ในทรรศนะของผม รถยนต์คันหนึ่ง มันประกอบขึ้นเพื่อให้เป็นพาหนะ โดยใช้อุปกรณืหลายอย่าง
หลายระบบมาประกอบกัน เพื่อการขับเคลื่อน นำพาผู้ขับขี่และผู้ร่วมทาง ทั้งสิ่งของ ให้ไปสู่อีกจุดหมายหนึ่งได้
ดังนั้น หากรถยนต์คันนั้น มีอุปกรณืที่ยังมีสภาพที่ใช้งานได้ดีเป็นปกติ มันก็จะยังสามารถทำหน้าที่ได้ โดยไม่มีข้อบกพร่อง
ทีนี้ ถ้าเกิดมีบางอย่างบกพร่อง ก็จะทำให้ มันทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม หรืออาจจะถึงขั้น ทำงานไม่ได้
โดยการที่ รถที่มีสภาพใหม่ๆ พวกอุปกรณ์ต่างๆ ยังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่ การจะเกิดข้อบกพร่อง ก็ย่อมจะมีโอกาสน้อยลง
หรือถ้าเป็นรถใหม่เอี่ยม ก็ยิ่งจะมีประสิทธิภาพของอุปกรณืที่ดียิ่งขึ้น
เมื่อทราบข้อจำกัดเหล่านี้แล้ว ไม่ว่ารถคันนั้น จะมีอายุการใช้งานมานานแค่ไหน
แต่ถ้าได้รับการดูและ ตามการใช้งานจริงอย่างต่อเนื่องและถูกวิธี มันก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันครับ
แต่ ในความเป็นจริง ด้วยมุมมองของผู้ที่ครอบครองรถเก่า มักจะละเลย ในสิ่งที่จำเป็น
มักจะไปเน้นเรื่องของการปรับปรุงโฉม ให้มันดูใหม่เหมือนคันอื่นๆที่เราพยายามเอามันไปเทียบ
แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินก้อนโต เพื่อทำให้มันสวยสดเหมือนรถใหม่ แต่มันก็ใหม่แค่เปลือก เหมือนคนแต่งหน้าจัดๆ
เวลาเอาไอ้ที่พอกไว้ออกไปแล้ว แทบจะจำตัวเองไม่ได้...
สิ่งที่จำเป็นกลับไม่ค่อยอยากทำให้มันสมบูรณ์ เพราะ เล่นเอาราคารถของตัวเอง มาเป็นการกำหนดราคาการซ่อม
คือ ถ้าจะต้องซ่อมเยอะๆ ทีนึงเป็นหมื่น ก็จะรีบคิดเอาเองว่า มันแพงจัง ยังไม่ต้องดีกว่า ให้มันพังแล้วค่อยซ่อม
ทีนี้ มันก็เลยมีความวิตกติดมาตลอดเวลา ว่า รถเราเก่า ไม่ค่อยจะดีแล้ว จะไปรอดมั้ยเนี่ยะ มันจะพังตอนไหนยังไม่รู้
โชคดี ก็ไม่เกิดอะไร ถ้าโชคไม่ดี เกิดเหตุในระหว่างการใช้งาน ความวุ่นวาย สับสน ก็จะประดังเข้ามาหา
เลยพาลเบื่อ ที่จะใช้รถคันนั้นต่อไป ทั้งๆที่ รถทุกคัน มันสามารถที่จะปรับสภาพให้มันยังใช้งานได้ดีอยู่ตลอดเวลา

