญหาเรื่องสตาร์ทไม่ติดได้รับการแก้ไขเรียบร้อยครับ
-เรื่องตัวตัดคลื่น ช่างบอกว่ารถผมไม่มีติดมาให้ครับ ถ้าจะติดคงต้องซื้อศูนย์ อิอิ ไว้ก่อน
-อีกเรื่องที่จะเล่าให้ฟังคือ เมื่อเย็นวันเสาร์ที่เอารถไปทำไดชาร์จกับอาดำริห์ รถผมมีเสียงแก๊กๆดังมาจากบริเวณสายพานราวลิ้น ยิ่งตอนเร่งจะได้ยินชัดขึ้น อาดำริห์บอกว่าให้รีบเข้ามาทำเสียงเหมือนสายพานหย่อน วันนี้ผมเลยให้เช็คเรื่องนี้ด้วย เกรงจะมีปัญหากับวาร์วเดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ช่วงที่ผมไป อาดำริห์ก็ไม่อยู่แต่ทางอู่บริการดีมากๆเลยครับ โทรไปถามอาดำริห์ให้ พอวางหูจากอาดำริห์ ก็ให้ช่างเปิดดูสายพานราวลิ้น ก็พบสาเหตุครับ คือสายพานราวลิ้นหย่อนครับมันเลยตีกับกล่องครอบสายพาน พอตั้งสายพานใหม่เสียงแก๊กๆก็หายไป� โชคดีจริงๆเลยครับ คราวหน้าจะเอารถไปให้จูนเครื่อง กับตั้งประตู อิอิ ขอไปปั๊มเงินก่อน 
ปัญหาใหญ่ได้รับการแก้ไขสำเร็จไปได้ด้วยดี ต้องขอขอบคุณ เวบ vlovepeugeot , สมาชิกทุกท่านที่ให้คำแนะนำและอู่ดำริห์มากๆเลยครับ