Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /home/idomy/domains/vlovepeugeot.com/public_html/forum/Sources/Load.php(249) : runtime-created function on line 3
 เมื่อสิงห์ยกขาออกตะลุยทัวร์ลาวใต้(ตาดฟาน-ตาดเยือง-ผาส้วม-หลี่ผี-คอนพะเพ็ง-วัดภู)
 
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2024 เวลา 07:42:29

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  Web สัญจร
| | |-+  เมื่อสิงห์ยกขาออกตะลุยทัวร์ลาวใต้(ตาดฟาน-ตาดเยือง-ผาส้วม-หลี่ผี-คอนพะเพ็ง-วัดภู)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 [5] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อสิงห์ยกขาออกตะลุยทัวร์ลาวใต้(ตาดฟาน-ตาดเยือง-ผาส้วม-หลี่ผี-คอนพะเพ็ง-วัดภู)  (อ่าน 13957 ครั้ง)
soda
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 55



« ตอบ #96 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2006 เวลา 14:55:11 »


ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึก อิจฉาตาร้อน อยากไปบ้างครับ..อนาคตข้างหน้าหากผ่านไปทางไหนจะมาเอาลงเวปบ้างดีกว่าเผื่อจะมีคนสนใจบ้าง..ช่วงนี่ดูท่าทีรัฐบาลไม่รู้จะเอายังไงกับรถที่ติด LPG  ใครพอทราบอะไรบอกด้วยนะครับจะได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวถูก...อิอิ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
tumklong9
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 106


« ตอบ #97 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2006 เวลา 16:00:08 »


ตอบพี่กันย์ครับ  ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่ออกจาก กทม. ( 9 มิ.ย. 49  11.20น.) ยันกลับเข้ามา กทม. ( 12 มิ.ย. 49  01.30น. )  4  คน  ก็ตกคนละ 3500  ครับ   แต่ก่อนไปคำนวนไว้คร่าวๆ จะตกคนละประมาณ 3750  บาท  แต่แผนกเก็บเงินจะเก็บคนละ 4 พันไว้ก่อน  พอกลับมาถึง กทม.  เหลือตังค์กองกลางอีก 2025 บาท   ก็เลยเฉลี่ยคืน  คนละ 506 บาท ครับ  ค่าใช้ที่ว่านี้ไม่ได้รวมค่าซื้อของฝาก หรือเครื่องประดับ(เครื่องเงิน)นะครับ
   ส่วนเรื่องความสมบูรณ์ของรถนั้น  ก็สมบูรณ์ 100 % ครับพี่กันย์   ไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นครับ  ความร้อนปกติ  แอร์ปกติ บรรทุกคน 4 คน + สัมภาระขาไปประมาณ 5 - 60 กก.  ขากลับหนักหน่อยเพราะของฝากเยอะหน่อยน่ะครับ.... ที่ผิดปกติก็คือรถเลอะครับ  เพราะช่วงขากลับ( จากช่องเม็ก  -  อุบลฯ )เจอฝนตกหนักมากๆๆ จนมองแทบไม่เห็นทาง  ต้องค่อยๆคลานไปน่ะครับ   อิอิอิ    อ้อ  กับอีกอย่างนึงก็คือ  เหนื่อยครับ  เพราะขับคนเดียว  พี่เขาจะขับช่วยอยู่หรอก  แต่อวดความเป็นสุภาพบุรุษ ครับพี่....
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
ruangvith
RB
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5



« ตอบ #98 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 22:12:17 »


ขากลับออกจากน้ำตกหลี่ผี  ก็นั่งรถสองแถวที่เราเหมานั้น  ออกไปเพื่อลงเรือหางยาวกลับสู่ฝั่งที่ท่าเรือบ้านนากระสัง....มีภาพน่ารักๆ  มาฝากด้วยแหละ...
ตรงโครงคอนกรีตนี้เป็นท่าเรือสมัยฝรั่งเศสสร้างไว้ในสมัย ร.5 ซึ่งเป็นท่าเรือขนถ่ายผ่านบนบกแล้วค่อยไปลงแม่น้ำโขงตอนใต้ในเขตเขมร เพราะเรือไม่สามารถผ่านแม่โขงช่วงนี้ได้ เพราะน้ำตกหลีผี เป็นโขดหินชัน จะต้องระเบิดตัดหินตรงน้ำตกหลีผี แต่ทางไทยไม่ยอม (สมัยก่อนฝั่งโขงด้านตะวันตกเป็นของไทย)  ฝรั่งเศสจึงบีบบังคับขอพื้นที่ฝั่งโขงตะวันตกเป็นที่ขนส่งผ่าน ไทยจึงจำยอมต้องยก ผแผ่นดิน คือ บริเวณหมู่บ้านแขวงจำปาศํกดิ์ ปัจจุบัน รวมทั้งวัดพลู ให้ฝรั่งเศส
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

RB
ruangvith
RB
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5



« ตอบ #99 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 22:18:14 »


อ้อ  ลืมบอกแพขนานยนต์  ชาวลาวเรียกกันว่า  "  บั๊ก " น่ะครับ   เมื่อขึ้นฝั่งเรียบร้อย  ก็ขับรถตระเวณหาที่พัก  ในเมืองจำปาสักครับ
พูดถึงเมืองจำปาสัก  ซักนิดนึงนะครับ  เมืองจำปาสักเคยเป็นเมืองเล็กๆ  ที่เงียบมากๆ  ใครที่ต้องการอยู่กับธรรมชาติที่แท้จริง  ผมว่าเมืองนี้เหมาะมากๆครับ
ตระเวณอยู่พักหนึ่ง  ก็ได้ที่นี่ล่ะครับ  เขาก็บอกว่าที่นี่  ดีที่สุดแล้ว  ในเมืองจำปาสัก  ครับ( เราเองก็ลงความเห็นกันว่า  จริง  เพราะไม่มีที่ไหนจากที่ตระเวณดู  จะดูดีเช่นนี้ )
มันเป็นเกตเฮ้าส์  เล็กๆ ครับ  ในเมืองนี้หาโรงแรมไม่มีเลยครับ  ( มิน่าล่ะ  พวกทัวร์ถึงต้องตีรถกลับไปพักที่เมืองปากเซกันทั้งหมด )
แต่พวกเรากลับชอบบรรยากาศที่นี่มาก  เพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงเลย  มีร้านอาหารในเกตเฮ้าส์นี้ด้วย  นั่งทานไปฟ้าแลบแปลบๆอยู่ริมฝั่งโขง  โอ๊ยสุดแสนจะโร..ครับ   อิอิอิอิ

ตรงเมืองนี้แหละเคยเป็นอำเภอหนึ่งของไทย ชาวบ้านคนแก่ ๆ ยังคุ้นเคยกับความเป็นไทย ได้เคยยินมาว่า บิดาของนายกรัฐมนตรีไทยคนหนึ่ง เป็นนายอำเภอเก่าเมืองนี้
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

RB
ruangvith
RB
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5



« ตอบ #100 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 22:24:32 »


...เมื่อเราถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้ว  เราก็ลงจากวัดภูแล้ว  ก็ตรงดิ่งเข้าเมืองปากเซ  ออกมาถึงกม.ที่ ประมาณ 20  ก็ต้องจ่าย  ค่าผ่านทางอีก  2  พัน กีบ     อ้อ  ลืมบอกไป  สถานที่ท่องเที่ยวปราสาทวัดภูนี้  จะเสียค่าเข้าชมแพงหน่อย  คือ  คนละ  30000  กีบ ( ประมาณ 115  บาท )  รถก็  5  พันกีบ  ครับ
จากนั้นก็เอารถลงแพขนานยนต์( บั๊ก )จ่ายอีก  250000  กีบ   เพื่อกลับเข้าเมืองปากเซ  เพื่อเดินชมตลาดดาวเรือง( ตลาดเมืองปากเซ )ที่โงดัง  กรุ๊ปทัวร์ไหนมา  ก็ต้องมาแวะ ครับ
ของแนะนำให้ฝากรถไว้ที่ท่าเรือข้ามแพ บั๊ก ดีกว่า แล้วลงแพทันทีไม่ต้องรอคิวรถ เมื่อถึงฝั่งวัดพูก็จ้างสามล้อเครื่องจะถูกกว่า และควรแวะชมพิพิธภัณฑ์ของทางการ ซึ่งถึงก่อนวัดไม่กี่กิโล จะได้ประหยัดเวลาในการข้ามเรือด้วยการนำรถส่วนตัวข้ามโขง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

RB
ruangvith
RB
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5



« ตอบ #101 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 22:34:53 »


ถึงเสียทีนะ  น้ำตกตาดฟาน  ที่สูงที่สุด( เขาว่างั้นนะ)  แต่เข้าไกล้ไม่ได้  เนื่องจากเป็นหุบเหวลึกลงไปประมาณ 5  กม.
ที่ตรงนี้มีรีสอร์ทสวยๆ แบบบังกาโลประมาณ 10 กว่าห้อง แนะนำให้ไปนั่งที่ร้านกาแฟของรีสอร์ทสั่งกาแฟท้องถิ่น มาดื่ม พร้อมกับนั่งชมวิว ของหุบเขา พร้อมกับน้ำตกได้อย่างสบาย ๆ หรือจะพักค้างคืนที่นี่ก็ได้ราคา ไม่แพงมาก  ประมาณ พันกว่าบาท
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

RB
ruangvith
RB
สิงห์มือใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5



« ตอบ #102 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2007 เวลา 22:37:10 »


ก่อนอื่นต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ซักเล็กน้อย จากเว็ปมาสเตอร์ก่อนนะครับ( พี่ปอนด์ พี่ป๋าเฮง พี่ต้น ) เพื่อบอกเล่าถึงทริปในวันหยุดพิเศษ ที่ผ่านมานะครับ( 9 - 13 มิถุนายน 49 )  ถ้าเห็นว่าภาพต่างๆกินเนื้อที่มาก รบกวนเว็ปมาสเตอร์ลบออกได้เลยนะครับ 
    เข้าเรื่องเลยนะครับ  ก็คือว่าในช่วงวันหยุดพิเศษที่ผ่านมา  ผมได้เกิดกิเลสอยากพาเจ้าสิงห์คู่ใจ( 405 GR  ออโต้ เครื่องเดิมๆปี 92  ติดแก๊ส LPGมาได้  11 เดือนแล้ว )  ออกไปตะลุยทัวร์ต่างประเทศ  นั่นก็คือ สปป.ลาว  ซึ่งเป็นโซนลาวใต้ที่กำลังดังกันอยู่ขณะนี้น่ะครับ   ซึ่งการไปคราวนี้ไปแบบไปกันเอง  ไปกัน 4 คน นั่งเต็มรถแบบสบายๆ ( ไม่ได้ไปแบบทริปทัวร์นะ )   ซึ่งรายละเอียดจะเป็นดังต่อไปนี้นะครับ
-การเข้า สปป.ลาว ตอนนี้ไม่ต้องขอวีซ่า / คนไม่มีพาสปอร์ต  ก็ไปทำบอร์เดอร์พาส(ชั่วคราว)ได้  แต่เรา 4 คน  มีพาสปอร์ตครบ ทั้ง 4 คน
-รถยนต์ที่นำออกนอกประเทศ  ต้องไปขอพาสปอร์ตรถ ที่ขนส่ง( ตามเขตที่รถเรา สังกัด) ของผมๆไปขอที่ขนส่งหมอชิตเก่า เสีย 55  บาท
-ใบอนุญาตขับรถ  ที่ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว( เสียค่าธรรมเนียม 20 บาท )  แต่ผมขอเป็นใบขับบี่สากลเลย  สะดวกดี  เสีย 505  บาท
-ถ้ารถยังติดไฟแน้นซ์อยู่จะต้องไปขอใบมอบอำนาจจากไฟแน้นซ์เสียก่อนแล้วขอยืมเล่มเขามาด้วย(เสียเท่าไหร่ผมไม่รู้ครับ) ของผมไม่ได้ติดไฟแน้นซ์ครับ  ก็เลยไม่ต้องทำข้อนี้ครับ
เอกสารที่จะต้องเตรียมมีดังนี้( สำหรับคนที่ถือพาสปอร์ต ไม่ต้องเตรียมอะไรอีกเลย )
    สำหรับคนที่ไม่มีพาสปอร์ต
1.รูปถ่าย 1 - 2 นิ้ว   จำนวน  3  ใบ
2.สำเนาทะเบียนบ้าน    3   แผ่น
3.สำเนาบัตร ปชช.     3   แผ่น( พร้อมตัวจริง )
4.ใบขออนุญาตผ่านแดนชั่วคราว( ขอที่ ตม.ได้เลย )
5.ค่าธรรมเนียม ตม.ไทย  ฟรี
    สำหรับรถยนต์  มีเอกสารดังนี้( ด่าน ตม.ช่องเม็ก ที่อื่นๆคงจะเหมือนๆกันแหละ)
1.หนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ( พาสปอร์ตรถ )    2  ชุด ( ตม. เก็บ 1 ชุด  /  ศุลกากร  เก็บ 1 ชุด )
2.สำเนาคู่มือทะเบียนรถ(เล่ม) พร้อมตัวจริง     2   ชุด
3.สำเนาพาสปอร์ตคนของเจ้าของรถ     2   ชุด
4.สำเนาใบขับขี่(แปลเป็นภาษาอังกฤษ / หรือใบขับขี่สากล )    2   ชุด
5.สำเนาบัตร ปชช. ของเจ้าของรถ( ตอนแรกผมงงว่าเอาไปทำไม ในเมื่อมีพาสปอร์ตแล้ว  แต่เขาก็เอานะครับ )
6.ค่าธรรมเนียมเอารถออกนอกประเทศ ที่ตม.  100  บาท   แต่ตรงศุลกากร    ฟรี
   พอข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว( ด่านวังเต่า ) เริ่มเดินรถด้านขวาแล้วนา...( อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ผมไปอยู่ที่  264 กีบ  / 1 บาทไทย )
1.เอกสารจะได้จากตมไทย  เพื่อยื่น ตม. สปป.ลาว
2.ค่าธรรมเนียมสำหรับคน  จ่ายคนละ  2 หมื่นกีบ หรือประมาณ 75   บาทไทย(ต่อรองได้อาจจะเหลือแค่คนละ 70 บาท)
3.ค่าธรรมเนียมรถยนต์ใช้ทางหลวงใน สปป.ลาว  8 หมื่นกีบหรือ 300  บาทไทย(ถ้ารถตู้หรือรถอื่นๆก็จะอีกราคานึงนะ)
4.ค่าธรรมประกันบุคคลที่สาม(พรบ.) อีก 8 หมื่นกีบ( 300 บาทไทย )
5.ค่าพ่นควัน(ยา)กันเชื้อโรค(มั้ง)อีก 5 พันกีบ( ประมาณ 20 บาทไทย)
    จากนั้นก็ยาวโลดดดด( ถนนเป็นของเรา  อ้ออย่าลืมชิดขวานะครับ ).....
ค่าประกันภัยรถ เราสามารถจ่ายตามระยะเวลา ผมเคยข้ามทางเวียจันทร์ ค่าประกันภัย อย่างต่ำ 7 วัน แค่ 225 บาทครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

RB
หน้า: 1 2 3 4 [5] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!