เอาใจวัยรุ่นหน่อย รอนานเดี่ยวลงแดง
วันนี้มาว่ากันด้วยรุ่นแบบของ 205 นะครับ
ในบ้านเราตัวหลักก็คือ 205 GR 5 ประตู อีกรุ่นก็ 205 GTI ซึ่งจริงๆแล้วฉลากข้างประตูแปะไว้เป็นรุ่น SI ซึ่งจะว่าไปโดยรวมหน้าตาก็ไม่แตกต่างกัน
จะต่างกันตรงช่วงล่างที่มีการปรับโน่นนิดนี่หน่อย GTI ตัวนอกจะมี เอ-อาร์ม เสริมด้านหน้า ตรงโช๊คหน้าจะเป้นแบบมีจุดยึดเหล็กค้ำยัน
ส่วนรุ่น SI จะเป็นช่วงล่างแบบธรรมดาเหมือนรุ่น ห้าประตู ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ปัญหา อะไหล่จากญี่ปุ่นของเพียบหาให้เจอก็แล้วกัน เพราะพี่ยุ่นใช้แต่ GTI
ส่วนรุ่นแบบอื่นๆ ก็มี อาทิเช่น
205 สามประตู Hatchback (ที่ไม่ใช่ GTI นะครับ) แยกย่อยออกไปตามเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง Junior/XE/Look/Style/Base/XL/XL Auto
205 CJ หรือ CTi เปิดประทุน หลังคาผ้าใบ คันนี้ออกแบบและโมดิฟายโดย ฟินินฟารินา สวยโหดคลาสิคแบบเลดี้ กาก้า!!!
นอกจากนี้ก็ยังมี 205 รุ่นพิเศษ รุ่นที่ระลึก (ทำยังกะพระเครื่อง) อาทิเช่น
205 Miami Blue และ Sorento Green สีพิเศษพร้อมเบาะหนัง
205 The Gentry ภายในบุหนังแท้ ทั้งคัน
205 The Griffe ฟลูออพชั่นทุกอย่างที่มีขายในขณะนั้น ยกเว้นแอร์ !!! ABS, Sunroof, Powersteering สีพิเศษ Laser Green
205 The 1FM ฉลองวันเกิดวิทยุชุมชน BBC Radio1 เพียง 25 คันเท่านั้น ออฟชั่นครบทุกอย่างรวมทั้งแอร์ แถมแถบทองเหลืองสลักหมายเลข ตอกโค๊ด ซีเรียลนัมเบอร์ กันปลอม?
205 Rallye ตอนแรกกะให้เป็นทางเลือกสำหรับพวกรสนิยมสูงรายได้ต่ำ คือตัว GTI ลงเครื่อง TU24 1,300 แต่แต่งแคมชาร์ฟ ใส่เวปเบอร์คู่ รีดออกมาได้ 102 bhp ที่ 6800 รอบ
ที่น่าสนใจคือ พี่ท่านถอดวัสดุสิ้นเปลืองออกเกลี้ยง แผ่นกันเสียง ระบบไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ลดน้ำหนักก่อนขึ้นชกเหลือ 794 ก.ก. ว่ากันว่าเป็น 205 รุ่นที่ขับยากมั่กๆ
ให้อารมณ์แรลลี่แท้ๆ ดิบกว่า ลาบเลือด ซกเล็ก อีสาน
ตัว Rallye นั้นไปๆมาๆ ดันกลายเป็นว่าเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับพวกซาดิสม์ ออโต้อีโรติก ซึ่งในปัจจุบันก็หายากมากเพราะขับไปพังไป ทั้งๆที่ผลิตมาถึง 30,000 คัน
แถมมีให้เลือกแค่สองสี ขาวกับเหลือง ขายเฉพาะในยุโรบ ยกเว้นในเยอรมันเพราะเครื่องพันสามแรงไม่พอวิ่งบนออโต้บาห์น ต้องวางเครื่องรุ่นใหม่เครื่องพันเก้า 105 bhp ซึ่งก็มีขายเพียง 1,000 คัน หายากถึงยากที่สุด
ส่วนเครื่องยนต์ 205 จริงๆแล้วมีมากกว่า 20 แบบทั้งเบนซิน และดีเซล ใช้แบตเตอรรี่ไฟฟ้าก็ยังมีเลย ไล่มาตั้งแต่ 954 c.c. 44 แรงม้า ไปจนถึง เครื่อง 1900 XU9JA 126 แรงม้า
อันนี้แบบ แตนๆ จากดรงงานนะครับ ยังไม่ได้โม
สเตปเทพ ก็มี '16V' Peugeot/Citroen (XU9J4 Type D6C / XU9J4Z Type DFW) ที่ใช้ในตัว Citroen BX 19 GTI 16V หรือ 405 Mi16
สเตปมาร ก็ติดเทอร์โบ หรือซูเปอร์ชาร์ท เข้ากับเครื่องเดิมที่ว่า ก็ขึ้นไปสองร้อยแรงม้า...กับอีกสามแรงโม้
แต่ถ้าสเตปมารแบบพี่ไทยก็วาง เครื่องเจแปน ไปเลย ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของสาวก 205 เท่าไหร่ หาว่าเสียของมั่ง ไม่ได้ฟิวด์ ฯลฯ ก็ว่ากันไป แล้วแต่ชอบนะขอรับไม่ว่ากัน
ส่วน 205 รุ่น T16 EVO (แน่ะทำยังกะมิตซู ไม่รู้ใครลอกใคร) เป็นตัวแข่ง WRC Group B (ที่ไม่ใช้กรุ๊ปเลือดนะครับ) เป็นเครื่อง 16 วาล์วเทอร์โบชาร์ท
ย้ายเครื่องยนต์ไปวางขวางกลางตัวรถซะงั้น ระบบขับสี่ล้อ Fulltime เครื่องรหัส XU8T 1,800 c.c. เทอร์โบของ Garrett 450 แรงม้าที่ 8000 รอบ กับน้ำหนักรถเพียง 910 กิโลกรัม
ว่ากันว่าแรงเป็นบ้าเป็นหลัง แรงระเบิดระเบ้อ
205 T16 ผลิตออกวางตลาดเพียง 200 คัน ตัวที่นำออกมาขายลดแรงม้าลงเหลือ 197 แรงม้านี่(ขนาดลดแล้วนะเนี่ย) ส่วนระบบอย่างอื่นเหลือนตัวแข่งทุกอย่าง
เนื่องจากการแข่งขันแรลลีสุดโหดปารีส-กักการ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความดังของเจ้าตัวเล็ก หลังจากครองแชมป์ ถึงสองปีซ้อนในปี 1987-1988 คราวหน้าจึงอยากจะโม้ถึง
ความเป็นมาเป็นไปของแรลลีหลุดโลก จะได้เอาไปคุยต่อ แต่จะเน้นเฉพาะที่เกี่ยวกับ PG 205 เท่านั้นนะครับ อันนี้เป็นการชนะแบบเต้มเส้นทางจากต้นจนจบนะครับ
ไม่ใช่ชนะครึ่งๆกลางๆ แบบรถกะบะบางยี่ห้อ (แหมคุยซะเว่อร์)
หารูปมาประกอบ 205T16 กับ 205 Rallye

