น้ำยาแอร์เติมถูกต้องแล้ว แต่น้ำมันคอมต้องเติมของ 134a นะไม่รู้จริงเท็จแค่ใหน เพราะวันก่อนไปแว็ค+เติมน้ำยาแอร์เห็นช่างบอกต้องใช้น้ำมันคอม 134a / ส่วนจุดที่รั่วมันรั่วได้เยอะจิงๆ ของผมตรวจมาหมด แม้กระทั่งรื้อตู้(คอยล์เย็น) มาดู เดี๋ยวขอสรุป จุดที่รั่วได้บ่อยแล้วกัน 1.ตรงซีลคอมแอร์ ปราะมาณ 1,xxx.- 2.ท่อยางรวมทั้งหัวไฮโดรลิค หลักร้อย 3.ศรเติมน้ำยาแอร์ 240.- บาท 4.วาล์วแอร์ก่อนเข้าคอยล์เย็นส่วนใหญ่เป็นที่แหวนยางเปื่อย ถ้าเปลี่ยเฉพาะแหวน 20.- ยังไม่รวมค่าแรง ถ้าเปลี่ยนทั้งวาล์ว ประมาณ 1,200.- 5.คอยล์เย็นรั่ว ถ้าเป็นแบบอลูมิเนียมประมาณ 2,500-2,700.- 6.คอยล์ร้อน น่าจะมีอีกนะแต่นึกไม่ออก เรื่องของแอร์นี่ทำให้ผมหมดตังค์ไปเยอะมาก ว่ากันหลักหมื่นเลยทีได้ ผมลองสังเกตุดูนะเวลาให้ช่างเช็คนี่ ถ้าแกหาที่รั่วไม่เจอแล้ว ส่วนใหญ่จะ ฟันไปที่ตู้หรือว่าคอยล์เย็น ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ค่าแรงรื้อคอนโอทรนนี่ 2,000.-2,500.- เชียวนะ ใช้เวลาเป็นวันๆ แต่ช่างก็ได้เนื้อๆ ผมโดนมาแล้วรื้อมาแล้วไม่รั่วแต่เสียค่าแรง ผมยังสงสัยว่าจุดตรงวาล์วลดแรงดันน้ำยาแอร์ ถ้าจะเปลี่ยนแค่แหวนยางผมคิดว่าไม่น่าจะต้องรื้อคอนโทรน แต่ถ้ารื้อมาแล้วก็ได้ดูคอยล์ด้วยว่ารั่วหรือปล่าว มีข้อสังเกตุจากหลายท่านที่เคยคอยล์เย็นรั่ว เวลาเปิดแอร์จะได้กลิ่น(คือถ้าใครเคยดมกลิ่นน้ำมันคอม กับน้ำยาแอร์ก็จะรู้) แปลกๆแสบๆ จมูกหน่อย เสียงน้ำยาแอร์ที่ฉีดเข้าคอยล์จะชัดและนาน ผมขอแนะนำให้เริ่มจากจุดง่ายๆ ก่อน เช่นของผมรั่วตรงศรเติมน้ำยาแอร์ ผ่านช่างมาหลายร้าน ตรวจไม่เจอ เนื่องจากมันแค่ซึมๆ เติมน้ำยาทีนึงประมาณ 4-5 เดือนหมดอย่างนี้ตรวจไม่เจอแน่ๆ จนมาระยะหลัง 1-2 เดือนหมด คราวนี้เจอ ผมแนะนำให้ตรวจตรงจุดนี้ก่อนโดยการเปิดแอร์ไว้แล้ว หาแชมพูหรือน้ำยาล้างจานก็ได้หยอดลงไปเลยทั้งสองหัว ถ้ามีแต่แม้ฟองอากาศขึ้นมาสักเม็ดสองเม็ด เปลี่ยนศรใหม่ได้เลย จุดอื่นที่ตรวจได้อีกก็พวกท่องยาง ข้อต่อทั้งหมดเอาน้ำยาล้างจานลูบได้เลย ท่านอื่นมีไรเพิ่มเติมก็ช่วยต่อด้วยครับ ผมอยากแชร์ประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดี แค่ไม่อยากให้ PEUGEOT เป็นเรื่องน่ากลัว สำหรับคนทั่วไปและช่างที่เอาแต่อวดตัวไปวันๆ แล้วก็ชอบโทษว่ารถไม่ดี

