การวางเครื่อง ห้ามใจร้อนเด็ดขาดครับ
หาอู่ที่
1.ช่างมีความรู้
2.ช่างซื่อสัตย์
3.ช่างที่ปราณีต
4.ช่างที่คุยกันง่าย
พูดง่ายเนาะ แต่หายาก
การลงเครื่อง ก่อนทำ กรุณาเขียนสัญญาการวางเครื่อง การรับประกันด้วยครับ มีอะไรมา เราก็ฟ้องร้องเอาได้ เพราะตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร
สำหรับคนที่จะวางต้อง
1.ศึกษาข้อมูลก่อน ว่าเครื่องแบบไหนเป็นยังไง นิสัยเขาเป็นอย่างไร
2.หัดดูเครื่องว่า มันรุ่นไหน บางคนบอกวาง J แต่ J ปีไหนล่ะ
และวิธีการเลือกเครื่อง
1.ดูขนาดและน้ำหนักก่อน พร้อมพ่วงเกียร์ ว่ามันยัดได้หรือเปล่า
2.วัดขนาดเครื่องเดิมพร้อมเกียร์ แล้วเทียบกันว่า เราต้องหาเพลาที่ สั้นกว่าเดิมหรือยาวกว่าเดิม
3.ไปหาดูว่า เพลาความยาวที่เราต้องการเนี้ย มีไหม
4.ดูแรงบิด แรงม้าของเครื่องครับ ถ้ามันมากกว่าเครื่องเดิม เราก็ควรเลือกยี่ห้อเพลาที่ ทนแรงบิด และ แรงม้าของเครื่องตัวนั้นได้
5.แท่นเครื่อง เราต้องแปลงหรือเปล่า แปลงได้หรือไม่ได้ และถ้าเครื่องใหม่น้ำหนักมากกว่าเดิม ต้องเพิ่มจุดยึดไปอีก 1 จุด (หาทางแปลงเอา)
6.เครื่องใหม่ มันสูงกว่าเดิมหรือเปล่า มันโผล่มาข้างล่างเยอะไหม
ถ้าในการเลือกเครื่อง ไม่ผ่านข้อ 1 ใน 6 นี้ กรุณา เลือกเครื่องแบบใหม่ครับ
วิธีการวางเครื่อง
1.ซื้อตาน้ำมา (แบบที่ใช้กับขาตั้งกล้อง) วางไปบนแขนของฮ้อย มันต้องได้ระดับ ทั้ง 4 แขน ถ้าแขนไหนมันเอียง
ให้หาอะไรก็ได้ มายัดไว้ระหว่างรถกับแขนฮ้อย แล้วขึ้นดูอีกรอบ ถ้าได้ระดับก็ค่อยลงมือต่อไป
2.เมื่อช่างเอาแท่นยกเครื่อง แล้วเอาเครื่องมาแขวนไว้ในห้องเครื่อง เอาตาน้ำไปวางไว้ตรง ที่ยึดแท่นเครื่องครับ ให้มันได้ระดับ
3.ลองประกอบดู แล้วเอารถลงจากฮ้อย แล้วเราก็เอาตลับเมตร วัดจากจุดศูนย์กลางล้อ ขึ้นไปจนถึงขอบซุ้มล้อ
เพื่อดูว่า รถมันทรุด หรือ มันยืดด้านไหน ถ้ามันต่างกันเยอะ ก็ลองถอด-ประกอบใหม่ครับ แต่ถ้าต่างกันไม่มาก สลับสตรัทดูก่อน
เพื่อตัดปัญหาเรื่องสปริงออกไป
4.เมื่อเช็คเรียบร้อยแล้ว ว่ารถมันทรุด หรือมันยืดเท่ากัน ก็ดำเนินการ ใส่สายไฟลงไปให้ครบ
5.ไปตั้งศูนย์แล้ววิ่งดู
6.อย่าเพิ่งจ่ายเงินครบจำนวน ให้เหลือไว้นิดนึง แล้วไปลองใช้ดูซัก 1 สัปดาห์ (ต้องระบุในสัญญา)
ถ้าไม่มีปัญหาก็จ่ายเงินไปครับ
7.ไปแจ้งขนส่ง ว่าเปลี่ยนเครื่อง
วางเครื่อง พูดง่าย แต่ทำยากครับ ฉะนั้น ทั้งช่าง และเจ้าของรถ ต้องใจเย็น ปราณีต และรอบคอบครับ

