เรื่อง อืด นั้น โดยส่วนตัว ยอมรับ มาเสมอ ว่า 405 GRI อืด ครับ
เคยใช้ 405 คันแรก เป็น GR. เครื่องเดิม ใช้ไปสักพัก โอเวอร์ฮอร์น เครื่องใหม่ ฟิตเปรี๊ยะ
ออกตัว เกียร์ 1 ถึง 3 แตะ 100 ได้แล้ว เคยลองซัดแบบ กล้าๆ กลัว ก้อ 170 กว่า เกือบ 180
ใช้ได้ อีก ซักพัก ได้ GRI มาใช้งาน จับ แล้ว รู้สึกเลยว่า อืดอาจกว่า แต่ ต้องใจเย็นๆ ค่อย เล่น รอบไปเรื่อยๆ จนถึง เกียร์ 4 ถึงจะขึ้น 100 และ เล่นไปเรื่อยๆ แป็บ นึง ไอ้คันที่ออกตัวไฟแดง แบบ ปรู๊ดปร้าด มันจะตามหลังเราเอง
การเลือกใช้ รถ 2 -3 รุ่นนี้ ผมว่า GR. / SRI ได้เปรียบ วิ่งทางไกล / ระยะยาว ประหยัดน้ำมัน มากกว่า GRI
ส่วน GRI ได้เปรียบ ตรงวิ่งในเมือง รถติดๆ ประหยัดน้ำมัน กว่า
( วิ่งจาก ระยอง ไป น่าน คัน GR. ผมเคยทำได้ 14-15 กม. ต่อลิตร ที่ ความเร็วโดยเฉลี่ย 120-130 กม. แต่พอมาเป็น GRI เหลือ อยู่ที่ 11 - 12 กม. ต่อลิตร ในอัตรราความเร็วที่พอๆกัน )
ใน 306 ผม ไม่แน่ใจ ( เพราะยังไม่เคยใช้ ) แต่ จากที่ผมดูรูปทรง / เครื่องยนต์ ผมว่า เขา ออกแบบ 306 มาเพื่อ ความคร่องตัว สป๊อท ว่องไว ถูกใจ ตอบโจทย์ ขาซิ่ง ได้เป็นอย่างดี
โดยสรุป ส่วนตัว ( นะ )
GRI. น่า จะเป็นแนว เรื่องความประหยัดในตัวเมือง
GR. / SRI น่าจะเป็น วิ่ง ระยะทางไกล
306 น่าจะเป็น แนว สป็อท คล่องแคร่ว แรงและเร็ว
ผมไม่ได้ มี อคติ กับรุ่นใดๆ นะครับ
คิดว่าเป็นการ ตัดสินใจ เลือกซื้อ เลือกใช้ เพื่อตอบโจทย์ ผู้ขับขี่มากกว่า
เหมือนเรา เคยใช้คอมฯ เครื่องแรงๆ แล้วมา หยิบยืมเครื่อง เพื่อน มาใช้งานชั่วคราว แล้วไปเจอเครื่องที่ เก่ากว่า และ เสป็ค ต่ำกว่า จะ ทำให้ การสั่งงานมัน ช้า ไม่ทันใจเรา แต่ จุดมุ่งหมาย ก้อ คือ งานที่เราจะทำ และ ปลายทางที่เราจะไป นั่นเอง ถึงเหมือนกัน แต่อาจจะช้ากว่าหน่อย
ทุกวันนี้ ถ้าไปไหน ไม่ไกลและ ไม่เกิน 3 คน ผมก้อ เอา GRI ออกวิ่ง เพราะ ประหยัดน้ำมันกว่า
วันไหน วิ่งไกล ไปกันเยอะ ก้อ เอา เพื่อนเปอร์โยต์ ออกวิ่งแทน
GRI เติม E20 1000 บาท วิ่งได้ ประมาณ 250 -280 โล
เพื่อน เปอร์โยต์ เติมแบบเดียวกัน ระยะทางเท่ากัน วิ่งในเมือง ไม่ ถึง 200 โล เลย
ไม่ต้องคิดมาก ( กับ ผม นะ ไม่มีอะไร ) อยากแชร์ เรื่องความอืด เช่นกัน ( อืด แต่ประหยัด แรงแต่ กินกว่า )
เพื่อเป็นทางเลือก / การตัดสินใจ เลือกซื้อ เลือกใช้ ครับ
ผู้เขียน
