ผมขอให้คำแนะนะคุณดังนี้
1.ตามสัญญาประนีประยอมความระบุไว้ใช้เจนว่าให้โจทย์(เดิน)ผ่านเข้า-ออก ทางที่ดินทิศตะวันออก 1 เมตร ตลอดแนวชายคาบ้าน จนถึงหมู่บ้าน
ดังนั้นเฉพาะตัวโจทก์เท่านั้นที่มีสิทธิเดินผ่านเข้าออก บุคคลอื่นไม่มีสิทธิเดินผ่านแม้ว่าจะเป็นบริวารหรือญาติโจทก์ก็ตาม การที่มีรถจักรยานยนต์มาวิ่งผ่านทางเดินถือว่าผิดเงื่อนไขตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คุณยื่นคำร้องต่อศาลพร้อมการดำเนินการตาม ข้อ 2.2ให้ศาลสั่งห้ามให้จำเลยและบริวาร (บ้านไข่แดง) ขับรถจักรยานยนต์ผ่านที่ดินของคุณ หากจะผ่านให้เสียค่าตอบแทนเป็นรายปี ปีละ..................บาท และให้เพิ่มค่าตอบแทนทุกปี ปีละ 5%
2. การที่โจทก์นำสายไฟฟ้า ท่อประปา สายโทรศัพท์ สายอินเทอร์เน็ท มาพาดผ่านที่ดินของคุณ
2.1 ในทางอาญาถือว่าเป็นการบุกรุกแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทีว่าจ้างให้มาติดตั้งสาธารณูปโภคออกได้
2.2 ในทางแพ่งให้คุณยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อศาลสั่งให้จำเลย (คนที่ไปว่าจ้างให้มาติดตั้งสาธารณูปโภคให้ดำเนินการรื้อถอนออกไปไปทั้งหมด หากไม่รื้อถอนให้ถือเอาคำสั่งศาลแสดงเจตนาแทน และให้ผู้กระทำผิด (จำเลย) ชดใช้ค่าเสียและค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการรื้อถอน หรือหากไม่รื้อให้จำเลยจ่ายเงินค่าเสียหายจากการใช้ที่ดินของคุณบนพื้นดิน(วางท่อประปา) และทางอากาศการ (สายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต)
3. ที่คุณบอกว่าเดือน มิ.ย. ล่าสุด บ้านคู่กรณี มารื้อ แผ่นซีเมนต์กระเบื้อง ที่ผมมาทำรั้วไว้ แล้วมุดรอด รั้วออกมาตัดต้นไม้ (ผมยืนถ่ายคลิป)เลย และเอาไปแจ้ง ความ ตร. ก็ไม่รับแจ้ง ทั้งๆที่เป็น คดีบุกรุก และทำลายทรัพย์สิน
กรณีตามข้อ 3 ผมให้ความเห็นดังนี้
3.1 ผู้ที่มารื้อแผ่นซีเมนต์กระเบื้อง และมุดรั้วออกมาตัดต้นไม้มีความผิด ฐานทำให้เสียทรัพย์ และ 2 มีความผิดฐานบุกรุก ซึ่งถ้าบุกรุกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
ยอมความไม่ได้
3.2 ให้ฟ้องศาลปกครองกับ ตร.ที่ไม่รับแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 ต้องระวางโทษจำคุกตั่งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. เดือน เมษายน 2559 คุณได้ติดต่อ สำนักงานทนายความ บริษัทเดชา ซึ่งเป็น สาขาย่อย ตั้งอยู่ในซอย รัชดาเสือใหญ่ เพื่อดำเนินคดีกับบ้านไข่แดง แต่บริษัทเดชา ไม่ดำเนินการ
ผมแนะนำให้คุณ
4.1 โทรไปที่ สภาพทนายความ เพื่อให้ลงโทษทนายความที่ตกลงจะว่าความให้คุณแต่ไม่ดำเนินการทั้งๆที่รับเงินไป 55,000 บาท แล้ว
4.2 ให้คุณไปติดต่อทนายความ (คนใหม่) เพื่อฟ้องคดีเรียกเงิน 55,000 บาท คืน ฐานผิดสัญญาจ้างและเรียกค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 55,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ผิดนัดจนกว่าจะชำระเสร็จ
5. เมษายน 59 ทนายบริษัทที่คุณว่าจ้าง บอกให้คุณยอมรับ ข้อกล่าวหาที่เค้ากล่าวหาว่าคุณยิงปืน เพราะเราไม่เคยมีประวัติ เสีย คงถูกคุมความประพฤติเท่านั้น คู่กรณีกล่าวหาผม 1. พกปืนไปในที่สาธารณะ 2.ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร
ผมบอกเลย สนง.ทนายกฏหมายนี้แย่มากการที่คุณยิ่งปืนในที่ดินของตัวเองนั้น คุณจะไม่มีความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร คุณจะมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 376 ซึงบัญญัติว่า " ผู้ใดยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผมอ่านเรื่องราวของคุณแล้ว ชีวิตคุณช่างอาภัพ น่าสงสาร ถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐแล้ว ยังมาเจอทนายเลวๆ อีก ผมไม่เคยทำเรื่องเลวๆ แบบนี้แก่ลูกความเลย ผมว่าคุณควรหาทนายคนใหม่ได้แล้ว