ธพ.แฉ ?แอลพีจี? พุ่งสวนยอดใช้จริง สั่งตรวจแจ้งใช้ยอด ครัวเรือน-ขนส่งฯ บิดเบือน

น้ำมันแพงป่วนตลาด ?ก๊าซหุงต้ม-ไบโอดีเซล? ธพ.สั่งจับตาตรวจสอบโรงบรรจุก๊าซ หลังพบเบาะแสแจ้งยอดแอลพีจีภาคครัวเรือนพุ่งสูง สวนทางปริมาณการใช้จริง ต่างจากปริมาณที่แจ้งในภาคขนส่งที่โรงบรรจุแจ้งการใช้ไม่สูง แต่กลับมีปั๊มแอลพีจีใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะลงทุนต่ำเพียง 5 ล้าน แต่คุ้มทุนเร็ว เตรียมประกาศใช้ บี 2 เกรดเดียววันนี้ หลังปริมาณสำรองไบโอดีเซลเหลือไม่ถึง 50% ปตท.เซ็งแบกภาระลงทุนเอ็นจีวี กก.ละ 5-6 บาท จี้รัฐขยับราคาขึ้น หวั่นโดนผู้ถือหุ้นฟ้องฐานบริหารงานขาดทุน
นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการดูแลตลาดก๊าซธรมชาติ โดยระบุว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ทั่วประเทศ 432 ราย เกี่ยวกับการดำเนินการขนส่งสินค้า เพราะอาจมีผู้ประกอบการบางรายลักลอบนำแอลพีจีที่แจ้งยอดในส่วนของภาคครัวเรือนไปจำหน่ายให้สถานีบริการ หรือปั๊มแอลพีจี
?ปัจจุบันพบว่าปั๊มแอลพีจีในต่างจังหวัดได้ขยายตัวสูงต่อเนื่อง หลังผู้ใช้รถยนต์จำนวนมากหันไปติดตั้งแอลพีจี ทดแทนการใช้น้ำมันที่มีราคาแพงมาก โดยปัจจุบันมีการขยายปั๊มแอลพีจีประมาณ 900 แห่งแล้ว จากปีก่อนมีผู้ประกอบการเปิดปั๊มแอลพีจี 865 แห่ง โดยเป็นการลงทุนใหม่สูงถึง 200 แห่ง เพราะมีการลงทุนต่ำเพียงแห่งละ 5 ล้านบาท และสามารถคุ้มทุนได้เร็ว?
โดยผลการตรวจสอบพบว่า การแจ้งยอดใช้แอลพีจีอาจไม่ตรงต่อความเป็นจริง โดยเฉพาะแอลพีจีในภาคครัวเรือนที่แจ้งยอดการใช้สูงมาก สวนทางกับปริมาณการใช้จริงที่ไม่ขยายตัวมากนัก ต่างจากปริมาณที่แจ้งในภาคขนส่งที่โรงบรรจุแจ้งการใช้ไม่สูง แต่กลับมีปั๊มแอลพีจีใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ หากตรวจพบโรงบรรจุรายใดแจ้งยอดไปส่งให้ภาคครัวเรือน แต่แอบไปส่งให้ปั๊มแอลพีจีก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่ 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล บี 3 เป็น บี 2 เพื่อแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันขาดแคลนนั้น ในวันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2554) กรมจะประกาศให้ผู้ค้าน้ำมันจำหน่าย บี 2 เป็นการชั่วคราวจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2554
ปัจจุบัน ผู้ค้ามีสต๊อกไบโอดีเซล 4 หมื่นตัน ถ้าจะผลิต บี 3 และ บี 5 ได้ต้องมีปริมาณสำรองสูงกว่า 1.2 แสนตัน โดยในเดือนมีนาคมปริมาณสำรองจะเพิ่มเป็น 1.05 แสนตัน และเดือนเมษายนเพิ่มเป็น 1.45 แสนตัน รวมถึงคาดว่าเดือนเมษายนนี้ปริมาณผลผลิตปาล์มจะเข้าสู่ภาวะปกติ และสามารถกลับมาใช้ บี 5 ได้เหมือนเดิม
ด้าน นายวิชัย พรกีรติวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากรัฐบาลยังคงตรึงราคาก๊าซที่ระดับ 8.50 บาทต่อลิตรต่อไป ก็จะทำให้ภาระขาดทุนของ ปตท.มีมากขึ้น จนอาจทำให้ปีหน้าเดินหน้าธุรกิจไม่ได้ เพราะปัจจุบัน ปตท.ก็รับภาระขาดทุนอยู่ 5-6 บาทต่อกิโลกรัม และ ปตท.ก็เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการที่ ปตท.ต้องรับภาระขาดทุนมากๆ ก็อาจทำให้ผู้ถือหุ้นฟ้องร้องได้ เพราะตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์กำหนดไว้ว่าผู้ถือหุ้นสามารถฟ้องร้องบริษัทได้ หากบริหารงานทำให้ขาดทุนได้
?นอกจากจะไม่ขยับขึ้นราคาขายปลีกที่กำหนดเพดานไว้ที่ระดับ 8.50 บาทต่อลิตรแล้ว ยังกำหนดเพดานค่าขนส่งไว้ไม่ให้ราคาขายเกิน 10.34 บาทต่อกิโลกรัมอีก ทั้งๆ ที่การขนส่งก๊าซเอ็นจีวีไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลมีต้นทุนค่าขนส่งสูงมาก เช่น เชียงราย หากคิดตามต้นทุนค่าขนส่งที่แท้จริงแล้ว ราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีในพื้นที่จังหวัดเชียงรายจะต้องอยู่ที่ 19 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนจังหวัดอุบลราชธานีก็จะมีต้นทุนจริงอยู่ที่ 17 บาทต่อกิโลกรัม โดยส่วนต่างราคาที่เหลือ ปตท.จะต้องเป็นคนรับภาระชดเชยเอง?
ดังนั้น ปตท.ต้องขอความกรุณาให้รัฐบาลช่วยขยับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีบ้าง หรือไม่ก็เพิ่มการชดเชยให้ เพราะล่าสุดได้มีการศึกษาทุนราคาก๊าซเอ็นจีวีเฉลี่ยทั้งประเทศที่เหมาะสมแล้วว่าควรจะอยู่ที่ 14.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งหากขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับนี้ได้ก็ยังดี เพราะทุกวันนี้ก็เหมือนแถมเงินฟรีๆ ให้ผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวี 6 บาทต่อกิโลกรัม แต่หากไม่มีการขยับราคาขึ้นเลยก็อาจทำให้ผู้ใช้ลำบากขึ้นหน่อย เพราะ ปตท.ไม่มีเงินลงทุนเพิ่ม

