Vlovepeugeot ชมรมคนรักเปอโยต์ (เปอร์โยต์) ประเทศไทย  D.I.Y.
Pages: 123456789101112131415161718192021222324252627
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: wat_2667
วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2010 เวลา 16:03:36
...
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: -ssss-
วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2010 เวลา 16:49:54
ขอลายวงจร High Power Desulfator และ low power และอุปกรณ์ [email protected] จะลองทำดูจะทำได้หรือป่าวก็ไม่รู้
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: -ssss-
วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม 2010 เวลา 18:19:22
ผมขอดูรูปตัว High Power Desulfator หน่อยครับมีรูปหรือป่า่ว 12 v ครับ
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: stareggsp
วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2010 เวลา 18:57:18
 :ยินดี อุอุอุ:ขอจอง 2 อันพร้อมกล่อง ส่ง พ.ก.ง เก็บเงินปลายทาง
คุณ สรชัย พฤทธิเทพ
8/22 ซ.หัวหิน 24 ถ.เพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ  รหัสไปรษณีย์ 77110   โทร.0867006088
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 10:45:19
ผมก็ใช้รถฝรั่งเศสคล้ายกันใน เรโนลต์คลับ กำลังสนใจแบตรถยนต์เหมือนกัน
จากลักษณะรอบการชารต์ที่เหมาะสมที่คุณเอนกลงไว้ตามรูป


ผมก็พยายามหาเครื่องชาร์ทที่ให้กระแสไม่มากเกิน 10% จนหาซื้อมาได้จากจีนแดงมีลักษณะการชาร์ตใกล้เคียงกันดังรูป







Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 11:14:41




พอแบตเต็มก็มีวงจรช่วยทดสอบและค่อยๆลดการชาร์ตจนสิ้นสุด เป็นการป้องกันการ Over Charge ครับ

ส่วนวงจรที่ใช้เพื่อการสลายผลึกเกลือซัลเฟต ผมก็ลองประกอบเองบ้าง พร้อมปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น ทำกล่องให้เรียบร้อยหน่อยพร้อมกับมีสวิทซ์กดปิดเปืด สำหรับการจอดรถนานๆกันไม่ให้ตัวนี้คายประจุแบตรถยนต์จนหมดครับ มีหางปลาเสียบกะแบต มีฟิวส์ และมีชุดวงจรเผื่อต่อเชื่อมกะจอแสดงโวลต์



รูปข้างบนใช้ประจำกะรถ Optra ครับ ทำไว้หลายตัวหน่อยเดี๋ยวว่างๆจะถ่ายรูปมาลงครับ



Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 12:20:18


ก็ขอมาแจมกับคุณเอนกด้วยนะ ร่วมด้วยช่วยกัน อันนี้ก็ประกอบเองในไทยอะไหล่บ้านหม้อ 100% ตัว L ที่หายากนั้นซื้อมา 10 ตัวอาจมีของเสียสัก 1-2 ตัวนะครับ คืนของก็ไม่ได้ด้วย



รูปด้านบนเป็นตัวช่วยวัดแบตที่อาจสั่งมาไว้วัดสภาพแบตรถยนต์ เห็นว่าแสดงค่า CCA ได้ด้วย



สองรูปข้างบน เป็นตัววัดถพ น้ำกรดในแบตเตอรี ว่ามีสภาพใด หาก มันกลายเป็นเกลือมาก ถพ จะต่ำกว่า 1.25 มากๆ(แสดงสีแดง) แสดงว่าแผ่นธาตุแย่ลง หรือน้ำกรดจางไป(อาจจะเติมน้ำกลั่นมากไป)และถ้ามันสลายได้ดี ถพจะสูงขึ้นระหว่าง 1.25-1.30 (แสดงสีขาวหรือเหลือง และเขียว)  ราคา200-300บาท ที่ศึกษาภัณฑ์ หรือ ร้านฮาร์ทแวร์รถยนต์ ครับ
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: P205
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 17:00:08
 :ยินดี อุอุอุ:ข้อความโดย: toprasertก็ขอมาแจมกับคุณเอนกด้วยนะ ร่วมด้วยช่วยกัน อันนี้ก็ประกอบเองในไทยอะไหล่บ้านหม้อ 100% ตัว L ที่หายากนั้นซื้อมา 10 ตัว
           :หวัดดีค่ะ: ขอขอบคุณ toprasert ที่ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาอีก ผมก็สนใจมากแและเห็นมีผู้ต้องการก็มาก มีประโยชน์มากกับทุกๆๆฅน แต่เจ้าของกระทู้ว่ากำลังหาซื้ออุปกรณ์แล้วหายไปเลย วันนี้ท่านมานำเสนอต่อก็ดีใจมาก ความคิดเห็นของผมถ้าท่านทำแล้วก็บอกว่ามีผู้ใดต้องการผมว่ามีมากมาย แต่ผมว่าต้องขายเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอุปกรณ์และส่งเป็นธรรมดา ตั้งราคามาเลยครับ ผมว่าทุกคนยินดีต้องการแน่ๆๆ ขอขอบคุณอีกครั้ง และในวาระปีใหม่ 25541 นี้ ขอให้ท่านและครอบครัว จงมีแต่ความสุข สดชื่น สมหวัง ทุกประการ ร่ำรวยๆๆๆ โชคดี โชคดี โชคดี
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 19:12:21
จริงผมก็เสาะหาแผงวงจรตัวนี้จากหลายแหล่ง ของเมืองนอกเกือบ 2 พันก็มี ก็ปรึกษากะพรรคพวกที่อยู่ในกระทรวงงอุตสาหกรรม แล้วก็หาอาจารย์กะนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแถวบ้านนอก(กำแพงแสน)ที่มีตัว Osiloscope วัดด้วย ทำแล้วหลายอันสัญญานไม่ดี จนมากระทั่งตัวนี้ ต้นทุนปัจจุบันก็ราวๆ 500 บาทเศษ ครับ (แต่มีค่าชิ้นส่วนที่ใช้ไม่ดีคัดออกด้วย) ทำมากองๆอยู่สักเกือบ 40 ตัวที่ทดสอบผ่านแต่ยังประกอบลงกล่องและติดสวิทซ์ ได้ครึ่งเดียว หยุดปีใหม่คงประกอบเสร็จ คงจำหน่ายราคาไม่เกิน 600 บาท ครับ ค่าส่งต่อครั้งคงประมาณไม่เกิน 40 บาท (ส่ง PM ชื่อ-ที่อยู่ มา แล้วจะส่งเลขบ/ช ไป หรือ โทรมาพูดคุยได้ 081-8445917 ลุงโต ครับ)

กำลังพัฒนารุ่นถัดไปให้ทนขึ้นและรูปลักษณะดีขึ้นแต่ตั้งเป้าให้ต้นทุนถูกลงครับ
ประสงค์อยากให้มีรายได้เสริมให้นักศึกษาเป็นทุนทำโครงงานและเกิดประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
เพราะโครงงานหลักจะไปลงในรถใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย เป้าต้องการลดปริมาณตะกั่วที่ต้องส่งเข้า Recycle ในโรงงานแบต (ให้ใช้งานแบตให้นานที่สุด)
ดูรูปก่อนนะ

ที่ทำกองๆไว้ครับ ที่ว่ามีเกือบ 40 ตัวในวันนี้

ทำการเช็คตัวที่ทำงานได้อาจารย์มาลงทำโอฟรีตรวจงานเด็ก

เช็ครายตัว และ ตัวเป็นๆใกล้ๆ


นี่แหละตัววัดว่าผ่านหรือไม่ แสดงคลื่น พัลส์ที่สมบูรณ์ปานใด

พระรองก็ตัววัดสุขภาพแบต

แสดงกระแสไฟแบตที่จ่ายตอนสตาร์ทรถ เสปคกะสถานะปัจจุบัน

วัดโวลต์ และความต้านทานของแผ่นธาตุด้วย
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: Schap
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 19:44:09
ครั้งที่แล้วผมใช้ pana ได้ 2 ปี 11 เดือน(น้ำกลั่นไม่เคยขาด)
หากติดตั้งตัวนี้จะยืดอายุเพิ่มขึ้นมาน้อยแค่ไหน
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม 2010 เวลา 20:04:51
ทั่วไปตามตำรา Electrolysis ประมาณไว้ว่า 2-3 เท่าของอายุคงเหลือของแบต คง ทำให้แบตใหม่ๆ ไปได้สัก 4 ปีขึ้นไป ทั้งนี้สมมุตว่า
มีการดูแลน้ำกรดในแบตดีสม่ำเสมอ
มีสภาพไดชาร์ทเหมาะสมไม่เล็กเกินไปจนเกิดการดึงไฟจากไปใช้ในรถบ่อยเกิน หรือ
ไดชาร์ทไม่ใหญ่ไปจนเกิดการ over charge บ่อยๆ
มีการใช้รถสม่ำเสมอทำให้มีการชาร์ตแบตเต็มเสมอ ไม่เคยปล่อยให้มีการ discharge ต่ำกว่า 40%

นอกจากนี้ยังมีเรื่องปลีกย่อยอื่นๆด้วย ไว้จะหาเวลามาลงให้ครับ
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: 306i
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 10:00:12
หนุ่ย ครับ อาจารย์ ขอ 1 ชุด  081-8066704  โอนเงิน 602.00 บาทครับ
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 10:15:38
quote author=ekachai v link=action=profile;u=3651 date=1293588262]
ขอทราบประโยชน์ในการใช้งานแบบละเอียดหน่อยครับว่าทำอะไรได้บ้าง
[/quote]
1 ตัวที่ประกอบเองมีหน้าที่หลักคือเมื่อติดตั้งพ่วงกับแบตเตอรรีรถยนต์ และใช้งานรถยนต์ปกติ วงจรนี้จะใช้กระแสไฟเล็กน้อยของรถยนต์มาปรับคลื่นพัลส์(คลื่นกระแสไฟฟ้ากระเพื่อมทำให้การจับตัวของอนุมูลซัลเฟตกับตะกั่วที่แผ่นธาตุไม่เหนียวแน่น) จึงช่วยลดการก่อตัวของผลึกเกลือซัลเฟตเกิดได้ยากขึ้นที่แผ่นธาตุ จึงมีประโยชน์ดังนี้
- ช่วยให้แผ่นธาตุในแบตสะอาดไม่มีเกลือซัลเฟตขวางกั้นการทำปฏิกริยาเคมีในการปล่อยกระแสไฟ ในช่วงสตาร์ท
- ช่วยลดการแตกเสียหายของแผ่นธาตุเนื่องจากการทิ่มแทงของผลึกเกลือซัลเฟต
- ช่วยให้สารละลายกรดในแบตมีค่าความเข้มข้น/ความถ่วงจำเพาะ (ถพ) ไม่เปลี่ยนแปลงมาก และช่วยให้แผ่นธาตุคายความร้อนสู่สารละลายดีขี้น
ดังนั้นประโยชน์หลักจึงรักษาสภาพความสดใหม่ของแผ่นธาตุและรักษาสภาพสารละลายกรดให้เกือบคงที่

2 ใช้ร่วมกับเครื่องชาร์ทแบตขนาดเล็ก (ที่ไม่มีวงจร Desulfation) เพื่อเสริมการสลายเกลือตะกั่วซัลเฟตขณะชาร์ทแบต
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 10:28:25
ขอย้อนมาขยายความที่ต้นทางสักน้อยดังนี้


รูปด้านบน เป็นแบตเตอรี ครับ สังเกตว่าเขาเขียน MF ย่อมาจาก maintenance free (ไม่ต้องดูแล?) บางคนเรียก แบต......... แล้ว มันต่างกะแบตเตอรีเติมน้ำกลั่นไหม  แล้วแบตแห้งล่ะ
ตอบแบบย่อๆ
-แบตตะกั่วเติมน้ำกลั่นก็มีช่อง+ฝาให้เปิดตรวจเติมน้ำกลั่นได้ น้ำในสารละลายกรดจะระเหยได้ จึงต้องหมั่นตรวจระดับและความเข้มข้นของน้ำกรด  ทุกสองสัปดาห์  
-แบต MF จะมีฝาเปิดปิดเพื่อให้ร้านค้าเติมน้ำกรดลงไปได้แต่แทบจะไม่มีช่องให้ก๊าซ หรือไอน้ำออกมาได้ ไม่ต้องหมั่นตรวจเติมน้ำกลั่น
-แบตแห้ง จะไม่มีฝาเลยคนก็เข้าใจว่าไม่ต้องเติมอะไรเลย คงไม่มีการต้องมาเติมน้ำกรดน้ำกลั่น หรือว่ามันไม่มี คำตอบมีเหมือนกันครับ เขาเติมมาจากโรงงานแล้วปิดผนึกมาเสร็จ


รูปด้านบน โครงสร้างภายในทั่วไปของแบตเตอร์ชนิดตะกั่ว นักวิทยาศาสตร์เรียก "เซลล์สะสมไฟฟ้าแบบตะกั่ว"


รูปด้านบนเป็น   อะไรสักอย่าง เมื่อใช้ไฟแบตไปเรื่อยๆตัวเหลี่ยมมันจะมากขึ้น (มันคือ เจ้าตัวร้ายมีชื่อว่า ตะกั่วซัลเฟต และ มันเกิดได้อย่างไร ใครวางยา)
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 10:34:09

ทำไมน้องแบตบางรายไปก่อนทั้งๆที่อายุไม่ถึงปี      บางท่านก็บอกว่าเนี่ย 2 ปีกว่าแล้ว   บางท่านก็บอกตั้งแต่ออกรถมาจำไม่ได้กี่ปีแล้วยังไม่เคยเปลี่ยนแบต...........ว่าไปโน่น (Go So Far)  ได้ยินมานานแล้ว จนต้องไปค้นคว้ามา ดังนี้

ใช้และเก็บอย่างถูกวิธี
-แบตเตอรี่ ตะกั่วกรดจะไม่มีการจำว่า ก่อนชาร์จ แบตเตอรี่ มีประจุเหลืออยู่เท่าไรหรือเมมอรี่เอฟเฟค (Memory Effect) ต่างจากแบตเตอรี่ แบบนิกเกิลแคดเมี่ยม
-ถ้า แบตเตอรี่ มีประจุเต็มอยู่แล้วการนำไปชาร์จโดยการให้กระแสต่ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ แบตเตอรี่ จะไม่เสียง่าย
-มันไม่ชอบการคายประจุที่ลึกมาก ๆ (ใช้จนหมดแบต)โดยเฉพาะการคายประจุจนหมด(ต่างกันกะแบตมือถือนิเกิลแคดเมียมที่ชอบคายหมดกินอิ่ม) ทุกครั้งที่เราดิสชาร์จมันลึกมาก ๆ จะทำให้ความสามารถในการเก็บประจุของมันลดลง ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง กรณีนี้ก็เกิดได้ที่รถยนต์เช่น ไดชาร์จเริ่มเสื่อมจ่ายไฟมาแบตไม่พอและใช้มากเกิน หรือจอดรถดับเครื่องดูหนังฟังเพลงบ่อยๆ เป็นต้น

ดังนั้น ถ้าจำเป็นต้องใช้งานจน แบตเตอรี่ ประจุหมดบ่อย ๆ ควรป้องกันการคายประจุที่ลึกมากเกินไป โดยเลือกใช้ แบตเตอรี่ ที่มีขนาดใหญ่ ขึ้นความจุสูงขึ้น(แอมป์ชั่วโมงมากขึ้น) เพื่อไม่ให้ แบตเตอรี่ คายประจุลึกมากนัก  หรือไม่ก็หาเครื่องชาร์ตไฟแบตเล็กๆมาสักตัวแบบถูกๆหน่อย เบาๆกระเป๋า  (เดี๋ยวเจอกันห้องซื้อขาย)   เห็นไหมเริ่มเข้าประเด็นกระทู้แล้ว

อันนี้ใครตาลายง่ายๆ ก็ไม่ต้องอ่านก็ได้ ให้ไปดูรูปผลึกสีฟ้าข้างบนก็เข้าใจได้
การทิ้ง แบตเตอรี่ ตะกั่วกรดไว้เฉย ๆ เป็นเวลานาน แบตเตอรี่ จะคายประจุออกไปเรื่อย ๆ ด้วยตัวมันเอง (Self Discharge)
ถ้าไม่ชาร์จเพื่อเติมประจุให้กับ แบตเตอรี่ ผลึกของตะกั่วซัลเฟตที่เกิดขึ้นที่แผ่นธาตุลบจะรวมตัวกันแล้วมีขนาดใหญ่ขึ้น
ผลึกที่มีขนาดใหญ่นี้จะไปขัดขวางการไหลของกระแสทำให้กระแสไหลได้น้อยลง
ส่งผลให้ แบตเตอรี่ จ่ายกระแสให้กับโหลดได้น้อยลง
นอกจากนี้ผลึกที่มีขนาดใหญ่จะมีเหลี่ยมหรือมุมที่คมและแหลม
ในกรณีที่ร้ายแรงอาจจะทิ่มจนแผ่นธาตุทะลุได้
ทำให้ แบตเตอรี่ เกิดการลัดวงจรขึ้นภายในเราจะเรียกปรากฎที่เกิดผลึกขนาดใหญ่ของตะกั่วซัลเฟตนี้ว่าการเกิดซัลเฟชั่น (Sulphation or Sulfation นั่นเอง)

ไม่ใช้รถนานๆ ไม่ควรคาแบตไว้ในรถ ให้ดีปลดขั้วลบออก แล้ว ชาร์ทเดือนละครั้งให้เต็ม
การเกิดซัลเฟชั่นจะยิ่งง่ายขึ้นถ้าทิ้ง แบตเตอรี่ ไว้โดยที่มันมีประจุเหลืออยู่น้อยหรือไม่เหลืออยู่เลย
ดังนั้นจึงควรเก็บแบตฯ ไว้โดยการชาร์จให้ประจุเต็มอยู่เสมอ
โดยอาจจะชาร์จเติมประจุโดยใช้กระแสต่ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเรียกว่าทริกเกิลชาร์จ หรือโฟลทชาร์จ
ซึ่งการชาร์จแบบนี้มักจะพบในระบบสำรองไฟฟ้าหรือระบบไฟแสงสว่างฉุกเฉิน (แบบ ยูพีเอส สำหรับ คอมพิวเตอร์)

ชาร์ทแบบเร็ว กะแบบช้าอะไรดีกว่ากัน / คำว่า"ช้าๆได้พร้าเล่มงามไง"
ไปชาร์ทตามร้านขายแบต หรือ dilivery แบบส่งเช้าเที่ยงไปเอาน้ำกรดแตกฝอยกระเด็นล้นออกมา นั่นแหละพังไว (จะได้ไปถอยลูกใหม่ไวๆด้วย)
การชาร์จแบตฯ ตะกั่วกรดโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 8-16 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของแบตฯ) หรืออัตราสูงกว่า 10% ความจุของแบต เช่น แบต50แอมป์ชั่วโมง ก็ต้องชาร์ทสัก 4-5 แอมป์ต่อชั่วโมง
โดยแบตฯ แบบแห้งจะชาร์จได้ช้ากว่าแบบเปียก เพราะจะต้องลดอัตราการชาร์จลงเพื่อไม่ให้เกิดแก๊สขึ้นภายในเซลส์มากเกินไป การสะสมของแก๊สจะทำให้ความดันภายในเซลส์สูงขึ้น ทำให้สูญเสียอิเล็กทรอไลต์ไปจากการระบายแก๊สหรือน้ำออกทางรูระบายหรือเซฟตี้วาล์ว หรืออาจทำให้แบตฯ ถึงขั้นแตกเสียหายได้ถ้าชาร์จเร็วสูงทำให้ความดันสูงไปด้วยจนเซฟตี้วาล์วระบายความดันไม่ทัน
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: Schap
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 10:45:27
อ้างจาก: toprasert ที่ วันอังคารที่ 28 ธันวาคม  2010 เวลา 20:04:51
ทั่วไปตามตำรา Electrolysis ประมาณไว้ว่า 2-3 เท่าของอายุคงเหลือของแบต คง ทำให้แบตใหม่ๆ ไปได้สัก 4 ปีขึ้นไป ทั้งนี้สมมุตว่า
มีการดูแลน้ำกรดในแบตดีสม่ำเสมอ
มีสภาพไดชาร์ทเหมาะสมไม่เล็กเกินไปจนเกิดการดึงไฟจากไปใช้ในรถบ่อยเกิน หรือ
ไดชาร์ทไม่ใหญ่ไปจนเกิดการ over charge บ่อยๆ
มีการใช้รถสม่ำเสมอทำให้มีการชาร์ตแบตเต็มเสมอ ไม่เคยปล่อยให้มีการ discharge ต่ำกว่า 40%

นอกจากนี้ยังมีเรื่องปลีกย่อยอื่นๆด้วย ไว้จะหาเวลามาลงให้ครับ
ปัจจัยน้ำกลั่นนั่นดูได้
ส่วนเรื่องใดชาร์ทตรงรุ่น (70 แอมป์) ถือว่าเหมาะสมเปล่า
over charge ดูอย่างไร
กลัวเวลาอายุสั้นร้านแบตมักจะบอกกว่าปกติก็แค่นี้ หรือไม่ก็อ้างเหตุที่ตรวจไม่ได้ เช่น ติดเครื่องเสียง,ไดร์,ระบบไฟ ว่าไม่ดี
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 12:19:39
อ้างจาก: เปี๊ยก&Snow ที่ วันพุธที่ 29 ธันวาคม  2010 เวลา 10:45:27
ปัจจัยน้ำกลั่นนั่นดูได้
ส่วนเรื่องใดชาร์ทตรงรุ่น (70 แอมป์) ถือว่าเหมาะสมเปล่า
over charge ดูอย่างไร
กลัวเวลาอายุสั้นร้านแบตมักจะบอกกว่าปกติก็แค่นี้ หรือไม่ก็อ้างเหตุที่ตรวจไม่ได้ เช่น ติดเครื่องเสียง,ไดร์,ระบบไฟ ว่าไม่ดี
ไดชาร์ทขนาดนั้นก็ใหญ่พอสำหรับใช้งานในรถได้เต็มที่ แบบเผื่อไว้แล้ว
ส่วนจะดีแค่ไหนต้องหมั่นวัดโวลต์ที่ตอนติดเครื่องยนต์ตรงไฟเข้าแบตให้ปกติ 13.5 ถึง <14.5 โวลต์นะ
หากโวลต์เกินหรือเกิดการ Over Charge สังเกตง่ายสุดแบตจะเดือดและร้อน ดังนั้น น้ำกรดในแบตจะแห้งไว หรืออาจมีการไหลทะลักออกจากแบตตรงท่อหายใจ ครับ
เราควรให้มีการชาร์ทแบตให้เต็มเสมอหรือแวะร้านแบตให้เขาวัด ค่าโวลต์ ความต้านทานแบต CCA และ แบต condition บันทึกไว้ประจำ จะทำให้ทราบแนวโน้มสุขภาพแบตได้เองล่วงหน้า (ผมใช้ตัวเหลืองๆข้างบน)

ท้ายนี้แถมท้ายอีกสองเรื่อง

อ้างจาก: chillee ที่ วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน  2010 เวลา 10:02:03
คือความร้อนของแบตตอนทำงาน หรือความร้อนในห้องเครื่อง อย่างไหนน่าจะมีผลต่อการระเหยของน้ำกลั่นในแบตมากกว่ากันครับ

ข้างบนเป็นคำถามจากในคลับ Nissan march

อุณหภูมิกับอายุการใช้งาน          อุณหภูมิที่เหมาะสมในการใช้งานอยู่ที่ 25 องศาC (77 ฟาเรนไฮต์) อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 8 องศาC (15 ฟาเรนไฮต์) จะทำให้อายุการใช้งานของแบตฯลดลงครึ่งหนึ่ง เช่น แบตเตอรี่ แบบ VRLA จะมีอายุถึง 10 ปีที่อุณหภูมิ 25 องศา Cแต่จะลดลงเหลือ 5 ปี ที่อุณหภูมิ 33 องศาC (95 ฟาเรนไฮต์) และอายุเหลือไม่ถึง 1 ปีที่อุณหภูมิ 42 องศาC (107 ฟาเรนไฮต์) นอกจากนี้มันยังทำงานได้ไม่ดีในที่อุณหภูมิต่ำอีกด้วยอุณหภูมิที่ลดต่ำลงจะทำให้แบตฯ เก็บประจุได้น้อยลง ความจุของ แบตเตอรี่ จะลดลง 50 % ทุกๆ อุณหภูมิที่ต่ำลง 12 องศาC (22 ฟาเรนไฮต์) ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมในตอนเช้าที่อากาศเย็นเราถึงสตาร์ทรถติดได้ยากแต่การใช้งานที่อุณหภูมิต่ำก็จะทำให้อายุการใช้งานของมันยาวนานมากขึ้นด้วยเช่นกัน

อุณหภูมิห้องเครื่องอ่านถึงตรงนี้เมื่อนึกถึงในห้องเครื่อง ต้องพูดถึงอุณหภูมิอากาศนะ ไม่ใช่โลหะห้องเครื่องหรืออุณหภูมิท่อเฮดเดอร์
ประมาณการว่าเครื่องยนต์มีประมาณ 100 เซลเซียส เฮดเดอร์ มากกว่านั้น แต่อากาศในห้องเครื่องก็มีอุณหภูมิเปลี่ยนไป
-ยามรถวิ่งผ่านอากาศ เช้า กลางวัน เย็น หรือกลางคืน เชื่อไหม ยากมากที่จะสูงเกินกว่าอุณหภูมิอากาศรอบข้างเกิน 5-10 องศา
-แต่จะร้อนยิ่งขึ้นยามใช้รถติดที่มีการจราจรคับคั่ง (รถไม่เคลื่อนตัว) และร้ายกว่านั้นเมื่อพัดลมไม่ดี เครื่องฮีท เหล่านี้ทำให้อุณหภูมิ ห้องเครื่องสูงไปด้วย
-ขณะที่เครื่องยนต์ทำงานจะมีอุปกรณ์หนึ่งทำหน้าที่ปล่อยกระแสไฟ ส่วนหนึ่งมาที่แบตเตอรี่ ตรงนี้ก็อีกหากขนาดแบตกะไดชาร์ทไม่ใหญ่มาก มีกำลังไฟเหลือมาที่แบต สัก 5-10 แอมป์ ก็ไม่ทำให้แบตร้อนขึ้นเท่าไหร่  แต่บางคนไปขยายไดชาร์ท กะว่าเหลือดีกว่าขาดก็ทำให้เกิดการชาร์ทไว และชาร์ทเกินบ่อยๆ ตรงนี้แหละที่แบตโดยเฉพาะน้ำกรดในแบต จะร้อนขึ้นอีกโขโดยไม่จำเป็น

จากที่โปรยข้างบน ผมให้คะแนนอุณหภูมิห้องเครื่อง เป็นลำดับแรกที่มีผลต่ออายุใช้งานแบต
แต่ถ้ามีผลต่อการสูญเสียน้ำกลั่นโดยการระเหย ผมให้คะแนนความไม่พอดี-สมดุลย์ของระบบกำลังไฟในรถมากกว่า เพราะเดี๋ยวก็ดึงไฟจากแบตไปใช้โน่นนี่ เดี๋ยวก็ชาร์ท และชาร์ท ตลอด ตอนนี้แบตก็ร้อนก็อุ่น  แถมมีพรายฟองแก๊ส ไฮโดรเจนด้วยตอนไฟชาร์ท จะพาละอองน้ำให้ระเหยไปพร้อมๆกัน

สรุปสำหรับสังเกตก็แล้วกันนะ หากแบตเราน้ำกลั่นแห้งไว มันก็ฟ้องแล้วว่ารถเราใช้ไฟมากเกินและไดชาร์ทเล็กไปหรือไม่
เราต้องมาคิดแล้วว่าไดชาร์ทแอมป์น้อยไป แต่อย่าให้สูงเกินไปมากๆ ไม่งั้นแบตเต็มแล้วก็ไฟเหลือๆยังจะชาร์ทแรงๆอีก และไม่มีตัวตัดก็เกิดการ โอเวอร์ชาร์ท  ไปหาช่างมาได้แล้ว ก่อนที่แบตจะลาโลกไว

แค่นี้ก่อนนะ ว่างๆจะมาปรุงแต่งเติมต่อ ให้เข้าใจง่ายขึ้นกระชับขึ้น ถึงตรงนี้หากขับมาไกลๆและจอดที่มั่นใจว่าไม่มีโจรขโมย ผมจอดปั๊บ ดับเครื่อง ยกฝากระโปรงโชว์ห้องเครื่องทันที

เมื่อต้นเดือนนี้ ได้ MSN กะสมาชิก ท่านถามถึงเรื่องแบตเตอรีรถยนต์ ไปยกรถดูข้อบกพร่อง ตัวรถบางประการ กลับพบว่าซุ้มล้อหน้าซ้ายโดยเฉพาะล้อแม็กลายพร้อย พบเหตุว่าเป็นเพราะน้ำกรดจากแบต ทะลักออกมาจากท่อหายใจ แบตเดือดครับ

ลักษณะแบตเดือดก็คือ เครื่องยนต์ทำงาน ไปสักพักหรือขับมาจอดแต่ยังไม่ดับเครื่อง ดูที่แบตเตอรี ที่ข้างๆมีหลอดใสๆ คือท่อหายใจแต่มีน้ำกรดคาอยู่หรือไหลทะลักล้นออกมา 
เมื่อเปิดจุกทั้ง 6 เพื่อดูอาการน้ำกรดภายในฟองแก๊สพรั่งพราวออกมาปูดๆ ราวกับต้มน้ำ และแบตจะร้อนผิดปกติจากภายในแผ่นธาตุ   เมื่อเอาโวลต์มิเตอร์วัดจะได้ค่าสูงกว่า 14.5 โวลต์ ครับบ้างก็ทะลุไป 15 หรือ 15.5 ขึ้นไป   ก็ได้คำตอบเศร้าๆแล้วครับว่า  เสียใจ

- อาการเริ่มต้น อาจจะ มีการลดลงของระดับน้ำกลั่นเร็วผิดปกติ เช่น ทุกอาทิตย์ต้องเติมน้ำกลั่น เดือนหนึ่งต้องมีหมดขวด
- อาการถัดมาก็มีค่าถพ ของน้ำกรดเจือจางลงเรื่อยๆ พร้อมกับมีการอ่อนลงของกำลังแบต ไม่ว่าจะขึ้นกระจกไฟฟ้า สตาร์ทยืด หรือ ไฟหน้าหรี่ๆ (ขณะที่เครื่องยนต์ยังไม่ทำงาน)
- แม้บางท่านจะเปลี่ยนแบตลูกใหม่ในกรณีแบตเสื่อมไปแล้ว แต่ใช้ไม่นาน พร้อมๆ กับการเสียหายแปลกๆ เช่นฟิวตัวนั้นนี้ขาดประจำ หลอดไฟขาดบ่อย ฯลฯ

ฟันธงครับว่า Generator (นักวิชาการทั่วไปเรียกสำหรับเครื่องแปลงกำลังงานกลจากการหมุน เป็นกระแสไฟฟ้า-หรือ เครื่องปั่นไฟฟ้า) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ไดชาร์ท เริ่มเสื่อมแล้ว
ที่ตัวควบคุมแรงเคลื่อน หรือ Voltage Regulator ที่ติดตั้งอยู่กับ ไดชาร์ท(คนไทยมักเรียกกัน) ตัวนี้เกี่ยวข้องกะแบตเตอรีก็ตรงที่นอกจากจ่ายไฟให้ระบบรถยนต์ทั้งคันแล้ว ยังทำหน้าที่ชาร์ท แบตรถยนต์ด้วย

ภายในตัว generator นี้จะมีวงจรแปลงกระแสไฟฟ้าสลับให้เป็น กระแสไฟตรงและมีช่วงแรงเคลื่อน(โวลต์)ที่กำหนด ตัวนี้อยู่ติดเป็นอุปกรณ์แนบกันกับ ไดชาร์ท ตัวแปลงและตัวควบคุมแรงเคลื่อน-แรงดันไฟฟ้า หรือ Voltage Regulatorนี่แหละเสียหาย ตัวนี้หากช่างไฟฟ้าทั่วๆไปจะเรียกว่า Diode ไดโอด ครับ (ตรงนี้แหละที่ร้านซ่อมไดชาร์ท อาจจะรับซ่อมให้ถ้า หมดประกันหรือซื้อใหม่แพงไป - หรือช่างไฟฟ้าที่บ้านหม้อก็จัดหาเปลี่ยนให้ได้)

ตัวไดโอดนี่แหละที่เป็นตัวปัญหาของรถหลายๆค่าย-รุ่น  และก็เป็นตัวที่ทำให้ร้านขายไดชาร์ท(ที่ไม่มีจรรยาบรรณ)ตั้งตัวได้....................
หากไม่จัดการไดชาร์ทให้จ่ายไฟอย่างเหมาะสมนะ อีกไม่นานนอกจากแบตจะมีอายุสั้นแล้ว อื่นๆ ก็จะพังตามมาเป็นทิวแถว

สรุปการตรวจสอบ
1. อัตราการ Charge แรงเคลื่อนไฟฟ้าจาก Generator ว่าอยู่ในค่าปกติหรือไม่ ตรวจโดยใช้ เครื่องวัดโวลต์ โวลต์มิเตอร์หรือมัลติมิเตอร์ ขณะเครื่องยนต์ทำงาน
คือ ค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าอัตราการ Charge ไฟฟ้าเข้าหม้อ Battery ซึ่งค่าปกติการชาร์ทจะต้องอยู่ที่ประมาณ 14-14.5 V หากต่ำกว่านี้ หรือสูงกว่านี้ ผิดปกติที่ ไดชาร์ท

2. ค่าความถ่วงจำเพาะของน้ำกรดใน Battery ว่าอยู่ในค่าปกติหรือไม่ วัดขณะที่แบตฯเย็น และมีระดับน้ำกรดในแบตปกติ สูงกว่าแผ่นธาตุประมาณ 1 ซม
คือ ค่า ถ.พ. ของ Battery อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน มาตรฐานคือ 1.25-1.30 หรือตามเครื่องวัดถพ ไม่แสดงที่แถบเหลืองและเขียว แต่แถบแสดงสภาพของ Battery อยู่ในแถบสีแดง ซึ่งหมายความว่า Battery ลูกนี้ได้เสื่อมสภาพไปแล้วนั่นเอง

สาเหตุที่ Battery เสื่อมสภาพก็เนื่องมาจากที่ Generator ได้ทำการ Charge ไฟฟ้าเข้า Battery เกินความต้องการ และไม่ทำการควบคุมแรงเคลื่อนไฟฟ้าให้อยู่ตามค่ามาตรฐานนั่นเอง จึงทำให้ Battery มีพรายก๊าซไอโดรเจนขึ้นมากและเร็วเกินไป รวมทั้งมีความร้อนที่แผ่นธาตุมากเกินไป แผ่นธาตุภายในหม้อ Battery จึงเสื่อมสภาพ และเมื่อมันร้อนมากและมีฟองก๊าซ น้ำกลั่นและน้ำกรดภายในหม้อ Battery จึงขยายตัวและถูกดันออกมาทางช่องระบายน้ำกรด และก็ไหลลงสู่ด้านล่าง และในขณะที่รถวิ่งไปด้วยความเร็ว  เจ้าน้ำกรดที่ไหลออกมานั้นก็กระเซ็นไปโดนชิ้นส่วนต่างๆ ใต้ท้องรถยนต์ ทำให้เกิดการกัดกร่อนชิ้นส่วนที่เป็นโลหะใต้ท้องรถยนต์เสียหายได้ ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ และถ้าไม่ทำการแก้ไข Battery อาจจะเกิดระเบิดและจะยิ่งสร้างความเสียหายแก่ชิ้นส่วนที่อยู่ภายในห้องเครื่องอีกมากมาย



Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: P205
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 15:32:14
  :มอบดอกไม้:ข้อความโดย: toprasert กำลังพัฒนารุ่นถัดไปให้ทนขึ้นและรูปลักษณะดีขึ้นแต่ตั้งเป้าให้ต้นทุนถูกลงครับ ประสงค์อยากให้มีรายได้เสริมให้นักศึกษาเป็นทุนทำโครงงานและเกิดประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมเพราะโครงงานหลักจะไปลงในรถใช้พลังงานไฟฟ้าด้วย เป้าต้องการลดปริมาณตะกั่วที่ต้องส่งเข้า Recycle ในโรงงานแบต (ให้ใช้งานแบตให้นานที่สุด) :หวัดดีค่ะ:
          :ยินดี อุอุอุ:ขอขอบคุณที่ได้อธิบายเรื่องต่างมากมาย เรื่องราคาผมไม่เคยติดใจ   ถูกต้องแล้วครับ ชอบที่สุดคือคำตอบอันนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประชากรของโลกมาก และอีกอย่างผมอยากให้นักศึกษาที่ได้คิดพัฒนา สิ่งต่าง ที่คิดทำได้ ได้มีโอกาสได้แสดงความสามารถ ให้สังคม ได้รู้ ได้เห็น ได้ใช้ ที่แท้จริง มิใช่ตอบอยู่แต่ในสมุด หรือมีข้อมูลอยู่ในสถานศึกษาเท่านั้น ผมไม่มีความรู้เรียนไม่สูงแต่เฝ้าดูการศึกษาของพลเมืองไตยเรามานานแล้ว สิ่งที่นึกศึกษาที่เขาเรียกว่า เขียนทำปริญญานิพลส่งอาจารย์ค้นคว้าหาแทบตาย พออาจารย์ตรวจผ่านสอบเสร็จเป็นเล่มๆๆๆ เรียบร้อยแล้วก็เก็บเข้ากรุไม่เห็นใครเอาไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงเลย ที่จริงคนไตยเราเก่งมากมายไปแข่งวิชาอะไร...........โอลิมปิ๊กๆๆๆๆๆๆชนะมามากมาย  เหรียญอะไรต่ออะไรเป็นกะปุง ว๊าก แต่ประเทศก็อยู่เหมียนเดิม ตอนนี้ประเทศลาวเขาใช่ อะไร G3 G4 จะGอะไรต่อไปถึงใหนแล้ว ไปโลด เมืองเรายังไม่ได้สักกะ  จี้ G เลย :เอิ๊กๆๆๆ:คลานยิ่งกว่าเต่าล้านปี คิดแล้วเบื่อ ถ้ารู้ว่าประเทศเป็นอย่างนี้ไม่มาเกิดเมืองนี้หรอก ไปเกิดเมืองอื่นดีก่า โหไม่นะ :เหนื่อยร้อน: ไม่สบายๆๆๆๆ
         

Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: toprasert
วันพุธที่ 29 ธันวาคม 2010 เวลา 17:40:52
ใจร่มๆครับ  บ้านเรามีอิสระทางความคิดเยอะสมกะชื่อประเทศ "ไม่ยอมอยู่ใต้ความคิดใคร"  ก็ทำให้คิดแตกต่างกันไปนานา
พอจะลงมือทำก็ มีอะไรๆมาพ่วงเยอะ 
ให้ง่ายก็ทำสิ่งเล็กๆ และทำตัวให้เล็กๆ แต่ทำใจให้กว้างๆ
ส่วนสิ่งใหญ่ๆ อย่าว่าแต่สำเร็จเลย แค่เริ่มก็ยากแล้ว

สามจี มี แต่ไม่ได้ใช้ (ซะที) ผมเล็งว่าปลายปี ห้าสี่ นั่นแหละ คงมองเห็นเงา

ผมคิดแบบ Small but beauty จิ๋วแต่แจ๋ว  เพราะลงมือได้เลย ครับ ไม่อยากฝ่าด่านคนใหญ่คนโต
Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่าน By: P205
วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2011 เวลา 20:40:25
 อือๆๆ :........:หลังจากที่ผมได้อ่านกระทู้Re: ยืดอายุแบตเตอรี่ของท่านAnek ผมมีความสนใจอย่างมาก และลอคอยอุปกรณ์ชนิดนี้จากท่านเจ้าของกระทู้มานานท่านก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอย่างใดเพิ่มเติม อะไร เพราะแบตเตอรี่ของผมมัน 2 ปีก่าแล้วกลัวมันจะกลับบ้านเก่าและเสียกะตังมาก :เข้ม: พอท่านข้อความโดย: toprasert มานำเสนอจึงมีความสนใจมาก :โอ้ววววววววววว:เลยพอภาระหน้าที่ปีใหม่๒๕๕๔ เบาลง จึงรีบโทรติดต่อนัดคุณโตไปทันทีเมื่อวานนี้  และวันนี้จึงไปพบกันที่อู่คุณอาดำริห์ และถือโอกาสไปสวัสดีปีใหม่คุณอาทั้งสอง ขณะที่คุณโตยังมาไม่ถึง ก็คุยถึงเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย และเอาเหรียญSCALAR ทดลองให้ท่านดูว่ามันมีประโยชน์ดีสำหรับผู้สูงอายุ เพียงคุยให้ฟังเท่านั้นท่่านบอกให้ช่วยซื้อให้ 2 อันเลยแต่ผมบอกว่าผมไม่ได้ทำธุรกิจน๊ะก็รับปากท่านว่าจะช่วยไปซื้อมาให้ท่านก็ยินดี คุยไปสักพักคุณโตก็ได้ขี่รถ...........Huh?จักรยานสองล้อแต่งตัวเหมือนพวกนักขี่จักรยานอาชีพเลย รถสวยมาก แล้วเอาอุปกรณ์ที่ท่านเสนอขายมาติดตั้งไม่ยากเพียงเอาสายแดงเข้าขั้วบวก สายดำเข้าขั้วลบ ของขั้วแบตเตอร์รี่ทั้งสองนั่นเอง แค่นี้ก็จบ ในราคาที่ท่านแจ้งไว้ในเว็บฯนี้แหละ(บ้านท่านอยู่ใกล้กับอู่คุณอาริห์) เสร็จเรียบร้อยมานั่งคุยกันตั้ง 2 ชั่วโมง คุยกันอย่างถูกคอ  ท่านก็บอกว่ารูปร่างไม่ค่อยสวยนะ แต่ผมบอกว่ารูปร่างไม่สำคัญ สำคัญที่คุณภาพมากกว่า ผมชอบเป็นนักทดลอง ใครว่าดีถ้ากะตังสู้ได้ก็สู้ทันที  ถูกต้องแล้วครับ และตามวิธีใช้ผมอยากให้คุณโตช่วยพัฒนาเรื่องสวิทที่ปิดเปิดไฟให้อยู่ที่คอลโซลอีกนิดจะสมบูรณ์และสดวกยิ่งขึ้นนะครับ ขอขอบคุณ คุณโตมากครับ :ยินดี อุอุอุ: จึงมาเล่าให้ท่านที่ยังไม่มีได้พิจารณาครับผม แค่นี้ก่อน สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ ขอให้ทุกๆๆท่านและครอบครัว จงมีแต่ความสุข สดชื่น สมหวัง ทุกประการ ร่ำรวยๆๆๆๆ โชคดี โชคดี โชคดี