พอมีเรื่องจะมาเล่าได้เหมือนกันครับ ที่เสี่ยงตาย หรือเรียกว่าเฉียดที่สุดก็ได้

เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2008 จำช่วงเดือนไม่ได้ แต่เหตุเกิดวันเสาร์แน่นอนครับ
วันนี้ผมต้องไปทำงานตอนเช้า เข้างาน 8.30 น. แต่เนื่องจากวันนั้นผมตื่นสายเลยต้องรีบไปทำงานอย่างด่วน

ออกจากบ้าน 8 โมง ขึ้นทางด่วนขั้นที่ 1 ที่ด่านบางนา วันนั้นทั้งกด และมุด ความเร็วตอนเกิดเหตุอยู่ที่ 180 ตอนนั้นผมอยู่เกียร์ 4 กำลังจะไปเกียร์ 5
ถ้าใครวิ่งเส้นนี้จะรู้ว่าจะมีทางลงมาจากทางด่วนบูรพาวิถี วันนั้นผมวิ่งมุดทั้ง ขวา และซ้ายทำเวลาเต็มที่ ตอนที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่ผมมุดจากขวามาทางซ้ายเนื่องจากมีรถขวางเยอะ จึงมาเจอกับรถที่ลงมาจากทางด่วนพอดี ผมมองไกลๆ พยายามจะหาทางไป แต่รถคันหนึ่งจ(ำไม่ได้ว่ารถอะไร) ลงมาจากทางด่วนบูรพา แล้วขับต่อด้วยความเร็วต่ำมาก และเลนซ้ายไว้ 2 เลน เลนก่อนซ้ายสุด มี บิ้กเอ็มอีกคัน ออกขวาไม่ได้ เพราะรถตั้งลำมาแล้วจากขวา
จากที่เห็น วันนั้นผมตัดสินใจง่ายๆ เลย คือเบรก เพราะผมพึ่งตั้งลำรถมาจากทางขวาเหวี่ยงรถกลับไม่ได้เพราะมีรถขับความเร็วปกติขวางอยู่ ส่วนทางซ้ายเป็นกำแพงทางด่วน เบรกเท่านั้คือทางออก
ผมกระแทกเบรกลงสุดแรง ABS ทำงาน ล้อส่งเสียงลั้นถนน ความเร็วลงลดอย่างรวดเร็ว แต่เกียร์ยังคาอยู่ที่เกียร์ 4 จึงทำให้ "เครื่องดับ" ในตอนนั้นผมไม่มีสติมาเปลี่ยนเกียร์ หรือปล่อยเบรก จึงทำได้แค่เหยียบคลัชลงไป และลุ้นให้รถหยุดโดยเร็ว เพราะ ABS หยุดสั่งการไปแล้ว ล้อจึงล็อกและพุ่งเข้าไปหารถคันหน้าไปเรื่อยๆ
เวลานั้นผมท่องในใจว่า "หยุด หยุด หยุดๆๆๆๆๆ" จนกระทั้งผมเข้าไปใกล้รถคันหน้าจนไม่เห็นยางรถคันหน้า และเริ่มเตรียมตังรับแรงกระแทก
รถคันหน้าก็เริ่มห่างออกไป ผมมองหลังไปเที่ยวนึง ข้างหลังต้องมีรถบิ้กเอ็มที่พึ่งแซงมาตอนเบรก แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ ขาว..... ควันมันขาวเต็มถนน เห็นไฟหน้าบิ้กเอ็มกระพริบๆ อยู่ข้างหลัง
ผมคิดอย่างเดียว "อยู่ไม่ได้แล้ว ขายขี้หน้า" จึงสับเกียร์ไปที่เกียร์ 2 กระชากคลัชติดเครื่องขึ้นมา และดูความเร็วปรากฏว่าไอ้คันที่ลงมามันขับอยู่ 40 บนทางด่วน.... ผมกระแทกคลัชซ้ำดึงรถออกขวาซัดต่อเพื่อไปทำงาน แต่พอวิ่งออกไปสิ่งแรกที่รู้สึกเลยค คือ ยางไม่กลมเพราะมันวิ่งสะเทือนๆ ตลอดเวลา
วันนั้นผมไปถึงที่ทำงานที่สุรวงศ์ตอน 8.15 (หลังจากนั้นโล่งตลอด) แต่ต้องเสียค่ายางไป 4 เส้น เปลี่ยนเสร็จรถก็วิ่งได้เรียบเหมือนปกติครับ

ปล. ไม่แนะนำให้เลียนแบบนะครับ


