ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันศุกร์ที่ 02 พฤษภาคม 2025 เวลา 12:36:29

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

315,832 กระทู้ ใน 27,428 หัวข้อ โดย 14,887 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: bigboys
* หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
+  Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย
|-+  หมวดหมู่ทั่วไป [ General topics ]
| |-+  LPG & NGV (ผู้ดูแล: gasman)
| | |-+  505 GR 2.0 เปลี่ยนกรองเปียก เป็นกรองเปลือย + Bypass อากาศ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: 505 GR 2.0 เปลี่ยนกรองเปียก เป็นกรองเปลือย + Bypass อากาศ  (อ่าน 4495 ครั้ง)
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2007 เวลา 02:59:11 »


จากที่เคยติด Mixer ของ Gas กับกรองเปียก (ตามความเดิมตอนที่แล้ว โดยคุณเจษ http://www.vlovepeugeot.com/forum/index.php?topic=1730.msg7532#msg7532) แล้วมันยังไม่ได้ดังใจ ประกอบกับคุณอ๊อด ซีพี จุดประกายให้คิดวิธีลดขนาดรู Mixer และปัญหาวิ่งน้ำมันไม่ได้เรื่อง จึงนำมาสู่โปรเจคนี้ครับ

- เริ่มจากการใช้กรองเปียกมันไม่สามารถดัดแปลงหรือโมอะไรได้มากนักจึงคิดใช้กรองเปลือยแทน
- ปัญหาอากาศไม่พอเวลาใช้น้ำมัน ถามพี่หลายคนที่ใช้ Fix Mixer ก็เป็น เลยคิดว่าถ้าเดิมท่ออากาศมันพอดีอยู่ แล้วเราเอา Mixer ไปขวางทางให้อากาศมันเข้าน้อยลง คงเป็นการยากที่อากาศจะพอได้ (คิดแบบตื่นๆนะครับ ไม่มีความรู้ด้านอากาศพลศาสตร์ เพราะอาจมีเทคนิคที่ทำให้อากาศพอได้ แต่ผมไม่รู้ทำอย่างไร เพราะที่คุณ Zebre post ไว้ ใช้กรองเปลือยเหมือนกัน แต่คุณ Zebre บอกว่าใช้น้ำมันไม่มีอาการเร่งไม่ขึ้น หรือรอรอบในช่วง 750 - 3000 รอบ) ดังนั้นผมจึงคิดง่ายๆ โดยการทำทาง Bypass อากาศซะเลย
- เรื่องของ Mixer ก็ไปขอของพี่ที่ทำงาน ที่เค้าใช้กับ 4A-FE เป็นแบบเตาแก๊ส ซึ่งพี่เค้ากลึงรูจนใหญ่ไป ใชไม่ได้แล้ว ผมก็มาดัดแปลง ทำให้รูมันเล็กลง โดยการทำกรวยตรงกลางรู และก็คิดเลยเถิดไปถึงว่า ถ้ากรวยมันขยับเปิดได้มากขึ้นเวลารอบสูงขึ้น เหมือนพวก Variable Valve อะไรทำนองนั้นก็น่าจะดี เลยติดสปริงให้แกนกรวยด้วย แต่เวลาวิ่งจริงก็ไม่เคยไปดูว่ามันขยับหรือเปล่านะครับ ใช้แค่เอาไว้เลื่อนปรับรู Mixer ให้เล็ก-ใหญ่เท่านั้น
- อุปกรณ์ต่างๆ ใช้ท่อ PVC ทำ เพราะที่บ้านไม่มีเครื่องมือมากนัก (ลองทำเป็น Prototype ดูเอง จะจ้างร้านท่อไอเสียทำ ก็กลัวแพง)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #1 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2007 เวลา 03:06:35 »


ต่อมาพบว่า Valve ที่ใช้ Bypass มันเล็กเกินไป วิ่งน้ำมันก็ยังไม่ได้ดี เลยไปขอ Valve ปีกผีเสื้อ 4A-FE ของพี่ที่ทำงานคนเดิมมาอีก Tongue (พี่แกช่างซ่อมเหมือนกัน อะหลั่ยเหลือทิ้งเพียบ) เอามาโมใหม่ พร้อมกับไปซื้อสายโช๊คมาไว้ดึงปิด-เปิด Valve ด้วย
โดยสายโช๊คเดิมมันเป็นสายแข็ง ก็ไปซื้อสายเบรคจักรยานมาเปลี่ยนแทน แถมโมตัวดึงโช๊คให้มันล๊อคได้ โดยใช้หลักการคลายๆเบรคมือรถกระบะครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #2 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2007 เวลา 03:20:42 »


ใช้มา 6 เดือนได้แล้ว วิ่งแก๊สตอบสนองดีมากครับ  (แต่วิ่งน้ำมันก็ยังไม่เท่าแก๊ส  Sad ยังต้องรอรอบ แต่ก็ดีกว่าเดิมมาก วิ่ง 120 ได้ แต่ต้องค่อยๆเร่งขึ้นไป)

ไม่รู้แนวคิดนี้ ถ้าทำดีๆ จะ Work ไหมนะครับ หรือไปปรับแต่ง Mixer ให้แจ๋วๆดี ไม่รู้อะไรจะดีกว่ากัน? Cheesy

ส่วนโปรเจคต่อไปของผมก็ "เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นคนดี และเก่ง" ครับ Wink 



แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
Old mAn&505
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393



« ตอบ #3 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2007 เวลา 09:11:38 »


พอจะทราบอัตราสิ้นเปลืองแก้สไหมครับ ??
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ไ ม่ รู้ ว่ า ซื้ อ เ พ ร า ะ อ ะ ไ ร  แ ต่ ใ ช้ แ ล้ ว . . " ช อ บ "
ภณ(PON)
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
Administrator
เซียนสิงห์
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,041



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม 2007 เวลา 12:12:20 »


ลูกน่ารักดีครับ ไม่ทราบบอกวิธีทำด้วยจะได้ไหมครับ (55555 แซวเล่นนะครับ)

เป็นแนวทางที่ดีมากๆๆ ครับผม หมดอุปกรณ์ไปเท่าไรครับเนี่ย
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

รูปงาน Meeting ครบ 10 ปี
http://www.vlovepeugeot.com/forum/index.php?topic=22111.0

คิดถึง Mi16 จังเลยอือๆ
โชคดีโชคร้ายไม่มี....แตกต่างเพียงมุมมองในสถานการณ์

มีปัญหาเรื่องรถก็โทรคุยกันได้ ช่วยบอกชื่อท่าน รุ่นรถก่อนถาม
และเคารพสิทธิส่วนบุคคลผมด้วยครับ เบอร์ 084-556-8หกหกหก
วิดีโอของชมรมนะครับ : http://www.youtube.com/vlovepeugeot
สนใจสมัครนักเขียน : http://www.allwhatever.com
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #5 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2007 เวลา 01:55:22 »


ขอบคุณครับคุณภณ ที่ชมลูกผมครับ ส่วนวิธีทำ ก็...คงต้องหาโจทย์ที่ชอบก่อนนะครับ แล้วผลลัพธ์ก็น่าจะได้อย่างที่เราชอบนะครับ Tongue

ส่วนค่าอุปกรณ์คร่าวๆ นะครับ
1.กรองเปลือย  = 450
2.ท่อยางสปริงหุ้มผ้า 2 ท่อ = 400
3.ข้อต่อ PVC ต่างๆ ประมาณ 150
4.ท่องวงช้างครอบคาร์บิว ของ P305 = 350
5.สายโช๊ค = 80
6.สายเบรค = 20
7.Mixer ประมาณ 400 (แต่ผมขอพี่ที่ทำงานมาฟรี)
8.Valve ปีกผีเสื้อ ประมาณ 400 (แต่ผมขอพี่ที่ทำงานมาฟรี)
9.เข็มขัดรัดท่อ และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ด ประมาณ 150
รวม 2,400 บาท

โอ! ไม่เคยคิดต้นทุนเลยนะเนี๊ย คิดดูแล้วก็เพิ่งรู้ว่าลงทุนไปหลายเหมือนกันนะเนี๊ย
แถมลงแรงไปก็มากเสียด้วย Huh

ส่วนเรื่อง อัตราสิ้นเปลืองแก๊ส ไว้ผมมาบอกกันอีกทีนะครับ จดๆลงBookไว้ ยังไม่คำนวนเสียที
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
Int_205GR
เจ้าสิงห์น้อย 205
สิงห์ปริญญาเอก
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 492



« ตอบ #6 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2007 เวลา 10:28:10 »


นับเป็นผลงาน และนวัตกรรม ของผู้ใช้อย่างแท้จริง ครับ (ทั้งรถและ ลูกแก้มยุ้ย)

ปล.นั่นแก้มหรือซาลาเปาครับ อิอิ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
อ๊อด
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 191


« ตอบ #7 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2007 เวลา 20:33:33 »


ขอชื่นชมในความพยายามด้วยใจจริง หากผ่านแถวฟอร์จูนเมื่อใดอยากให้โทร. หาผมเพื่อนัดดูรถของผม ส่วนมากผมจะสะดวกวันอาทิตย์ เพราะบางเสาร์ผมต้องทำงาน ขณะนี้ผมเลิกปรับแต่งระบบแก๊สนานแล้ว เนื่องจากอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ตอนนี้ถือว่าดีที่สุดสำหรับผมแล้ว วิ่งดีทั้งน้ำมันและแก๊ส (Fix Mixer) กรองเปียกผมถอดออกแล้วใส่กรองปาซูก้าแทน แต่มีปัญหาที่คาร์บูอยู่ห่างไป ผมใช้ท่อเหล็กขนาด 3 นิ้วเป็นตัวต่อ ส่วนมิกเซอร์ผมได้จากอู่ที่รู้จักกันให้มาใช้นานแล้ว ลักษณะเป็นรูปวงรีมีเตา 2 หัวเจาะรูเหมือนเตาแก๊ส แต่ปากคาร์บูรุ่น 2.0 จะเล็กกว่าปากหม้อกรอง ดังนั้น ต้องทำอแด๊ปเตอร์รองรับปากหม้อกรอง ผมทำแบบง่าย ๆ โดยหาสังกะสีหนาหน่อยมาทำ อันนี้ต้องจ้างร้านหม้อน้ำเชื่อมสังกะสีด้วย จำได้ว่าค่าแรง 100 เดียว คือต้องเห็นถึงจะเข้าใจหนะ อีกอย่าง ผมคิดว่าคงสำคัญมากสำหรับระบบน้ำมัน คือ หม้อกรองรุ่นที่ผมใช้จะมี 2 รู ขณะที่เครื่องเดินเบาอากาศจะเข้าทางรูเล็ก แต่เมื่อเร่งเครื่องเจ้ารูเล็กจะถูกปิดทำให้รูใหญ่เปิดให้อากาศเข้ามากกว่า ทำให้ขณะวิ่งระบบน้ำมันไม่มีปัญหา ถ้าให้ผมสรุป ผมว่ามิกเซอร์สำคัญมากที่สุด เบอร์โทร. ผม 084-708-4450 อ๊อด
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #8 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2007 เวลา 21:11:52 »


ขอบคุณ คุณอ๊อดมากครับ ถ้ามีโอกาสไปแถวฟอร์จูน อาจต้องรบกวนไปขอดูชมเป็นขวัญตาบ้างครับ
ในเรื่อง Mixer มันก็สำคัญจริงๆหนะครับ แต่ปัญหา คือ มันหาที่พอเหมาะพอเจาะ หรือให้เจ้า 505 เลือกเล่นได้น้อยนะสิครับ
แต่ตอนนี้ไม่รู้มีสูตรสำเร็จดีๆในการติด Gas ให้เจ้า 505 หรือยังนะครับ เพราะผมก็ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้เลย เพราะที่เห็นส่วนใหญ่
อู่จะติดให้แก๊สวิ่งได้ดี ส่วนน้ำมันวิ่งพอได้ก็จบแล้ว หรือบางอู่แค่แก๊สพอวิ่งได้ยังเอาแล้วเลย (อย่างอู่ที่ผมติดแก๊สมาเป็นต้น)

ส่วนในเรื่องอัตราสิ้นเปลือง ผมคำนวนมาแล้วครับ
ชานเมือง 7.5 - 8.5 km/L. (วิ่ง 90-110)
นอกเมือง 9.5-10.0 km/L. (วิ่ง 110-140)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
Old mAn&505
เซียนสิงห์
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393



« ตอบ #9 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2007 เวลา 10:38:22 »


พี่อ๊อดคับ รูอากาศ 2 รูของพี่มีติดมาเลยหรือมาทำขึ้นภายหลังครับ
ถ้าไม่รบกวนเกินไปอยากดูรูปกรอง 2 รูและระบบการปิด-เปิดหน่อยครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ไ ม่ รู้ ว่ า ซื้ อ เ พ ร า ะ อ ะ ไ ร  แ ต่ ใ ช้ แ ล้ ว . . " ช อ บ "
อ๊อด
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 191


« ตอบ #10 เมื่อ: วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2007 เวลา 21:26:12 »


รูอากาศ 2 รูที่ว่ามันติดมากับหม้อกรองเดิม ๆ ซึ่งผมเจอโดยบังเอิญ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร จนผมประกอบแล้วลองเร่งเครื่องดูถึงได้รู้ว่า รูใหญ่จะเปิดต่อเมื่อเราเร่งเครื่องจนมีแรงดูดจะทำให้ปานประตูมาปิดรูเล็ก ทำให้อากาศเข้ามากขึ้น แต่เท่าที่ทราบช่างส่วนมากจะถอดเจ้าชิ้นส่วนนี้ทิ้งซึ่งผมไม่ทราบสาเหตุ ผมว่ามิกเซอร์สำคัญมากกว่า เนื่องจากว่าถ้ารูมิกเซอร์ตราบใดยังเล็กอยู่ ต่อให้หม้อกรองมีอากาศเข้ามากอากาศก็ยังเข้าได้น้อยอยู่ดี ใจอยากจะถ่ายรูปให้ดูแต่จนใจจริง ๆ เอาไว้ถ้ามีโอกาสงาม ๆ จะยืมกล้องลูกสาวถ่ายแล้วส่งให้ดูกันทั่ว ๆ แต่ผมมาคิดดูดี ๆ แล้วเห็นว่า ถ้าหม้อกรองยอมให้อากาศเข้าน้อยย่อมง่ายต่อการสตาร์ท แล้วพอรอบเครื่องสูงขึ้นอากาศก็เข้ามากขึ้นทำให้แก๊สจางลง (ไม่เปลืองแก๊ส) ไม่รู้ผมคิดถูกหรือเปล่า ยังไงผมก็ยังมีโปรเจ็ทเจาะปากคาร์บูแล้วปิดปากคาร์บูด้วยแผ่นแม๊กกาไรท์เจาะรูให้อากาศเข้าทั้ง 2 ลิ้นอยู่ซึ่งใช้กับกรองเปียก และได้ทดลองใช้ไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ลองใช้จริงจังซักที (ขี้เกียจซะมากกว่า) คงต้องหาเวลาเคาะสนิมตัวเองบ้างแล้ว หากได้กล้องมาจะถ่ายรูปให้ดูทั้ง 2 แบบ อ้อ ยังมีแบบที่ใช้กันทั่วไปคือแบบมิกเซอร์ที่ขายตามท้องตลาดแต่ต้องคว้านรูอากาศให้ใหญ่ขึ้นเป็น 28-30 มล. ยังไงอดใจรอกันหน่อยนะครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #11 เมื่อ: วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2007 เวลา 22:32:04 »


คุณพี่อ๊อดครับ คือผมยังสงสัยเกี่ยวกับอัตราส่วนผสมของอากาศกับแก๊ส และอากาศกับน้ำมัน ที่มันต่างกันมาก พอจะช่วยอธิบายให้หน่อยได้ไหมครับว่าทำไม เมื่อเราใส่ Fix Mixer เข้าไปแล้ว ยังสามารถทำให้ อัตราส่วนผสมน้ำมันกับอากาศยังคงเดิมอยู่ได้  ในความหมายคือ อัตราเร่งเมื่อใช้น้ำมันยังเหมือนเดิมได้หนะครับ ขอบคุณครับ

ส่วนเรื่องหม้อกรองของพี่ ผมก็ยังสงสัย ถ้าตอนสตาร์ทเครื่องเย็น มันก็มีออโต้โช๊คอยู่แล้ว ถ้าเครื่องร้อน มันก็สตาร์ทง่ายอยู่แล้ว และกรองเปียกก็ไม่เห็นมีระบบปรับอากาศเข้ามาก-น้อยเลยครับ หรือว่ารุ่นแรกๆอย่างกรองปาซูก้า ฝรั่งเศส อาจทำเซฟไว้สองชั้นหรือเปล่าครับ Smiley
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
อ๊อด
สิงห์มัธยม
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 191


« ตอบ #12 เมื่อ: วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2007 เวลา 21:09:27 »


ตามหลักวิชาการผมไม่ทราบจริง ๆ แต่เท่าที่ผมรู้ผมจะยึดน้ำมันเป็นมาตรฐาน คือ ทดลองจนแน่ใจว่ารูมิกซ์ขนาดใดควรพอใช้กับทั้งแก๊สและน้ำมันได้พอดี จากการศึกษาและทดลองจึงพอทราบว่าอยู่ระหว่าง 28-30 มิล
ส่วนเรื่องหม้อกรองรุ่น 2.0 จะเป็นกรองเปียกอย่างที่ทราบ แต่ผมได้ทดลองทั้งกรองแห้งและกรองเปียกแล้ว ยังไม่ได้สรุปว่าแบบไหนจะดีกว่า เพราะหมดไฟที่จะเล่นต่อ โดยปกติคาร์บูทุกรุ่นจะมีโช๊คอย่างที่คุณว่านั่นแหละครับ มันออกแบบให้มาใช้กับน้ำมัน ดังนั้น เมื่อมาใช้กับแก๊สผมเลยเปิดออกเพราะผมไม่ได้เจาะคาร์บู ถึงแม้เจาะคาร์บูก็ต้องปรับลิ้นผีเสื้อใหม่ให้อัตราส่วนผสมพอดี เมื่อมาใช้กรองปาซุก้า เวลาเครื่องเย็นก็เหมือนกับมีโช๊คเพราะอากาศจะเข้าน้อยเนื่องจากรูเล็กเปิดอยู่ เมื่อเร่งเครื่องรอบสูง ๆ รูเล็กจะถูกปิดและจะเปิดให้อากาศเข้าทางรูใหญ่ โดยเฉพาะถ้ายังปล่อยให้เป็นเดิม ๆ (หมายถึงหม้อกรองปาซูก้า) จะมีแท่งเหล็กคอยยันฝาให้อากาศเข้าทางรูใหญ่เมื่อเครื่องร้อน แต่ถ้าเครื่องเย็นเจ้าแท่งเหล็กนี้จะหดตัวทำให้ฝาปิดรูอากาศอันใหญ่ ที่เขียนมาเนี่ยงงรึเปล่าไม่ทราบ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #13 เมื่อ: วันอังคารที่ 16 ตุลาคม 2007 เวลา 11:38:58 »


ขอบคุณครับพี่อ๊อด ที่อธิบายมาก็พอเข้าใจ แสดงว่ากรองปาซูก้าเดิมๆ มันมีระบบที่ทำงานคล้ายๆโช๊คอีกชั้นหนึ่ง ก็ดีครับ

ส่วนเรื่อง "เมื่อเราใส่ Fix Mixer เข้าไปแล้ว ยังสามารถทำให้ อัตราส่วนผสมน้ำมันกับอากาศยังคงเดิมอยู่ได้ (อัตราเร่งเมื่อใช้น้ำมันยังเหมือนเดิม)" ถ้ามีเพื่อนสมาชิกท่านใดพออธิบายได้ รบกวนช่วยอธิบายเป็นวิทยาทานด้วยนะครับ เพราะคงมีคนอื่นที่ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #14 เมื่อ: วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2007 เวลา 09:30:15 »


ปัญหาอากาศน้อยในกรณีใช้น้ำมันหลังจากติดตั้ง Mixer เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ
เพราะทางเดินอากาศถูกลดขนาดเพื่อให้อากาศเดินทางเร็วขึ้นเพื่อสร้างสูญญากาศบริเวณหลัง Mixer
ต้องนึกภาพเอาหน่อย
เมื่ออากาศถูกดูดเข้ามาจากหม้อกรองจะเดินทางผ่านท่อด้วยความเร็ว สมมติว่าเท่ากับ 1
เมื่อถึงปากทาง Mixer ที่ทำให้ให้แคบลงอากาศจะเดินทางเร็วขึ้น(เหมือนบีบปลายสายยางเวลารดน้ำต้นไม้)
พุ่งข้ามส่วนคอดของ Mixer ไป ทำให้เกิดสูญญากาศบริเวณนั้น ทำให้ Gas ไหลออกมาผสมกับอากาศ
แต่จะทำให้โมเลกุลของอากาศบางส่วนจะมารอที่ปากของ Mixer ซึ่งจะต้านโมเลกุลของอากาศที่กำหลังไหลผ่านเข้าไป
(ถ้าบีบสายยางรดน้ำต้นไม้จะเห็นว่าท่อสายยางโป่งขึ้น จริงๆแล้วน้ำในท่อจะไหลช้าลง)
หลักการแก้ของผม อยู่ที่รูปร่างรูรีดอากาศของ Mixer
ในกรณีที่รูรีดมีลักษณะสมมาตร คือเป็นวงกลมเท่ากันทุกด้าน(เนื่องจากการกลึงเป็นวงกลม)
อากาศในจุดวิกฤตตรงส่วนที่แคบที่สุดจะมีความเร็วเท่ากัน ทำให้มีแรงต้านมากไหลไม่สะดวก
ทางแก้คือทำให้ไม่เท่ากัน โดยใช้กระดาษขัดให้เป็นเกลียวเฉียงๆ จากปาก Mixer ถึงรูรีด สามด้าน ไม่ลึกมากนัก
(ตอนขัดใช้สีเมจิกวาดรูปไว้ และรักษาส่วนโค้งของกรวยรูปปากแตรของ Mixer ให้มากที่สุด)
โดยคิดว่าจะบังคับให้อากาศบริเวณพื้นผิวของเกลียวเดินทางช้ากว่าบริเวณอื่น
ทำให้มีแรงต้านน้อยลง อากาศจะไหลเข้าได้ปริมาณมากขึ้น สะดวกขึ้น และน่าจะหมุนเป็นเกลียว
เพื่อให้อากาศผสมกับ Gas ให้มากที่สุดก่อนจะเดินทางเข้าสู่ปากคาร์บิวฯ
ถ้ามีโอกาสจะทำ Diagram ขึ้นมา

ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #15 เมื่อ: วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2007 เวลา 23:18:49 »


ฃอบคุณมากครับคุณ Zebre เป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมเลยครับที่นำหลักทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ได้ (แต่ผมก็ไม่ทราบว่าทฤษฎีนี้ หรือกฎข้อนี้ ชื่อว่าอะไรหลอกนะครับ ไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย คุณ Zebre พอจะบอกได้ไหมครับว่า เรื่องนี้อยู่ในวิชาใดครับ Afro)
ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณ Zebre มากเกินไป ช่วยถ่ายรูป Mixer ที่ขัดเป็นเกลียวอย่างที่ว่ามาให้ดูหน่อยได้ไหมครับ Shocked หรือถ้าเป็น Diagram อย่างที่คุณว่าก็แจ่มมากเลยครับ ขอบคุณครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #16 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2007 เวลา 08:20:45 »


Diagram ที่ 1
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #17 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2007 เวลา 08:39:27 »


Mixer เดิมที่ได้มาน่าจะเป็น Mixer สำหรับระบบหัวฉีดเพราะต้องการขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางด้านนอก
ให้เท่ากับขนาดท่ออากาศ ช่องรีดอากาศ ขนาด 24 มม. แนวลาดชันเป็นเส้นตรง
ให้โรงกลึง กลึงเหล็กใส่ด้านหน้าให้เต็มและกลึงเพิ่มความเอียงไปถึงปากทางเข้า
ต่อไปใช้ตะไบและกระดาษทรายขัดให้เป็นรูปโค้งคล้ายปากแตร เพื่อเพิ่มระยะทาง
และทำให้อากาศเดินได้สะดวกมากฃึ้น เพราะมุมสะท้อนจะลดลง(ถ้าเป็นเส้นตรงมุมสะท้อนจะเท่ากับมุมกระทบ)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #18 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2007 เวลา 08:52:00 »


Mixer บริเวณสีแดงเป็นส่วนที่ใช้เหล็กกลึงใส่เพิ่มเข้า เพราะเดิมเป็นรอยบาก(สำหรับสวมท่ออากาศ)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #19 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2007 เวลา 09:00:22 »


รอยบากด้านนอกที่เห็นกลึงใหม่ Mixer เดิมมีแต่รอยบากด้านใน(ให้ท่ออากาศใส่อยู่ในตัว Mixer)
แต่ท่ออากาศที่ดัดแปลงมาจากท่ออากาศของ IZUZU ขนาดด้านนอกเท่า ๆ กับ Mixer
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #20 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2007 เวลา 09:03:26 »


ภาพที่ประกอบแล้ว
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #21 เมื่อ: วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2007 เวลา 09:24:05 »


แนวคิดแรก
1. ปริมาณอากาศที่ผ่าน Mixer ของระบบหัวฉีดมีผลต่อการทำงานในระบบแกสโซลีนน้อยกว่าระบบคาร์บูเรเตอร์
เพราะคาร์บูเรเตอร์ถูกออกแบบให้มีช่องรีดอากาศในสร้างสูญญากาศสำหรับดูดน้ำมันไปผสมอากาศอยู่แล้ว
Mixer ของระบบหัวฉีดจึงออกแบบให้มีช่องรีดที่มีความชันมาก ในระยะทางสั้น ๆ
แต่สำหรับระบบคาร์บูเรตอร์ต้องการปริมาณอากาศใกล้เคียงกับของเดิมให้มากที่สุด
ยิ่งมี Mixer ไปเพิ่มความเร็วก่อนถึงปากคาร์บูเรเตอร์ จะทำให้ความเร็วของอากาศบริเวณ
ช่องรีดมีความเร็วสูงกว่าที่ออกแบบไว้ น้ำมันจะถูกดูดแรงขึ้นแต่ปริมาณอากาศน้อยลง
จึงเกิดอาการตื้อเหมือนอากาศไม่พอ
ในการติดตั้ง Mixer ผมจะลอง Mixer กับระบบคาร์บูเรตอร์จนใกล้เคียงของเดิมทั้งรอบเดินเบา และอัตราเร่ง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
เจ้าหอมแดง
สิงห์ประถม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 91



« ตอบ #22 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2007 เวลา 03:36:48 »


ขอบคุณ คุณ Zebre ครับ
ที่ผมเข้าใจคือ สำหรับคาร์บู ต้องพยายามเพิ่ม ส่วน A ให้ยาวๆ ใช่ไหมครับ

แล้วตรงที่บอกว่า "รูรีดมีลักษณะสมมาตร คือเป็นวงกลมเท่ากันทุกด้าน... ให้ใช้กระดาษขัดให้เป็นเกลียวเฉียงๆ จากปาก Mixer ถึงรูรีด สามด้าน " อันนี้เวลาดูรูปถ่ายจะมองไม่เห็นใช่ไหมครับ ความหมายคือ ต่างกันระดับ 1-2 mm. พอใช่ไหมครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

Knowledge Sharing is Power
zebre
สิงห์ปริญญาตรี
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 201


« ตอบ #23 เมื่อ: วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2007 เวลา 10:11:14 »


เล่าสู่กันฟัง
รูปร่างของ Mixer ที่ว่านั้นผมค่อย ๆ ปรับแก้ใช้เวลาหลายวัน
เริ่มจากเอารถไปให้ที่ร้านดูเพื่อติดตั้ง LPG หลายร้าน
ไม่มีร้านไหนรับทำ เพราะ รูปร่างปากคาร์บูเรเตอร์เป็นรูปไข่ ให้เจาะคาร์บูฯ ผมไม่เอาแน่
ผมคิดว่าคงมีวิธีหนึ่งคือต้องเปลี่ยนเอาหม้อกรองอากาศเดิมออก(ซึ่งยางครอบหมดสภาพนานแล้ว)
จนมีช่างคนหนึ่งกำลังซ่อมรถ IZUZU อยู่บอกว่าน่าจะใช้ท่ออากาศมาดัดแปลงได้โดยกลับด้านเอา
เป็นจุดเริ่มต้นของหนทางการใช้ 2 ระบบ
เมื่อเอารถไปให้ร้านติดตั้ง LPG ได้ Mixer อย่างที่บอกไปแล้ว
โดยช่างที่ติดตั้งเอา Mixer น่าจะเป็นของ Honda Accord โดยใช้รูปร่าง ขนาด ให้ใส่ท่อยางได้เป็นหลัก
ระบบ LPG ทำงานได้พอประมาณ แต่มีปัญหากับระบบGasoline ทันที คือ เร่งไม่ขึ้น มีอาการตื้อแบบอากาศไม่พอ
พอถอด Mixer ออกอาการก็หายไป
แต่ร้านที่ติดตั้ง LPG ไม่ใช่อู่ซ่อมรถจึงแก้ไขไม่ได้ จึงระบุสาเหตุว่าขนาดช่องรีดของ Mixer น้อยไป
ผมจึงเริ่มคิดปรับรูปร่างของ Mixer ใหม่ โดยกำจัดรอยบากด้านใน และเพิ่มความลาดเอียง
โดยกลึงเหล็กถมในรอบบาก และกลึงให้ลาดเอียงจากรูด้านในมาถึงปาก Mixer ด้านหน้า โดยยังไม่เพิ่มขนาดรูรีด
ลองใส่กลับเข้าไป ปรากฏว่าอาการตื้อลดน้อยลงแต่ยังไม่หายหมด เมื่อเร่งรอบสูงๆก็ยังมีอาการ
ตอนนั้นรูปร่างของช่องรีดยังเป็นแนวเส้นตรงทั้งหมด
จึงเริ่มปรับขนาด และรูปร่างของช่องรีดให้เป็นเส้นโค้งเพื่อให้อากาศไหลสะดวกขึ้น
(ปริมาณอากาศเคลื่อนที่ได้มากขึ้นในเวลาเท่ากัน)
เส้นโค้ง คือ รูปหลายเหลี่ยมที่มีระยะเส้นตรงด้านบนสั้นมาก ๆ ทำให้เกิดมุมสะท้อนหลายมุมในระยะทางที่เปลี่ยนไป
การเคลื่อนที่ของอากาศบริเวณพื้นผิวของช่องรีดจะมีมากขึ้น(เพราะโมเลกุลของอากาศจะสามารถเคลื่อนที่เข้าใกล้พื้นผิวมากที่สุด)
เมื่อทำเสร็จแล้วทำให้เร่งดีขึ้นทั้ง Gasoline และ LPG (ตอนนั้นขนาดรูรีดกว้างขึ้นด้วย)
ผมสรุปเอาเองว่ารูปร่าง ขนาดช่องรีด ระยะห่างระหว่าง Mixer ถึงปากคาร์บู มีผลต่อการทำงานของระบบไอดี
และมันน่าจะดีขึ้นอีกโดยสร้างความแตกต่างความเร็วของอากาศบริเวณช่องรีด
โดยเพิ่มช่องเข้าอีกสามทางโดยวาดแบบเป็นเส้นตรงก่อน แต่พบว่าถ้าตัดเส้นโค้งออกกลับกลายว่าอากาศจะเดินทางช้าลง
แต่ปริมาณอากาศจะเพิ่มขึ้นเพราะพื้นทีตรงปากมากขึ้น จึงคิดว่าให้เป็นเส้นโค้งน่าจะดีกว่า
ใช้กระดาษทรายขัดตามรอยสีเมจิกที่ร่างแบบไว้ ลึกไม่เกิน 1 มม. แล้วลองใส่กลับเข้าไป
ผลปรากฏว่าหมดอาการตื้อโดยสิ้นเชิง(ความจริงอาจจะเกิดจากขนาดรูรีดที่เพิ่มขึ้นมาก็เป็นได้)
สามารถเร่งเครื่องเปล่าได้เท่ากับการถอดกรองอากาศออก(เอาไปวิ่งจริงบนถนนไม่กล้าอัดเกิน 4000 รอบ)

โดยสรุปถึงผมจะปรับโดยใช้หลักจาก กลศาสตร์ของไหล แต่ก็ไม่ได้มีการคำนวณอย่างจริงจัง เป็นวิศวกะมากกว่า
ใช้การลองถูกลองผิดไปเรื่อย ๆ เป็นส่วนใหญ่

ระยะห่างระหว่าง Mixer ถึงปากคาร์บู
ผมเห็นช่างติดตั้ง LPG พยายามวาง Mixier ลงบนปากคาร์บูอย่างฯ มาก
เลยลองเอาMixerไปวางที่ปากคาร์บูแล้วเดินเครื่องด้วยน้ำมัน มีผลแตกต่างทันที แต่ไม่ได้ลองจริงจังอะไร
เพราะทำอย่างไรก็ไม่สามารถวาง Mixer บนปากคาร์บู P505 ได้อยู่แล้ว

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!