ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันพุธที่ 17 กันยายน 2025 เวลา 05:44:27

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  มีปัญหา /สอบถาม /ให้คำแนะนำ รถยนต์ peugeot แต่ละรุ่น
| |-+  40X
| | |-+  เหนื่อยใจ อาการรถเร่งไม่ขึ้นหลังจากสตาร์ทตอนเช้า
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: เหนื่อยใจ อาการรถเร่งไม่ขึ้นหลังจากสตาร์ทตอนเช้า  (อ่าน 32182 ครั้ง)
Gun'n
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 927



« เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 07:03:32 »


เหนื่อยใจ อาการรถเร่งไม่ขึ้นหลังจากสตาร์ทตอนเช้า

อาการ

- ถ้าจอดทิ้งไว้นานๆจนเครื่องเย็นสนิท ถึงจะเกิดอาการ ถ้าเครื่องร้อนแล้ว สตาร์ทปกติเลย   (เน้นว่าเย็นสนิทนะครับ แบบต้องจอดข้ามคืน)
- เป็นทั้งสตาร์ทแก๊ส และ น้ำมัน
- อาการที่เกิด คือ พอสตาร์ทแล้ว จะติดแบบเร่งไม่ขึ้น ต้องกดเท้าแช่เอา่ไว้จนเกือบสุด ถอนคันเร่งไม่ได้ถอนก็ดับครั้งจะกดครั้งเร่งลงไปจนสุดก็จะดับ รอบจะอยู่แถวๆ500-600 รอบ ต้องแช่เท้าทิ้งไว้แบบนั้น 5-15 นาทีเลย รอบจะค่อยๆไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ จาก 500..600..700..800..900 ...โดยใช้ระยะเวลาพอสมควร  แล้วพอรอบเร่งมาเรื่อยๆจนถึง 1500 เครื่องก็จะเร่งได้ปกติเลย จะกดเท้าแช่เท้า หรือจะถอนคันเร่งถอนเท้า ก็หายจากอาการข้างต้น

- หลังจากนั้นทั้งวัน ก็ไม่มีอาการใดใดอีก ถ้าไม่จอดรถไว้จนเย็นสนิท  เน้นว่าเย็นสนิท ถ้าจอด 3-4 ชั่วโมงกลับมาสตาร์ทก็ชึ่งเดียวติดทุกครั้งไป, ติดแล้วเร่งเครื่อง -เดินเบา - แซง - ทำความเร็ว ทุกอย่างทำได้ไม่มีอาการข้างเคียงสะอึกหรือสะดุดใดใด ครับ

- ถ้าไม่อยากคอยนานตอนสตาร์ท มีเทคนิคคือต้อง ลากกุญแจยาวๆ จนถึุงยาวที่สุด แบบว่า พอบิดกุญแจเครื่องติดแล้วแต่ติดแบบรอบไม่ขึ้นนั้น ให้บิดกุญแจค้างไว้ลากไดสตาร์ทยาวๆถึงยาวมาก จะทำให้ไม่ต้องคอยนานถึง 10-15 นาที รอบจะวิ่งปรู๊ดไป 1500 แล้วคืนกุญแจ รถก็จะทำการเร่ง เบาคันเร่งได้ปกติเลย...แต่บางครั้งลากแล้วก็ไม่ติดนะ ไม่ใช่ทำแล้วจะได้ทุกครั้งไปครับ

การซ่อมแซม

- อาการนี้เป็นมานานแล้ว หลังๆเริ่มหนักขึ้น
- ตอนแรกผมคิดว่าเป็นที่ หม้อต้ม  แต่ก็ได้ทำการเปลี่ยนหม้อต้มใหม่แล้ว  ก็ไม่หาย
- จากนั้นก็เปลี่ยนแบต ลูกใหม่  ก็ไม่หาย
- เปลี่ยนคอยย์ลูกใหม่  ก็ไม่หาย
- เปลี่ยน หัวเทียนดู  ก็ไม่หาย
- ทำให้ระบบน้ำมันสตาร์ทได้ (เพราะเมื่อก่อนตอนหม้อต้มตัวเดิมไม่ได้ใช้ระบบน้ำมันมาสักพักแ้ล้ว)  โดยติดปั๊มติ๊กใหม่ , เปลี่ยน กรองเบนซิลใหม่ , เปลี่ยนสายน้ำมันในระบบใหม่ทั้งหมด   ผลปรากฏว่าหลังจากข้ามคืนลองสตาร์ทดู ก็มีอาการดังกล่าวข้างต้นเหมือนกัน  ทุกประการ

- เปลี่ยนโมดุล  ก็ไม่หาย
- เหนื่อยใจมากมายครับ   สุดท้าย ยกคาบูใหม่ทั้งลูก ก็ไม่หาย (แต่หลังเปลี่ยนคาบูลูกใหม่รถเร่งดีขึ้นเยอะเลย อิอิ)
- เมื่อวานนี้เลย ถอดฝาครอบกะลาจานจ่ายมาขัดดู พร้อมตั้งไฟใหม่ดู   เมื่อเช้า ก็ปรากฏว่า ยังไม่หาย เหมือนเดิม   :อกหักรักคู้: :อกหักรักคู้: :อกหักรักคู้:

หมดปัญญา

- เหนื่อยใจสุดๆแล้ว กับอาการนี้ เลยต้องมาเล่าให้ฟัง   ไอ้เราก็อุตสาห์ค่อยๆทำจากเล็กไปหาใหญ่ (กว่าสองเดือนที่ค่อยๆไล่แก้ ค่อยๆสังเกตอาการ เพราะต้องทิ้งให้เย็นสนิท จริงๆถึงจะมีอาการที่ว่า)  ก็ไม่หาย เลยต้องเอามาเล่าให้ฟัง เพื่อเพื่อนสมาชิกจะช่วยแจมไอเดีย หรือเคยเกิดอาการคล้ายๆกัน

- ตอนนี้ก็เหลือที่ยังไม่เคยไปยุ่งกับมัน ก็คือ ไดสตาร์ท, จานจ่าย , สายหัวเทียน !


จุดสังเกต

- ทำไม มันถึงเกิดอาการเฉพาะตอนเย็นสนิทเท่านั้น  ?
- ทำไม ถ้าเราบิดกุญแจคแช่ค้างไว้ตอนสตาร์ทนานๆ เครื่องถึงติดได้ปกติเลย (ในบางครั้ง) ?
- จะว่าเป็นที่ระบบแก๊ส ก็ไม่ใช่ เพราะสตาร์ทน้ำมันก็เป็น ! อาการเดียวกันเป๊ะ !!  ถูกไหม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
virat405gr
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 287


« ตอบ #1 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 08:03:05 »


อาการสตาร์ทตอนเช้ายากผมเคยเป็นนะครับ พี่ลองแบบนี้ก่อนดับเครื่องพี่ใช้น้ำมันก่อนสัก 5 นาที
แล้วพี่ก็ดับเครื่องนะครับ สัก 5 นาทีสตาร์ดูอีกทีว่าเครื่องติดง่ายไหมถ้าติดง่ายก็ทิ้งใว้เลย พอข้ามคืน
พี่ก็ลองสตาร์ใหม่ว่าสตาร์ติดง่ายไหม ถ้าติดยากพี่ไล่ระบบน้ำมันได้เลยครับ ของผมท่อยางแตกในถัง
สตาร์ยาวๆถึงติดแต่ติดแล้วก็เร่งไม่ขึ้นต้องสักพักนึงก็วิ่งได้ปกตินะ ที่ติดยากเพราะน้ำมันไหลกลับถังทำให้สตาร์ยากครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
supreme
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 839



« ตอบ #2 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 08:04:53 »


อันนี้ถือเป็นการเล่าให้ฟังแล้วกัน เพราะผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องครับ

คือเมื่อก่อน รถผมสตาร์ทที  ตอนเครื่องเย็นรอบจะอยู่ที่ 500-600 รอบ สั่นมาก  และพอเครื่องร้อน รอบจะเกือบพันรอบ เครื่องนิ่งกว่าเดิม ผมก็เลยต้องยอมให้มันสั่นต่อไปไม่อยากจูนแล้ว  และช่วงเครื่องเย็นเร่งไม่ขึ้น  เคยเกือบโดนรถกะบะชนท้ายตอนออกจากซอย  ตอนแรกก็ว่ากดหนีทัน  แต่มันเร่งไม่ขึ้นครับ ไปจอดติดไฟแดงเขาก็มาจอดข้างๆ มองหน้าแล้วด่าผม ผมก็จ๋อยสนิท  อ้อ รถผมเนื่องจากตัวจูน mix อากาศที่ฐานคาร์บิวมันเคยหลุดออกมาตอนจอดรถหน้าบ้าน โชคดีว่าหาเจอแต่สภาพโอริงไม่ค่อยดีแล้ว ผมก็ต้องจำยอมใส่กลับตามสภาพ แต่เครื่องมันสั่นหน่อย  พอได้โอริงมาก็ดันจูนเข็มให้ออกมาไม่ได้  สงสัยไม่เกลียวรูดก็โอริงมันบี้จนเกลียวไม่ขบกันแล้ว จูนแล้วหลวมๆ

ก็เลยเอารถไปจูนคาร์บิวใหม่  งานนี้รอบเย็นรอบขึ้นไป 1200-1500 เสียงกระหึ่มไปหน่อย แต่พอเครื่องร้อนรอบก็ลดลงเหลือ 750-800 รอบ ก็กดแล้วดีขึ้นกว่าเดิม  แต่เครื่องมันสั่นๆอยู่ เพราะตัวปรับ mix ที่ฐานคาร์บิว ยางโอริงมันฉีกหรือเกลียวรูดนี่แหล่ะครับ  เลยปรับให้มันนิ่งไม่ได้ คิดว่าช่างคงโมดิฟายอะไรสักอย่าง ผมปรับเท่าไหร่มันแทบจะไม่มีอาการเปลี่ยนตามการจูนเลย  แถมเข็มมันไม่ยอมถอยออกมาเหมือนเดิม ตอนนี้หมุนจูนแล้วมันแน่นๆ  ช่วงนี้น้ำมันครึ่งถังได้ 250 กิโลเมตร ก็ประมาณ 6กว่าๆครับ

ต่อมาได้คาร์บิวใหม่แบบแกะกล่องไม่เคยใช้มาก่อน  ก็เปลี่ยนเลยไม่มีการจูน  ผลก็คือตอนเครื่องเย็นรอบอยู่ที่ 600กว่า เครื่องไม่สั่น พอเครื่องร้อน รอบไม่เกิน 800 กินน้ำมัน 8กว่าโล/ลิตร กับ 91 แต่เร่งไม่ค่อยขึ้น เขกมาก  ต้องค่อยๆเหยีบไม่ให้เครื่องเขก  และไหนๆแล้วก็ไหลไปถอยจานจ่ายมาอีก  ก็เหมือนเดิม อืดๆ  จนเริ่มชิน   แต่วันนึงไปเจอปั้มมาเลย์เข้าก็เลยขอลอง 95 สักหน่อย คิดถึงเหลือเกิน  อาการก็ดีขึ้นมาก อาการเขกแทบจะไม่มี สงสัยจะติดการขับสมัย 91มา ตอนนี้ขับได้เกือบ 9โล/ลิตร

ต่อมา บลา บลา ...ช่างแว่นบอกว่ามิกเซอร์แก๊สผมมันตัวเล็ก ทำให้ขวางอากาศอยู่ทำให้เร่งไม่ขึ้น  ผมก็กล้ำกึ่งไม่รู้จะเอายังไงดี  ต้องรอช่วงว่างก่อนค่อยมาเคลียร์สเตทนี้   ช่วงนี้กำลังเร่งงานเพราะใกล้ประเมินเงินเดือนประจำปี

ตอนนี้เสียดายที่ยกคาร์บิวให้เพื่อนไปแล้ว ไม่งั้นจะลองถอดนมหนูมาลองหน่อย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

รู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักใช้ รู้จักพอ รู้จักให้ รู้จักวาง
jatupum
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



« ตอบ #3 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 08:32:48 »


น้ำซึมเข้าสูบใดสูบหนึ่งหรือปล่าวครับของผมเคยเป็นน้ำซึมเข้าไป1สูบจอดข้ามคืนทันทีเลยแบบนี้ครับ
พอเราStart ไปสักพักน้ำแห้งรถจะวิ่งปกติครับประเก็นมันผุครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jatupum
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



« ตอบ #4 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 08:38:38 »


ถ้าไม่แน่ใจยังไม่ต้องเปิดฝาสูบถ้าไม่ใช่จะเสียประเก็นและค่าแรง
พอจอดข้ามคืนก็start ให้ติดแล้วตับเครื่องอย่าเพิ่งให้เครื่องร้อนแล้วก็ถอดหัวเทียนทุกหัวมาดู
ถ้ามีการซึ่มของน้ำจริงหัวเทียนหัวใดหัวหนึงต้องชื้นแน่นอนครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jamesdrum
Cowboy from Hell
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,802



« ตอบ #5 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 08:43:51 »


 ...พี่กันย์!!!... เช็คหัวเทียนรึยังพี่???...(ถอดออกมาขัดแล้วลองใส่ใหม่) ...แดงแก้วเคยคล้ายอาการเดียวกะพี่แหละอาจมีต่างกันบ้าง...!!!สรุป คาร์บูฯครับ(ของผมนะ ที่พี่อ๊อดทำให้ หายสนิทเลยครับพี่กันย์...!!!)
    อาการแดงแก้ว(ตอนนั้น) : ตอนเช้า(เครื่ิองเย็น)...เครื่องร้อนด้วย ถ้าขับแล้วจอดซักไม่เกินห้านาที ชึ่งเดียวติด!!!...ถ้ายิ่งจอดนาน จะคล้ายตอนเช้า... สตาร์ทยากมากๆ แต่พอติดก็ปกติ(ห้ามเบิ้ล...ถ้าเบิ้ลฟอดๆ ...บางครั้ง ...ดับ)...!!!ฝืนขับ กระตุก พยศเป็นม้าเลยพี่!!!...ขับไม่ได้เลย ...ปรากฎว่าต้นเหตุคือ คาร์บูฯครับ ...รั่วตรงฐาน(ฐานขยับตัว จากการที่น๊อตคลายตัว) ปะเก็นฐานขาดเป็นชิ้นๆ ทำให้อากาศเข้าเยอะ จูนยังไงก็ไม่เอาเลยพี่ แถมน๊อตบางตัว(จากสี่ตัว)เกลียวเริ่มไม่ดี ขันแน่นมากไม่ได้...ต้องแต้มน้ำยากันคลาย ...ตอนนี้ปกติแล้วพี่ ...ตอนนี้ ทั้งเครื่องเย็นหรือร้อน สตาร์ทปกติครับ...!!!   
...ล่าสุด ตอนส่งหลาน ขาไปปกติมาก(หลังจากซ่อมคาร์บู์แล้ว) จอดร่ำราซักครึ่งชั่วโมง!!!... กลับมาสตาร์ท...ยากมากกว่าจะติด พอติด กระตุกทุกเกียร์...เร่งไม่ขึ้น คาอยู่ที่ 80 กม./ชม. ประคองจนถึงบ้าน!!!...   รอเครื่องเย็น โทรฯหาพี่อ็อด แกบอกถอดหัวเทียนมาดูซิ ใช้มากี่ปีแล้ว???... แล้วลองขัดดู ...ปรากฎ หายครับพี่  หายปกติจนวันดี ไอ ว๊ายยยยยยยยยย ที่เจอพี่นั่นแหละ...!!!
     ...แต่แดงแก้วผม ไม่ได้ติดแก๊สนะพี่... ไม่รู้จะซ่อมแบบเดียวกันรึป่าว???... ขอให้หายไว ไวครับพี่...    ขอบคุณครับ
     
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

' ' ร ถ ส ว ย . . . ด้ ว ย มื อ เ ร า . . . ' '   ' ' เ เ ด ง เ เ ก้ ว . . . ศิ ล ป ะ ข อ ง ก า ร ใ ช้ ร ถ เ ก่ า . . . ! ! !' '
Gun'n
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 927



« ตอบ #6 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 08:45:06 »


...พี่กันย์!!!... เช็คหัวเทียนรึยังพี่???...(ถอดออกมาขัดแล้วลองใส่ใหม่) ...แดงแก้วเคยคล้ายอาการเดียวกะพี่แหละอาจมีต่างกันบ้าง...!!!สรุป คาร์บูฯครับ(ของผมนะ ที่พี่อ๊อดทำให้ หายสนิทเลยครับพี่กันย์...!!!)
    อาการแดงแก้ว(ตอนนั้น) : ตอนเช้า(เครื่ิองเย็น)...เครื่องร้อนด้วย ถ้าขับแล้วจอดซักไม่เกินห้านาที ชึ่งเดียวติด!!!...ถ้ายิ่งจอดนาน จะคล้ายตอนเช้า... สตาร์ทยากมากๆ แต่พอติดก็ปกติ(ห้ามเบิ้ล...ถ้าเบิ้ลฟอดๆ ...บางครั้ง ...ดับ)...!!!ฝืนขับ กระตุก พยศเป็นม้าเลยพี่!!!...ขับไม่ได้เลย ...ปรากฎว่าต้นเหตุคือ คาร์บูฯครับ ...รั่วตรงฐาน(ฐานขยับตัว จากการที่น๊อตคลายตัว) ปะเก็นฐานขาดเป็นชิ้นๆ ทำให้อากาศเข้าเยอะ จูนยังไงก็ไม่เอาเลยพี่ แถมน๊อตบางตัว(จากสี่ตัว)เกลียวเริ่มไม่ดี ขันแน่นมากไม่ได้...ต้องแต้มน้ำยากันคลาย ...ตอนนี้ปกติแล้วพี่ ...ตอนนี้ ทั้งเครื่องเย็นหรือร้อน สตาร์ทปกติครับ...!!!  
...ล่าสุด ตอนส่งหลาน ขาไปปกติมาก(หลังจากซ่อมคาร์บู์แล้ว) จอดร่ำราซักครึ่งชั่วโมง!!!... กลับมาสตาร์ท...ยากมากกว่าจะติด พอติด กระตุกทุกเกียร์...เร่งไม่ขึ้น คาอยู่ที่ 80 กม./ชม. ประคองจนถึงบ้าน!!!...   รอเครื่องเย็น โทรฯหาพี่อ็อด แกบอกถอดหัวเทียนมาดูซิ ใช้มากี่ปีแล้ว???... แล้วลองขัดดู ...ปรากฎ หายครับพี่  หายปกติจนวันดี ไอ ว๊ายยยยยยยยยย ที่เจอพี่นั่นแหละ...!!!
     ...แต่แดงแก้วผม ไม่ได้ติดแก๊สนะพี่... ไม่รู้จะซ่อมแบบเดียวกันรึป่าว???... ขอให้หายไว ไวครับพี่...    ขอบคุณครับ
    


.. หัวเทียนเปลี่ยนแล้วครับผม



ถ้าไม่แน่ใจยังไม่ต้องเปิดฝาสูบถ้าไม่ใช่จะเสียประเก็นและค่าแรง
พอจอดข้ามคืนก็start ให้ติดแล้วตับเครื่องอย่าเพิ่งให้เครื่องร้อนแล้วก็ถอดหัวเทียนทุกหัวมาดู
ถ้ามีการซึ่มของน้ำจริงหัวเทียนหัวใดหัวหนึงต้องชื้นแน่นอนครับ


.. ขอบคุณครับ คุณ jatupum  ผมขอเอาไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายแล้วกันนะครับ อิอิ (หมดไปหลายแย้ว และภาวนาว่าคงมะช่ายเลยย)
.. แต่จะลองถอดหัวเทียนออกมาดูตอนเช้าๆว่ามันชื้นไหมนะครับ

.. ในใจ ยังห่วงเรื่อง ของ สายหัวเทียน อยู่ แต่ให้ช่างถอดดูแล้วก็ว่า ยังใช้ได้ (ดูด้วยตาเปล่า)
.. แต่ใจผม เคยทราบมาว่า บางครั้งสายหัวเทียนเสีย เช้าๆอากาศเย็นๆความต้านทานในสายจะสูงทำให้กระแสไฟฟ้าเดินไม่สะดวก
 ต้องเอามิเตอร์วัดดูถึงจะทราบได้ แต่ก็รู้แค่ทางทฤฏษี ยังไม่เคยทำเลย เหลือ จำเลยอยู่เพียงไม่กี่ตัวแล้ว



อาการสตาร์ทตอนเช้ายากผมเคยเป็นนะครับ พี่ลองแบบนี้ก่อนดับเครื่องพี่ใช้น้ำมันก่อนสัก 5 นาที
แล้วพี่ก็ดับเครื่องนะครับ สัก 5 นาทีสตาร์ดูอีกทีว่าเครื่องติดง่ายไหมถ้าติดง่ายก็ทิ้งใว้เลย พอข้ามคืน
พี่ก็ลองสตาร์ใหม่ว่าสตาร์ติดง่ายไหม ถ้าติดยากพี่ไล่ระบบน้ำมันได้เลยครับ ของผมท่อยางแตกในถัง
สตาร์ยาวๆถึงติดแต่ติดแล้วก็เร่งไม่ขึ้นต้องสักพักนึงก็วิ่งได้ปกตินะ ที่ติดยากเพราะน้ำมันไหลกลับถังทำให้สตาร์ยากครับ


.. ทำมาหมดแล้วครับ  ถ้าเย็นเมื่อไรเป็นติดยากทันที  :สาบแช่ง: :สาบแช่ง:
.. ของพี่เปิดกุญแจจนปั๊มติ๊กปั่มน้ำมันเข้ากระเปาะจนตัดถึงสตาร์ท ก็เหมือนเดิม  ลองทำทุกทางแย้วววว
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jatupum
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



« ตอบ #7 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 09:06:33 »


ผมก็แค่แจ้งก็ผมเคยเจอครับ ที่แรกก็เปลี่ยนไปหลายอย่างยกเว้นคาบูเรเคอร์
ผมก็ไม่คิดว่าเป็นประเก็นเพราะเช็คแล้วเพิ่งเปลี่ยประเก็นมา3หมื่นกว่าโลเองแต่พอถอดมามันเป็นจริงช่างก็เลยคิดแต่ค่าของค่าแรงไม่คิดเขาบอกเคลมค่าแรงให้แต่ค่าของขอหน่อยเล่าให้ฟังครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Gotji
PG 405 is basic.
สิงห์ปริญญาโท
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 314



« ตอบ #8 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 09:06:44 »


ลองเปลี่ยนฝาครอบจานจ่ายดูครับ
ตัวนี้มองด้วยตาเปล่าอาจดูดี
แต่อาจ Earth fault.
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

XU9JA/Z+NGV
Gun'n
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 927



« ตอบ #9 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 09:09:34 »


ผมก็แค่แจ้งก็ผมเคยเจอครับ ที่แรกก็เปลี่ยนไปหลายอย่างยกเว้นคาบูเรเคอร์
ผมก็ไม่คิดว่าเป็นประเก็นเพราะเช็คแล้วเพิ่งเปลี่ยประเก็นมา3หมื่นกว่าโลเองแต่พอถอดมามันเป็นจริงช่างก็เลยคิดแต่ค่าของค่าแรงไม่คิดเขาบอกเคลมค่าแรงให้แต่ค่าของขอหน่อยเล่าให้ฟังครับ


.. สอบถามเพิ่มเติมนิดครับ ตอนถอดหัวเทียนออกมาดู ความชื้นที่พบ เนี้ย เยอะไหมครับ คือเป็นบางหัวที่น้ำรั่วเข้าไป ถูกต้องไหมครับผม
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jatupum
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



« ตอบ #10 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 09:16:05 »


ผมก็แค่แจ้งก็ผมเคยเจอครับ ที่แรกก็เปลี่ยนไปหลายอย่างยกเว้นคาบูเรเคอร์
ผมก็ไม่คิดว่าเป็นประเก็นเพราะเช็คแล้วเพิ่งเปลี่ยประเก็นมา3หมื่นกว่าโลเองแต่พอถอดมามันเป็นจริงช่างก็เลยคิดแต่ค่าของค่าแรงไม่คิดเขาบอกเคลมค่าแรงให้แต่ค่าของขอหน่อยเล่าให้ฟังครับ


.. สอบถามเพิ่มเติมนิดครับ ตอนถอดหัวเทียนออกมาดู ความชื้นที่พบ เนี้ย เยอะไหมครับ คือเป็นบางหัวที่น้ำรั่วเข้าไป ถูกต้องไหมครับผม
จะเห็นชัดเจนเลยครับสูบที่เป็นปัญหาครับหัวเทียนจะผิดปกติชื้นเห็นๆเมือเทียบกับหัวอื่นครับ
แต่ขออย่าให้เป็นเลยครับ
เน้นว่าต้องจอดข้ามคืนนะครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jamesdrum
Cowboy from Hell
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,802



« ตอบ #11 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 09:17:30 »


ผมก็แค่แจ้งก็ผมเคยเจอครับ ที่แรกก็เปลี่ยนไปหลายอย่างยกเว้นคาบูเรเคอร์
ผมก็ไม่คิดว่าเป็นประเก็นเพราะเช็คแล้วเพิ่งเปลี่ยประเก็นมา3หมื่นกว่าโลเองแต่พอถอดมามันเป็นจริงช่างก็เลยคิดแต่ค่าของค่าแรงไม่คิดเขาบอกเคลมค่าแรงให้แต่ค่าของขอหน่อยเล่าให้ฟังครับ


.. สอบถามเพิ่มเติมนิดครับ ตอนถอดหัวเทียนออกมาดู ความชื้นที่พบ เนี้ย เยอะไหมครับ คือเป็นบางหัวที่น้ำรั่วเข้าไป ถูกต้องไหมครับผม


 ...ของผม ตอนถอดหัวเทียน...ดำปี๋!!!... 3 หัวแห้งเขม่าเพียบ อีก 1 หัวชื้นนิดๆแต่เขม่าเพียบ...!!! ขัดเสร็จ ใส่!!!...ชึ่งเดียวติดครับพี่...!!!                                                                                                 ขอบคุณครับ
                                                                                                                           
                                                                                                                               
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

' ' ร ถ ส ว ย . . . ด้ ว ย มื อ เ ร า . . . ' '   ' ' เ เ ด ง เ เ ก้ ว . . . ศิ ล ป ะ ข อ ง ก า ร ใ ช้ ร ถ เ ก่ า . . . ! ! !' '
jatupum
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



« ตอบ #12 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 09:21:41 »


การเปิดฝาค่าใช้จ่ายมันมากปรึกษาช่างก่อนก็จะดีครับของผมก็แค่เอารถผมคันเดียวมาเล่าให้ฟังคงฟันธงอะไรไม่ได้ช่างที่แท้จริงจะมีประสบการณ์มากกว่าครับ....ออกตัวล้อฟรี..ไว้ก่อนอิอิ.
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Gun'n
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 927



« ตอบ #13 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 09:49:00 »




.. ในใจผมตอนเนี้ย ผมอยากจะตัดระบบจ่ายเชื้อเพลิงออกไปเลย ทั้งแก๊สทั้งน้ำมัน
.. เพราะไล่ทำไปเกือบหมดแย้ว

.. น่าจะเหลือ ระบบจุดระเบิด กับ ระบบไฟเนี้ย แหล่ะครับ ที่เป็นปัญหา แต่ยังหา ม่ายย เจออ



 :เปียกปอน: :เปียกปอน: :เปียกปอน: :เปียกปอน:


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
Gun'n
สิงห์ตัวจริง
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 927



« ตอบ #14 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 17:35:29 »



.. เมื่อกี๊ก็เืกือบไม่ติด เหออ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
jamesdrum
Cowboy from Hell
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,802



« ตอบ #15 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 18:07:56 »



.. เมื่อกี๊ก็เืกือบไม่ติด เหออ

 ...เป็นกำลังใจให้ครับ!!!...พี่กัน(ย์)...!!!
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

' ' ร ถ ส ว ย . . . ด้ ว ย มื อ เ ร า . . . ' '   ' ' เ เ ด ง เ เ ก้ ว . . . ศิ ล ป ะ ข อ ง ก า ร ใ ช้ ร ถ เ ก่ า . . . ! ! !' '
nuy
สิงห์มืออาชีพ
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 561



เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 20:37:03 »


ประเก็นฝาสูบก็เป็นอีกหนึ่งผู้ต้องสงสัยครับ ลองนึกดูว่าเปลี่ยนไปล่าสุดเมื่อไหร่ครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

จำหน่ายอะไหล่เก่า PEUGEOT405 คลิ๊ก http://loohmun.blogspot.com/
จำหน่ายอะไหล่ใหม่ PEUGEOT405 คลิ๊ก
http://loohmun.blogspot.com/p/blog-page_28.html
สิงห์สำราญ
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,142



« ตอบ #17 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 02 กันยายน 2010 เวลา 21:37:20 »


ใจเย็นๆครับคุณกัน(ย์)ทุกอย่างแก้ไขได้.......เดี๋ยวได้กลับมาร้อยเก้าสิบห้าเหมือนเดิมแหละ เอาใจช่วยครับ
                                                         โอ๊วๆๆๆ ยอดจริงๆๆ โอ๊วๆๆๆ ยอดจริงๆๆ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ลมหายใจมีเพียงเข้าและออก ใกล้ไกลไม่เกินหนึ่งช่วงแขน
รักษาลมหายใจเอาไว้ให้ดีที่สุด .. อย่าคิดไกลเกินกว่าที่ลมหายใจจะไปถึง
jatupum
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,702



« ตอบ #18 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 03 กันยายน 2010 เวลา 02:26:59 »


กระทู้น่าติดตามนะครับ ขอให้รู้สาเหตุและแก้ไขได้ไวไวครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!